Siriniran
นางสาว ศิรินิรันดร์ ปัญญาพูนตระกูล

อาการปลายนิ้วชา


ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใย

     สืบเนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ในแต่ละวัน  จนทำให้เกิดมีอาการแปลกๆ   ที่แขนและปลายนิ้ว  คือ  อาการชา  และใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะหาย

เลยอยากให้ทุกคนลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ  รับรองได้รับประโยชน์แน่นอนค่ะ

 


ปัญหาอาการชาที่นิ้วมือ และฝ่ามือ   เพราะการใช้เม้าท์อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ    ข้อมือถูกกดทับบ่อยและติดต่อกันเป็นเวลานาน
อาการที่พบบ่อย
• ชาบริเวณปลายนิ้วอาจจะเป็นนิ้วหัวแม่มือ, นิ้วชี้, นิ้วกลาง บางนิ้วหรือทั้ง 3 นิ้ว รวมทั้งนิ้วนางครึ่งนิ้ว
• อาการชาบางครั้งหายไปได้เอง หรือมีอาการชามากขึ้นตอนกลางคืน
• ชามากขึ้นเวลาทำงาน หรือชาตลอดเวลา
• มีอาการกดเจ็บบริเวณฝ่ามือ
ถ้าท่านมีอาการเช่นนี้ อาจจะเป็นภาวะที่เส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ

โครงสร้างของมือ ที่ทำให้มีอาการชาลักษณะนี้
เส้นประสาทที่มาเลี้ยงฝ่ามือทางด้านฝ่ามือจะมี 2 เส้น คือ
• เส้นประสาทมีเดียน (Median nerve) เลี้ยงฝ่ามือทางด้านนิ้วหัวแม่มือ, นิ้วชี้, นิ้วกลาง และนิ้วนางครึ่งนิ้ว
• เส้นประสาทอัลน่าร์ เลี้ยงฝ่ามือทางด้านนิ้วก้อย และอีกครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง

ความสำคัญ
เส้น ประสาทมีเดียน เข้าไปในฝ่ามือโดยผ่านอุโมงค์ (Carpal tunnel) โดยมีเยื่อพังผืด (Deep tranverse carpal ligament) ขึงระหว่างกระดูกข้อมูล

ใน อุโมงค์นี้ นอกจากจะมีเส้นประสาทมีเดียนแล้วยังมีเอ็นที่ทำหน้าที่งอนิ้วอีก 9 เส้น อยู่รวมกัน เส้นประสาทมีเดียนเมื่อคลอดอุโมงค์ข้อมือเข้าไปแล้ว จะไปแยกแขนงไปรับความรู้สึกที่นิ้วหัวแม่มือ, นิ้วชี้, นิ้วกลาง ครึ่งนิ้วของนิ้วนางและอีกแขนงหนึ่งจะเลี้ยงกล้ามเนื้อที่เนินฝ่าข้อมือด้าน โคนนิ้วหัวแม่มือ (Thenar eminence)

สาเหตุ
• การใช้งานของข้อมือที่มีการงอข้อมือ, หรือกระดกข้อมือมาก ๆ จะทำให้เยื่อพังผืดไปกดรัดเส้นประสาทมากขึ้น
• ปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่พบภาวะนี้ได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคพิษสุราเรื้อรัง, โรคไทรอยด์ และผู้ป่วยสูงอายุ เป็นภาวะที่อาจทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณส่วนต่าง ๆ ในอุโมงค์นี้น้อยลง เซลล์บางส่วนตาย มีอาการบวมของเอ็นเยื่อหุ้มเอ็นไปกดเส้นประสาทมีเดียนได้มากขึ้น

ข้อแนะนำ
ถ้า มีอาการชาปลายนิ้ว ลองขยับข้อมือ นิ้วมือเบา ๆ ถ้ามีอาการดีขึ้นหายชาได้ หรือมีอาการชาตอนกลางคืนบางครั้ง อาจจะมีสาเหตุจากการกดทับของเส้นประสาทมีเดียนในระยะแรก ๆ ได้

• ท่านควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมือที่อยู่ท่าที่ผิดปกติ เช่น ในท่องอข้อมือมาก ๆ การยกของ หรือการกระดกข้อมือมาก ๆ เช่น การยันพื้น, ดันสิ่งของต่าง ๆ
• การที่ใช้ข้อมือมากเกินไป
การ ปวด ขา กลางคืน บางท่านบอกต้องเอาข้อมือวางบนหมอนหรือบางครั้งต้องเอาหนังสือพิมพ์ม้วนผูก ติดกับข้อมือให้ข้อมืออยู่ในท่าตรงจะไม่ค่อยชา ก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง ข้อมือที่อยู่ในท่าปกติ ไม่หักงอพับไปด้านใดด้านหนึ่ง จะเป็นท่าที่เส้นประสาทถูกกดทับน้อยที่สุด
ถ้าแก้ไขด้วยตัวเองไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์

การรักษา
รักษาโดยวิธีไม่ผ่าตัด
1. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวข้อมือมากเกินไป รวมทั้งการรับแรงกระแทก, การสั่นสะเทือน บริเวณข้อมือ
2. การใส่เครื่องพยุงข้อมือ
3. การใช้ยา ส่วนใหญ่เป็นยาพวก NSAIDS (Non-steroidal antinflammatory drug)
4. การฉีดสเตียรอยด์ ในกรณีทานยาแล้วไม่ดีขึ้น และเป็นมาน้อยกว่า 1 ปี ได้ผลดีประมาณ 80% แต่มักจะไม่หายขาด

การผ่าตัดรักษา
• ในกรณีที่รักษาโดยวิธีไม่ผ่าตัดแล้วไม่ได้ผลหรือมีอาการปวด ชา มากขึ้น
• กรณีที่เป็นนาน หรือไม่ได้รักษา มีกล้ามเนื้อฝ่ามือด้านโคนนิ้วหัวแม่มือลีบ การผ่าตัดช่วยให้อาการชาลดลงแต่กล้ามเนื้อที่ลีบแล้วมักไม่ค่อยดีขึ้น

วิธีผ่าตัด
1.วิธีผ่าตัดแบบทั่วไป
เปิด แผลบริเวณข้อมือ ตัดเยื่อพังผืด บริเวณที่กดรัดเอ็นเส้นประสาทจะทำให้อุโมงค์ขยายออก โดยเฉลี่ยปริมาตรในอุโมงค์จะขยายเพิ่มขึ้น 24% หลังผ่าตัด ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นหาปวด ชา และกลับไปใช้มือได้อย่างเดิมเป็นส่วนใหญ่ (กว่าร้อยละ 80-90)

2.การผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้อง
ในผู้ป่วยหลังผ่า ตัดบางรายอาจจะมีปัญหาเรื่องเจ็บแผลเป็น บริเวณผ่าตัดทำให้มีการวิวัฒนาการเครื่องมือและเทคนิคการผ่าตัดขึ้นมาเป็น การเปิดแผลเล็ก ๆ บริเวณข้อมือใส่กล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในช่องอุโมงค์และตัดเฉพาะ เยื่อพังผืดจากด้านในอุโมงค์ขึ้นมา โดยไม่ต้องมีแผลบริเวณผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ช่องในอุโมงค์ขยายขึ้น ผู้ป่วยมีอาการหายปวดชาและเจ็บแผลผ่าตัดน้อย สามารถกลับมาใช้มือได้เร็วขึ้น วิธีนี้ต้องใช้เครื่องมือที่มีราคาแพง, และความรู้ความชำนาญของแพทย์ ติดต่อได้ที่ รพ.วิภาวดี
หมายเลขบันทึก: 387713เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 13:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 11:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ครับ เป็นประโยชน์มาก รู้แล้วจะได้ป้องกันไว้ก่อน

ชักเริ่มแก่แล้ว

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่าน

เป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานต่อไปค่ะ

ขอบคุณความรู้ดีๆ ค่ะ

ดีครับจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาอ่านสาระน่ารู้ เป็นประโยชน์อย่างมากมายเลยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

อาจารย์ก็เป็นเด้อ ขอบคุณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท