อ.นุ
วัชรชัย วิริยะสุทธิวงศ์

ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น


 

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยตั้งคำถามไว้ในหนังสือ Ideas & Opinions ที่เขาเขียน
หลังจากศึกษาพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง
และยกให้ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาสากลแห่งจักรวาล ว่า
"..การถ่ายทอดสื่อความหมาย ความเข้าใจในศาสนาพุทธ จากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง จะทำได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีการยึดถือเกี่ยวกับพระเจ้าหรือเทววิทยา เป็นเรื่องยากมากที่จะอธิบายความรู้สึกเช่นนี้ให้แจ่มแจ้ง เพื่อให้คนที่ไม่มีความรู้สึกเช่นนี้รับรู้และเข้าใจ..."

 

ไอน์สไตน์เองก็พบปัญหานี้มาทั้งชีวิต แม้จะเป็นเพียงการถ่ายทอดสื่อความหมายของกฎทางฟิสิกส์ให้คนทั่วไปเข้าใจ เขาเคยปรารภไว้ว่า "การอธิบายกฎทางฟิสิกส์โดยไม่ต้องใช้พีชคณิต คล้ายกับอธิบายความคิดเรา โดยไม่ใช้ถ้อยคำ"

 

พระพุทธองค์ใช้หลักของการเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ก็เป็นความเข้าใจตามความนึกคิด (จินตมยปัญญา) ส่วนความเข้าใจที่จริงแท้ (ภาวนามยปัญญา) พระพุทธองค์ก็ทรงอธิบายให้เข้าใจด้วยคำพูดไม่ได้ นอกจากลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ธรรมะเป็นของรู้ได้เฉพาะตน (ปัจจัตตัง) 

 

ทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ มีเป้าหมายเดียวกัน คือ...
หาวิถีทางที่จะทำให้มนุษย์พ้นทุกข์ หรือแสวงหาความจริงในธรรมชาติเพื่อการพ้นทุกข์


แต่มุมมองของวิทยาศาสตร์มองไปที่เหตุปัจจัยทางกายภาพ ว่าเป็นตัวการทำให้มนุษย์ทุกข์

 

ในขณะที่พุทธศาสนามองว่า ตัวการที่ทำให้มนุษย์ทุกข์ คือ ปัจจัยทางนามธรรมภายในตัวมนุษย์เอง

 

วิทยาศาสตร์มองว่า สิ่งเร้าประสาทสัมผัสทั้งห้า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้มนุษย์มีความสุข

 

แต่ศาสนาพุทธกลับมองว่า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส คือตัวการสำคัญที่ทำให้มนุษย์มีความทุกข์

 

จากความคิดที่ต่างกันสุดขั้วเช่นนี้ ทำให้ทิศทางของการแสวงหาความจริงในธรรมชาติ เพื่อการพ้นทุกข์ ระหว่างวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนาต่างกัน

 

วิทยาศาสตร์สามารถสร้างรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส มาบำเรอความสุขให้มนุษย์ จากการค้นพบความจริงบางอย่างของธรรมชาติ เช่น ทฤษฎีของไอน์สไตน์ ทำให้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย 

 

แต่ในทางกลับกัน พุทธศาสนา มองว่าความจริงทางธรรมชาติอย่างทฤษฎีของไอน์สไตน์ ไม่ได้ช่วยให้มนุษย์พ้นทุกข์

 

ดังนั้น แม้จะมีการค้นพบกฎของธรรมชาติเหล่านี้ พระพุทธองค์ก็จะทรงตัดทิ้งไปจากคำสั่งสอน และไปเน้นหนทางพ้นทุกข์ที่ค้นพบจากกฏของธรรมชาติเพียงข้อเดียวคือ ปฏิจจสมุปบาท อิทัปปัจจยตา  โดยศึกษาที่ความจริงแท้ของจิตเท่านั้น

 

 

หนังสือเล่มนี้ จะช่วยเปิดมุมมองด้านพุทธศาสนา ด้วยคำตอบทางวิทยาศาสตร์

หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่อธิบายธรรมะกับวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ (อุตุนิยาม) ได้อย่างสมบูรณ์ ควรค่าแก่การอ่านและแนะนำกัลยาณมิตรครับ

แนะนำหนังสือน่าอ่าน เล่ม ๑๖

ชื่อหนังสือ : ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น

ผู้แต่ง : ทันตแพทย์สม สุจีรา

สำนักพิมพ์ : อมรินทร์  (พิมพ์ครั้งที่ ๖๕)

หมายเลขบันทึก: 386542เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2010 13:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอบพระคุณ กับการแนะนำหนังสือดี ๆ ให้อ่าน นะครับ

สวัสดีครับ..คุณแสงแห่งความดี
ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ

เคยเห็นที่ร้านหนังสือเหมือนกันค่ะ

ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีๆนะคะ

  • ขอขอบคุณ สำหรับชี้แนะ ชี้นำทางสว่าง ครับ

สวัสดีครับ คุณKRUDALA
หนังสือเล่มนี้ มีคุณค่า..น่าอ่านมากครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณสามสัก
ธรรมะนำทางสว่าง และสามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ครับ

ขอบคุณครับ

 

เล่มนี้ครูหลิว อ่านแล้วค่ะ คุณ อ.นุ

 หมอสมเขียนดีจริง ๆ ค่ะ แน่ใจได้เลยว่าพระพุทธเจ้า - พระพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ 

ขอบคุณ..คุณครูหลิว..มากครับ
ที่ช่วย Confirm ว่า หนังสือเล่มนี้มีคุณค่าน่าอ่านจริงๆ ครับ

สุดยอดมากอ่านแล้วรู้สึกปล่อยวางมาก

ขอบคุณที่แวะมาครับ คุณชินโรจน์ ...

  • ได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้บ่อยครั้ง
    แต่ยังไม่เคยอ่านสักที
  • ขอบพระคุณที่แนะนำค่ะ

ยินดีครับ คุณธรรมทิพย์Ico48

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท