พบโรคใหม่น่ากลัว...อีสานอันตราย


"โรคนี้ในทางการแพทย์จะเรียกว่าเป็นยอดนักเลียนแบบ ซึ่งจะไม่มีอาการโดยเฉพาะ หากใครที่เป็นวัณโรค ก็จะมีอาการคล้ายๆ วัณโรค และมีอาการคล้ายกับโรคอื่นๆ อีกหลายโรค และหากอาการเป็นหนักถึงขั้นเชื้อแบคทีเรียตัวนี้เข้าไปในกระแสเลือดก็จะต้อง ตรวจเลือด และหากเจอเชื้อนี้ในเลือดก็จะต้องให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นจะเสียชีวิตเร็วมาก หากเทียบความน่ากลัวของโรคนี้กับไข้หวัดนกแล้ว เรียกว่าโรคนี้น่ากลัวกว่า เพราะโอกาสที่คนจะป่วยเป็นโรคนี้ มีมากกว่าจะป่วยเป็นไข้หวัดนกเสียอีก"

โรคเมลิออยโดสิส หรือโรคนักเลียนแบบ ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในดิน พบมากที่สุดในภาคอีสาน โดยเชื้อโรคนี้ทำคนไทยป่วยปีละกว่า 5,000คน และเสียชีวิตกว่า 40% หากเชื้อเข้ากระแสเลือด 48 ชั่วโมง โดยพบผู้ป่วยมากสุดในภาคอีสาน นักวิชาการระบุ น่ากลัวกว่าไข้หวัดนก ขณะที่อเมริกาสนใจศึกษาเป็นพิเศษ เหตุกลัวจะมีคนนำไปผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ

พบว่าโรคนี้ทำให้คนไทยป่วยปีละ 3,000-5,000 คน และ 80% ของคนที่ป่วยพบว่าเป็นคนอีสาน และที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือจำนวน 3,000-5,000 คน ที่ป่วยนั้น เกือบ 40% ล้วนเสียชีวิตหากรักษาไม่ทัน 

เชื้อที่ก่อโรคเมลิออยโดสิส ซึ่งเรียกว่า Burkholderia pseudomallei เป็นเชื้อแบคทีเรีย หากเข้าไปในกระแสเลือด และให้ยาฆ่าเชื้อไม่ทัน ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตภายใน 48 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบพบว่า ดินในภาคอีสานเป็นแหล่งเพาะเชื้อ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนเชื้อนี้จะแพร่กระจายเร็วมาก และในฤดูอื่นๆ เชื้อก็จะฝังในดินไม่ตายไปไหน หากหน้าดินถูกชะล้าง การกระจายของเชื้อก็จะมีมากขึ้น และเชื้อสามารถเข้าในร่างกายได้ทุกทาง นอกจากนี้บางคนอาจจะมีเชื้อโรคนี้อยู่ในตัวอยู่แล้วแต่ยังไม่แสดงอาการ แต่ถ้าวันใดที่ร่างกายอ่อนแอ หรือภูมิต้านทานโรคลดลงเชื้อนี้ก็จะเติบโตและแสดงอาการออกมา ทำให้เชื้อรุนแรงขึ้นและทำให้เสียชีวิตได้

"ในแต่ละปีประเทศไทยต้องสูญเสียเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา โรคนี้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยยาที่ใช้รักษาโรคนี้ราคาค่อนข้างแพง คนที่ป่วยจะต้องรับยาติดต่อกันประมาณ 20 สัปดาห์ถึงจะสามารถฆ่าเชื้อหมด โดยแต่ละวันจะต้องกินยา 3 เวลา ตกเม็ดละประมาณ 50-70 บาท เฉลี่ยแต่ละคนต้องเสียค่ารักษาประมาณ 3 หมื่นบาท ซึ่งหากนักวิจัยสามารถหาสาเหตุการเกิดโรค และหาตัวยามารักษาได้ ก็จะทำให้ประเทศไทยไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลมากขนาดนี้"

หลังเหตุการณ์ก่อการร้าย 911 ทำให้สหรัฐตื่นตัวเรื่องอาวุธชีวภาพมาก และยิ่งเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมา พบว่ามีชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย และรอดชีวิตกลับไป ติดเชื้อเมลิออยโดสิส หรือโรคนักเลียนแบบไปหลายคน กว่าจะรักษาหายก็ใช้เวลานาน จึงทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาสนใจ และศึกษาการเกิดโรคนี้ เพราะเกรงว่าอาจจะมีประเทศอื่นฉวยโอกาสนำไปผลิตใช้เป็นอาวุธชีวภาพได้ โดยจะให้ทุนสำหรับนักวิจัยศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ

น่ากลัวครับ ขนาดยักษ์ใหญ่อเมริกายังผวาจะกลายเป็นอาวุธชีวภาพ ชาวอีสานบ้านเราระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ...

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://koratsale.com

 

หมายเลขบันทึก: 387633เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2010 09:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณครับ บังเอิยมีญาติติดเชื้อนี้ และเสียชีวิตแล้ว คงติดมาจากทางยะลา เพราะแกไปบ่อย

  • ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
  • เอามาเขียนไว้เป็นความรู้ครับ จะได้ระวังกัน

น่ากลัวครับ แต่อาการเป็นยังไงครับ จะได้เรียนรู้และเผยแพร่ต่อกับเด็กครับ

  • สวัสดีครับท่าน ผอ.ครับ
  • จากแหล่งข้อมูลระบุว่า  โรคนี้จะไม่มีอาการโดยเฉพาะ หากใครที่เป็นวัณโรค ก็จะมีอาการคล้ายๆ วัณโรค และมีอาการคล้ายกับโรคอื่นๆ อีกหลายโรค และหากอาการเป็นหนักถึงขั้นเชื้อแบคทีเรียตัวนี้เข้าไปในกระแสเลือดก็จะต้อง ตรวจเลือด และหากเจอเชื้อนี้ในเลือดก็จะต้องให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อให้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นจะเสียชีวิตเร็วมากครับ
  • รู้สึกดีใจครับที่เด็กๆ จะได้รู้เท่าทันโรคครับ
  • ขอบคุณครับ

ขอโทษคะ แล้วอย่างกรณีเราหวัด ไม่มีไข้คะ แค่แน่นจมูก เสียงอู้อี้ (คือ 2 อาทิตย์แล้วก็ไม่หาย แล้วจะกลายเป็นโรคนี้ได้ไหมคะ)

  • เรียนให้ทราบครับ
  • ผมแค่นำเอาบทความ หรือความรู้ใหม่ๆ ของโรคมาเขียนไว้เป็นความรู้ แต่ไม่ได้เป็นหมอ หรือมีความรู้เกี่ยวกับโรคอะไรแต่อย่างใดครับ
  • ก็คงต้องแนะนำให้ไปพบแพทย์เป็นดีที่สุดครับ คุณ peerapan
  • ขอบคุณที่แวะมาครับ

เราทุกคนต้องรีบหาความรู้เกี่ยวับโรคไว้มากๆนะค่ะ จะได้แก้ไขปัญหาทันท่วงทีค่ะ

คุณพ่อ เป็น ค่ะ มีไข้สูง หลายชัวโมง ร่วมกับอาการปวดหัวรุ่นแรง ที่เสมหะ มีสีดำปน น้ำหนักลด อย่างรวดเร็ว ทานอาหารไม่ได้ คุณพ่อเป็นโรคเบาหวาน ดื่มสุรา ตอนนี้กำลังรับการรักษา


ok

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท