หนู : หนูสนใจจะรับ TA ชาวจีนโครงการของเอเอฟเอส ไปอยู่ที่โรงเรียนค่ะ หนูต้องทำอย่างไรบ้างคะ
ผู้เขียน : หนูต้องคุยปรึกษากับฝ่ายบริหารเรื่องงบประมาณ ที่จะต้องนำมาจ่ายเป็นเงินเดือน เดือนละ ๕๐๐๐ บาท หาครอบครัวอุปถัมภ์และให้เขากรอกข้อมูลลงใน Application form แล้วที่โรงเรียนไม่มีครูจีนเลยเหรอ
หนู : มีค่ะ มาจากโครงการฯ ของ สพฐ. อยู่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๒ แต่เห็นบอกว่าปีหน้าจะไม่เอาแล้ว แต่หนูอยากได้เจ้าของภาษามาช่วยพัฒนาฯจึงปรึกษากับหัวหน้ากลุ่มสาระฯ จะขอรับ TA ในปีหน้า
ผู้เขียน : ทำไมเขาจะยกเลิกล่ะจ๊ะ จริงๆครูจาก โครงการฯของ สพฐ .น่าจะดีกว่านะ เพราะครูที่มาส่วนมากเรียนจบแล้ว วุฒิภาวะย่อมดีกว่า TA ที่เป็นนักศึกษาปี ๓-๔ เพียงแต่ต้องจ่ายแพงกว่าเป็นเท่าตัว….แต่ก็ไม่แน่นะ TA บางคนอาจดีกว่าก็ได้
หนู : หนูก็ไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ปีนี้หลายโรงเรียนบ่นกันเป็นแถว บอกว่าคุณภาพไม่เหมือนเดิม อาจารย์รู้ไหมคะ ว่าเขาจ้างครูสอนภาษาอังกฤษเดือนละหกหมื่นบาท
ผู้เขียน : ฮ้า…… จ้างไปได้ไงเดือนละตั้งหกหมื่นบาท เขาสอนดีมากเลยหรือไง เป็น Native Speaker เชี่ยวชาญมาจากไหนเหรอ ติดต่อโดยส่วนตัวหรือว่าผ่านบริษัทฯ
หนู : ผ่านบริษัทค่ะ คนแรกเป็นฝรั่งแถบนิวซีแลนด์ อยู่ได้ไม่ถึง ๓ เดือน เปลี่ยนคนใหม่มาจาก Ghana เวลายิ้มเห็นแต่ฟันขาว คำว่า Monk ยังออกเสียงเป็น Mong เลยค่ะ
ผู้เขียน : โอ้โฮ.....ไกลโพ้นมาจาก Ghana แน่ะ....หายากนะเนี่ย....เฮ้ย….. แบบนี้ไม่ใช่แค่มีเงินก็จ้างได้นะ ต้อง …โ…. ง ... ไม้เอกด้วย เฮ้ออออ..... ยอมเสียเปรียบเขาได้ไง ถือว่าเขาผิดสัญญา อย่าว่าแต่ไม่ควรจ่ายให้ หกหมื่นบาทเลย ต้องเรียกร้องค่าเสียหายด้วยซ้ำ ที่ทำให้นักเรียนเราเสียโอกาส เสียดายงบประมาณ เสียดายเงินภาษี ที่นำมาใช้ไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ
พี่จุ๊บ : โรงเรียนพี่จ่ายให้พวกนี้ไม่เกิน สามหมื่นห้าพันบาท หากเป็นฟิลิปปินส์ไม่เกิน ๒ หมื่นห้าพันบาท เสียดายเงิน ทำไมต้องจ้างมันแพงขนาดนั้น สอนก็ไม่ดีไปกว่าคนไทย
ผู้เขียน : แต่สำเนียงเขาฝรั่งอ้ะนะ
พี่จุ๊บ : ที่ได้มาก็ใช่ จะเป็น Native Speaker แท้ แค่ผมออกสีทอง ฝรั่งข้างรั้วมากกว่า
พี่เอ๋ : ครูไทยบางคนสำเนียงภาษาอังกฤษไพเราะมาก สอนก็ดี น่าจะได้เงินเดือนพอๆ ชาวต่างชาติ นี่น้อยกว่ากันเกือบเท่าตัว
น้องนุ่น : อยากได้เงินเดือนสูงๆ พี่ต้องไปย้อมผมให้เป็นสีทอง และเปลี่ยนสัญชาติด้วย
พี่จ๊ะ : คนไทยนี่ก็แปลกนะ อยู่ๆก็แข่งกันเอาเงินตั้งมากมายไปจ้างพวกนี้ บางคนอยู่บ้านตกงาน แต่มารับจ้างสอนที่นี่ ได้เงินเดือนดีๆ อยู่แสนสุขสบาย ก็เหมือนคนไทยนั่นแหละ หากไม่ได้เรียนการสอนมาก็ใช่ว่าจะสอนได้ทุกคน
ผู้เขียน : แต่บริษัทเขารับรองนะ ว่าคนของเขามีประสบการณ์ในการสอน
พี่จ๊ะ : เชื่อถือได้ที่ไหนล่ะ ชาวต่างชาติบางคนอาจสอนภาษาอังกฤษได้ เพราะใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ได้มีเทคนิคการสอนที่น่าสนใจเลย จับมาสอนคอมพ์ สอนวิทย์ ฯ ทั้งๆที่ยังเข้าใจ Concept ไม่ดีพอ คงไม่ต้องไปพูดถึงผลการเรียนรู้ที่คาดหวังละมั๊ง
