เคี้ยวอาหารช้าๆ สุขภาพดี สมองแข็งแรง


มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ผู้คนอาจมองข้ามอย่าง "การเคี้ยวอาหาร" กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ และส่งผลดีหลายประการต่อสุขภาพ

14 วันของรอมฎอน ปีนี้ จากเราไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร  ยังเหลือเวลาอีก 14 วัน    (โดยประมาณ) ให้ได้เก็บเกี่ยวผลบุญที่มีให้เก็บได้เกี่ยวในเฉพาะเดือนรอมฎอนเท่านั้น โดยเฉพาะ 10 คืนสุดท้าย**

ครับ...เก็บเอามาฝากเช่นเคย  เล็กๆน้อยๆ เพื่อสุขภาพที่ดี เผลอๆจะอยู่ได้ถึง  รอมฎอนปีหน้า...ใครจะไปรู้

 

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม... ก็การเคี้ยวอาหารของเราๆ ท่านๆ นี่ละครับ!!

           มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ผู้คนอาจมองข้ามอย่าง "การเคี้ยวอาหาร" กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ และส่งผลดีหลายประการต่อสุขภาพ

           ถ้าเคี้ยวให้ถูก-เคี้ยวให้เป็น...

          ไม่ใช่แค่เคี้ยวๆ กลืน!

           ข้อมูลจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเว็บไซต์ส่งเสริมความรู้วิทยาศาสตร์ "วิชาการดอทคอม" รวบรวมผลการศึกษาทางแพทย์ ซึ่งยืนยันผลดีของการฝึกนิสัยเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนลงสู่กระเพาะ

           เพราะข้อดีที่เห็นชัดเจนจะช่วยให้ระบบย่อยทำงานน้อยลง "การเคี้ยวให้ช้าลง" ยังมีผลต่อการทำงานของสมองในหลายๆ ด้าน เนื่องจากไปช่วยกระตุ้นให้ "ต่อมน้ำลาย" และ "ต่อมใต้หู" หลั่งฮอร์โมนออกมา

           นอกจากนั้น ยังช่วยกระตุ้นพลังแห่งการขบคิดและสมาธิ ตรงข้ามกับผู้ที่เคี้ยวอาหารไม่ค่อยได้หรือเคี้ยวเร็วไป สมองก็จะอ่อนแอตามไปด้วย

           ผลที่ตามมาก็คือ สุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาว

          โดยประโยชน์จากการเคี้ยวอาหารให้ช้าลง จะมีผลต่อดีสมองและร่างกาย ดังนี้

           1. เคี้ยวอาหารประมาณ 30 ครั้ง ในแต่ละมื้อเป็นอย่างน้อย จะช่วยให้เหงือกแข็งแรงและช่วยรักษาอาการอารมณ์หงุดหงิด เครียด และโมโหง่าย

          2. เคี้ยว 50 ครั้ง จะช่วยลดความวิตกกังวลของอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลากินอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่มากเกินความจำเป็นดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

           3. เคี้ยว 60 ครั้ง เหมาะสำหรับการเคี้ยวอาหารที่มีกากใยมากเกินไป ช่วยลดอาการท้องผูก การทำงานของสมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          4. เคี้ยว 80 ครั้ง ช่วยให้ประสาทสัมผัสไวขึ้น มีความจำดีขึ้น สามารถจดจำและจำแนกรสชาติของอาหารทั้งจากธรรมชาติและสารปรุงอาหารที่มีพิษ ต่อร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

           5. เคี้ยว 100 ครั้ง ทำให้คุณจัดการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว สงบ เยือกเย็น กินน้อยลง แต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก อีกทั้งช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ

           6. เคี้ยว 150 ครั้ง ระบบการทำงานกระเพาะและลำไส้ดีขึ้น และช่วยควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ

           7. เคี้ยว 200 ครั้ง ต่ออาหาร 1 คำได้ทุกมื้อ จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว

           ขณะเดียวกัน ยังช่วยให้สมองขบคิดกระบวนการคาดการณ์และวินิจฉัยปัญหาต่างๆ ได้แม่นยำมากขึ้น ฉะนั้น จึงไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างการเคี้ยวอาหารเพราะส่งผลดีต่อทั้งสมองและสุขภาพของคนเรา โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไรเลยเพียงแค่เสียเวลาเคี้ยวเท่านั้นเองครับ!

 

 ที่มา : http://thaihealth.co.th

หมายเลขบันทึก: 387741เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 14:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ คุณspidy

เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆเลยนะค่ะ

แต่ไม่เป็นไรค่ะเวลาที่เหลือเราก็ต้องรีบเก็บเกี่ยวผลบุญให้ใด้เยอะที่สุด

ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาฝากนะค่ะ

ถ้าวันไหนมีเวลาเยอะๆดิฉันก็เคี้ยวอาหารช้าๆเหมือนกันค่ะ

แต่ถ้าวันไหนไม่มีเวลาก็จะเคี้ยวอย่างเร็วๆค่ะ เพราะต้องรีบไปเรียนค่ะ

แต่ต่อจากนี้คงต้องมีเวลาให้กับการเคี้ยวเยอะๆแล้วละค่ะ

  • ถูกต้องแล้วล่ะครับ มันขึ้นอยู่กับ "เวลา"
  • วันไหนที่มีเวลาหน่อยก็ใช้เวลาในการเคี้ยวอาหารที่รับประทานเข้าไปกันหน่อยละกัน เผื่อจะได้รับรู้ถึงรสชาติที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนของอาหารนั้น
  • แต่ถ้าวันไหนรีบเร่ง ก็ทานให้น้อยๆ จะได้เคี้ยวน้อยๆ นะครับ
  • ฝากไว้นิดนึงนะครับ... ขำขำ ครับ

 

อย่าเคี้ยวอาหารเกินกว่า 250 ครั้ง ต่ออาหาร 1 คำ เพราะอาจจะทำให้ฟันคุณร่วงก่อนที่คุณจะได้กลืนอาหารที่คุณอุตส่าห์เคี้ยวมันถึง 250 ครั้ง

 

                                  

 

 

 

สวัสดีค่ะ

เดี๋ยวนี้ทำอะไรก็ดูจะรีบเร่งไปหมดค่ะ

รวมถึงการเคี้ยวอาหารด้วย ซึ่งจริงๆ มันเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียวนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท