|
|||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||
บนถนนที่รถติด อากาศร้อนตับแตก เราติดแหง่กอยู่ในรถด้วยความหงุดหงิด พลางคิดว่าเมื่อไหร่จะถึงบ้านเสียที แต่พอถึงบ้าน แทนที่จะพัก เราวางกระเป๋า จับไม้กวาดทำความสะอาดบ้านที่ไม่สะอาด พลางคิดว่าพอทำงานบ้านเสร็จละก็จะได้มีความสุข พอทำงานบ้านเสร็จ เราเห็นทีวีก็อดที่จะเปิดไม่ได้ พลางคิดว่าดูรายการนี้จบแล้วค่อยว่ากัน หลังจากนั้นสามีก็กลับถึงบ้าน และ ชวนเราพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตที่ทำงาน เราฟังอย่างขอไปที พลางคิดว่า ถ้าฟังเสร็จเราน่าจะมีความสุขซะที!!!แต่ใช่หรือไม่ เราไม่เคยมีความสุขเลยนิสัยที่ไม่เคยอยู่ในปัจจุบันเช่นนี้ ทำให้เราไม่เคยมีความสุขกับปัจจุบัน ไม่มีความสุขไม่ว่าอยู่ที่ไหน เพราะเราเฝ้ารอแต่ความสุขที่อยู่ ในอนาคต เราจึงเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนรนและหงุดหงิด สร้างความทุกข์ให้กับตัวเราเองและคนรอบข้างเสมอๆคำว่า "อารมณ์" คำเดียวเหมือนเล่นตลก ทำให้คนเป็นบ้า เกรี้ยวกราด เศร้าซึม และฆ่ากันตายได้ ราวกับเราไม่ใช่ตัวเราภิกษุณีนิรามิสา จากหมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส ชักชวนเราฟังเสียงระฆังแห่งสติ พร้อมร้องเพลง "ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก" เพื่อตระหนักรู้ลมหายใจและอารมณ์ของเรา ในงานปาฐกถาธรรม "ศิลปะแห่งการดูแลอารมณ์" ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในวันพุธ ที่ 3 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา
ภิกษุสมุทรธรรม ธรรมาจารย์ชาวออสเตรเลียจากหมู่บ้านพลัม บอกกับเราว่า การหายใจและการทำสมาธินั้นมีหน้าที่ 4 อย่างคือ การหยุด การสงบ การพักผ่อน และ การเยียวยาการหยุด คือ หยุดที่จะวิ่งหาความสุขในอนาคต เศร้าโศกกับอดีต อยู่ในปัจจุบันขณะ , การสงบ จะทำให้จิตใจนิ่งเหมือนทะเลสาบ ที่นิ่งใส เราไม่ถูกดึงพาไปกับอารมณ์ ทำให้เราสามารถมองสถานการณ์ดั่งที่มันเป็น การหยุดและความสงบจากการทำสมาธิ อย่างต่อเนื่องนี่จะค่อยๆ ผ่อนคลายและทำให้เราการเยียวยารากแห่งอารมณ์ของเราได้ไม่เป็นไรเลยที่เราจะโกรธ หากแต่เราต้องฝึกปฏิบัติกับความโกรธ การดูแลอารมณ์ของตัวเองเหมือนกับการดูแลทารกน้อยๆ เมื่อเด็กน้อยร้องไห้ เราจะเข้าไปมาโอบอุ้ม พลางร้องเพลงให้เด็กน้อยสงบลง จากนั้นจึงค่อยๆ ดูว่าเขาต้องการอะไร เขาไม่สบาย หรือไม่ได้เปลี่ยนผ้าอ้อม เช่นเดียวกับอารมณ์ของเราที่ต้องการพลังแห่งสติมาโอบกอดเอาไว้ เราค่อยๆ หยุดพายุแห่งอารมณ์ มองให้ลึกซึ้ง เราก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา” หลวงพี่สมุทรธรรมกล่าว
|
ไม่มีความเห็น