ผู้เขียน : แต่ผลกระทบอาจเห็นไม่ชัด เพราะอย่างไรผู้ปกครองเขาส่งเสริมให้เด็กๆไปเรียนพิเศษข้างนอกเพิ่มเติมอยู่แล้ว
พี่นันท์ : โรงเรียนพี่นะ ส่งไปต่อวีซ่า ดันไปถูกจับข้อหายาเสพติดและติดหญิงที่เขมรโน่นแน่ะ ถูกมันส่งกลับประเทศเฉยเลย จึงต้องหามาใหม่
พี่นุช : โรงเรียนพี่ก็เหมือนกัน เปิดเทอมมาไม่ถึง ๓ เดือน เปลี่ยนคนสอนมา ๕ คนแล้ว
น้องจุ๋ม : คิดอะไรมากมาย ถือว่าได้ฝึกฟังหลากหลายสำเนียง
พี่นันท์ : เนื้อหามันไม่ปะติดปะต่อน่ะซิ สุดท้ายจะกลายเป็นหนูทดลองยาก็ไม่รู้….
***** ปรับตัว-ปรับใจ-ปรับกลยุทธ์ ต้อนรับยุคทอง….. ของชาวต่างชาติ เพื่อยกระดับสู่การเป็น โรงเรียนมาตรฐานสากล World-Class Standard School *****
อาจารย์ธนิตย์คะ
* ผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทยไม่ค่อยมีโอกาสได้ลงมาสัมผัส-รับรู้โดยตรง ประสบการณ์บางเรื่องอาจรับรู้จากการรายงานที่มองแค่ไม่กี่มุม - หรือกระเทาะมาแค่เปลือกจากบางด้าน จึงทำให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นได้แค่การจินตนาการที่ยังลอยอยู่เหนือเมฆชั้นบน....
* เห็นด้วยกับการแต่งตั้งคณะะกรรมการสถานศึกษาฯ/สมาคมผู้ปกครองและครูสมาคมศิษย์เก่า ฯ/คณะกรรมการอื่นๆ รวมทั้งสภานักเรียนฯลฯ แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่หลายสถาบันฯ ยังมีการขีดเส้น-คุมเกม ให้คณะฯ เหล่านี้ปฏิบัติตามบทบาทได้แค่ผิวเผินเหมือนแก้บน หรือจำอวด
* ขอบคุณ อาจารย์ธนิตย์ นะคะที่ร่วม แสดงความคิด-ประสบการณ์ ด้วยกัน! หากข้อคิด-ความจริงบางอย่างไปกระทบ-กระทั่งบ้าง ก็ต้องขออภัย....เพราะแค่เจตนาที่จะสะท้อนข้อเท็จจริง ค่ะ
ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ครูไทยขาดความมั่นใจในการสอนต่างหาก ความจริงภาษอังกฤษ หากเริ่มที่กล้าพูด ย่อมทำให้อยากเรียนรู้
เมียฝรั่งอ่านหนังสือไทยแทบไม่ออกทำไมพูดกับสามีปร๋อ คนไทยไม่ค่อยจะใช้เองมากกว่าครับ
ไปดูโรงเรียนในฝันก็จ้างชาวต่างชาติผิวดำมาสอนครับ แต่เขาจัดบรรยากาศในโรงเรียนให้เป็นสองภาษา
ท่าน ผอ.คะ
ครูชาวไทยที่สอนภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ/ภาษาญี่ปุ่น/ภาษาจีน/ภาษาฝรั่งเศส/ภาษาเยอรมัน ฯลฯ)... หากไม่ได้รับการฝึกฝนจนเป็นปกตินิสัยที่จะใช้ภาษาเหล่านี้ฯสื่อสารในชีวิตประจำวัน หรือมีประสบการณ์ในการพุดคุยกับเจ้าของภาษาบ่อยๆ หรือไม่เคยไปฝึกอบรม-ศึกษาดูงานที่ประเทศของภาษาฯเหล่านี้ ย่อมไม่กล้าที่จะสอนด้วยภาษาต่างประเทศฯตลอดทั้งคาบที่รับผิดชอบ เฉกเช่นเจ้าของภาษาหรือผู้คนบางประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ ด้วยเหตุผลดังนี้:
๑. ขาดความมั่นใจ เพราะกลัวว่าจะพูดผิด อาชีพครูเกรงกลัวต่อการทำผิด โดยเฉพาะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเนื้อหา-โครงสร้างของภาษา(กฏเกณฑ์-ไวยากรณ์) และสำเนียง เพราะหากสื่อสารผิดๆไป ผลกระทบย่อมเกิดต่อนักเรียนที่เป็นผู้รับโดยตรง ภาษาอังกฤษของผู้ที่ได้ศึกษามาโดยตรง จะต่างกับภาษาอังกฤษของผู้ที่เลียนแบบชาวต่างชาติตามท้องถนน ก็คล้ายๆ กับการใช้ภาษาไทยในสังคมต่างระดับกันนั่นแหละค่ะ ดังนั้น ควรมีการส่งเสริมให้ครูภาษาฯได้อบรมและพัฒนาฯ บ่อยๆค่ะ
๒. รู้คำศัพท์ สำนวน ประโยค ในวงจำกัด นับว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญยิ่งต่อการสื่อสาร และยิ่งเป็นการสอนภาษาต่างประเทศฯ ที่ต้องมีการอธิบายความ ตัวอย่างประโยค สำนวน บทสนทนา ฯลฯ ด้วยแล้ว ยิ่งยากมากขึ้น รวมทั้งต้องฝึกทักษะทั้ง ๔ ให้กับผู้เรียน ครูผู้สอนต้องมีความรู้-ทักษะในขั้นสูงจึงจะได้ผล ดังนั้นเจ้าของภาษา( Native Speaker ) ที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูลทางบุคคล (Personal Resource) ยามที่เกิดข้อสงสัย-ปรึกษาปัญหา รวมทั้งใช้ตรวจสอบความถูกต้อง
สื่อ-เทคโนโลยีสมัยใหม่ และสิ่งแวดล้อมสมัยนี้เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน นักเรียนบางคนที่ีความพร้อมทั้งฐานะและสติปัญญา อาจมีโอกาสได้ฝึกฝนภาษาต่างประเทศมากกว่าครูบางคนด้วยซ้ำนะคะ
จากประสบการณ์ในการเรียน-และสอนภาษาทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น (และเคยเรียนภาษาฝรั่งเศส) มาหลายสิบปี Pually คิดว่าเข้าใจปัญหาการสอนภาษาต่างประเทศ มากพอสมควร และมีความเห็นใจครูผู้สอนภาษาต่างประเทศทุกท่าน ค่ะ
เคยมีเพื่อนสอนวิทยาศาสตร์ ไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน เขากล้าพูดและเอ่ยถามสิ่งต่างๆได้เร็วกว่าครูสอนภาษาอังกฤษที่ไปด้วยกัน เพราะไม่ได้คำนึงถึงกฏเกณฑ์ -ไวยากรณ์ ของภาษา หากพูดผิดก็ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ใช่ครูภาษาฯ ไม่มีแรงกดดัน พวกเรายังรู้สึกขำกันเอง ครูชาวอเมริกันท่านหนึ่งเคยเอ่ยว่า บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ว่าคุณจะสื่อว่า ได้ทำไปแล้ว หรือยังไม่ได้ทำ เพราะไม่มีวันเวลา บอก ไม่ได้เปลี่ยนกริยาให้เป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต แต่ครูภาษาฯอย่างเราก็ไม่อายที่จะยอมรับว่า ไม่รู้ -ไม่เก่ง พยายามเรียนรู้และพัฒนาตนอยู่เรื่อยๆ ค่ะ
ขอขอบพระคุณท่าน ผอ. นะคะ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนและแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ค่ะ
ดิฉันมีสามีเป็นชาวอังกฤษและใช้อินเตอร์เน็ตคุยภาษาอังกฤษแทบทุกวันได้เรียนรู้และพูดภาษาอังกฤษมา ประมาณ 7 ปีได้แล้ว ช่วงทีผ่านมาได้ดูหนังสือภาษาอังกฤษที่ทางโรงเรียนได้ติวเด็กนักเรียน สอบ O-net และดูคำเฉลย ที่คุณครูคนไทยแต่สอนภาษาอังกฤษ ได้ติวให้แก่เด็ก นักเรียน รู้สึกว่าจะผิดเยอะมาก เป็นของเด็กนักเรียนชั้น ป. 6 และการอ่านออกเสียงของเด็กไม่ดีมากๆ อ่านก็ผิด ออกเสียง ของ what เป็น เสียงของ was ถ้าได้ครูชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษา ก็คงดีเหมือนกัน เพราะจะทำให้เด็กได้เรียนรู้ สำเนียงและคำศัพท์ และกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษ และสามารถทำได้ดีในอนาคต