KM0008 : รามเกียรติ์


ไม่ว่าจะต้นกำเนิดคือ รามายณะ หรือรามเกียรติ์แบบไทย ก็ล้วนแฟงไว้ด้วยความเชื่อทางศาสนา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพราหมณ์หรือพุทธ ก็ล้วนที่จุดมุ่งหมายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งสิ้น

วันนี้ได้มีโอกาสไปชมภาพยนต์แอนิเมชั่น เรื่อง รามเกียรติ์ เข้าใจว่าเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวัน ๑๒ สิงหา มหาราชินี ซึ่งโรงภาพยนตร์ในเครือ SFX เข้าร่วมโครงการและเปิดให้ชมฟรี โดยส่วนตัวมีความชอบดูโขนเรื่องรามเกียรติ์มาตั้งแต่เด็กแล้ว (เข้าใจว่าโขนคงมีเรื่องนี้เรื่องเดียว) งานนี้จึงไม่พลาด เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจมาก โดยใช้ภาพจากจิตกรรมฝาผนังมากทำให้เป็นภาพเคลื่อนไหว เติมสีสันด้วยฉากที่สวยงาม บทบรรยายและบทพากย์ที่สนุกเข้าใจง่าย ผมพาลูกไปดูด้วยก็กลัวว่าจะงอแงดูไม่จบ (ลูกผม ๕ ขวบ) แต่ตรงกันข้ามกลับนั่งดูจนจบและบอกว่าสนุกด้วยซ้ำ หรืออาจเป็นเพราะปอปคอร์นก็ไม่แน่ใจ

พูดถึงเรื่องราวก็เป็นเรื่องตั้งแต่กำเนิดทศกัณฑ์ ตอนยังเป็นยักษ์นนทกทำหน้าที่ล้างเท้าให้กับเทวดาที่ขึ้นไปเข้าเฝ้าพระอิศวรบนเขาไกรลาส จนมาถึงอวตารของพระนารายณ์มาเป็นพระราม ภาพยนตร์มาจบลงตอนที่ พระราม พระลักษณ์ และนางสีดาถูกนรเทศออกจากเมือง เนื่องจากการรักษาสัตย์ของพระทศรถผู้เป็นพระบิดาซึ่งได้ให้พรกับมเหสีองค์หนึ่งไว้ และมเหสีองค์นั้นจึงขอพรให้เนรเทศพระรามให้ไปบวชในป่า 14 ปี และให้โอรสของตนครองเมืองอโยธยาแทน รายละเอียดคงหาอ่านได้ทั่วไปครับ สำหรับภาพยนตร์ก็ทำได้ละเอียดดีครับ  บางเรื่องผมยังเพิ่งทราบหรือลืมไปแล้วก็มี ความยาวประมาณ ๔๐ นาที จะว่าไปรามเกียรติ์ที่เราทราบในปัจจุบัน ถูกพระราชนิพนธ์ขึ้นมาใหม่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ ดังนั้นจึงมีการปรับแต่งจากต้นฉบับคือ รามยณะ อยู่บ้าง มีการนำเอาแนวคิดแบบพุทธเข้าไปผสมผสานอยู่พอสมควร

ผมได้ข้อคิดอะไรจากการมาดูภาพยนต์เรื่องนี้บ้าง

๑) มีการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างน้อย ผมทราบได้จากโทรทัศน์ช่องหนึ่งซึ่งไม่มีรายละเอียดอะไรมาก ใครเป็นผู้จัดทำ เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร เพราะเมื่อเข้าไปดูจึงทราบว่าถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ ตอนที่นำมาฉายชื่อว่า "ธรรมแห่งราชา" (ถ้าจำไม่ผิด) เนื้อหาตามที่ผมกล่าวตอนต้น ตอนจบได้โปรยไว้ว่ามีตอนต่อไป แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะฉายเมื่อไหร่

๒) เมื่อไปถึงโรงภาพยนต์ก็เช่นเดียวกันไม่ค่อยมีการประชาสัมพันธ์ ผมต้องไปต่อคิวซื้อตั๋วเหมือนคนที่ดูภาพยนต์ทั่วไป ซึ่งยาวพอสมควรเพราะเป็นวันหยุด โดยเฉพาะมีคุณพ่อคุณแม่พาลูกๆมาดู Toy Story กันมาก เมื่อถึงคิวผมเดินเขาไปที่เคาเตอร์กลับถูกชี้ให้ไปช่องสุดท้ายซึ่งไม่มีคนรอเลยและก็ไม่มีป้ายอะไรบบอกว่าให้มารับตั๋วที่ช่องนี้ ความคิดผมไม่อยากให้เกิดความแตกต่างระหว่างภาพยนต์ที่เสียเงิน กับภาพยนต์ที่ไม่เสียเงินหรือฟรี เพราะผู้มาชมไม่ได้เป็นผู้กำหนดว่าชมฟรี เพราะแม้เสียเงินผมก็พร้อมที่จะดู

ทั้งข้อ ๑ และ ๒ หากมีการปรับปรุงได้ก็จะดีมากครับ เพราะแนวคิดเรื่องนี้ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

สำหรับข้อคิดจากรามเกียรติ์ ในตอนนี้ก็มีอยู่อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะต้นกำเนิดคือ รามายณะ หรือรามเกียรติ์แบบไทย ก็ล้วนแฟงไว้ด้วยความเชื่อทางศาสนา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพราหมณ์หรือพุทธ ก็ล้วนที่จุดมุ่งหมายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งสิ้น การที่พระรามออกไปอยู่ป่าเพื่อให้พระบิดาทำตามพรที่ให้ไว้ก็ถือเป็นสัจจะบารมี ที่ควรมีในพระราชา การต้องออกไปอยู่ป่าก็เป็นการสร้างขันติบารมี เพื่อที่จะต่อสู่กับมารหรือกิเลส ซึ่งในเรื่องก็คือยักษ์ทศกัณฑ์นั่นเอง ในเรื่องยังพูดถึงเรื่องทศพิธราชธรรมอีกด้วย จะว่าไปก็ไปใกล้เคียงกับแนวคิดเรื่อง ไซอิ๋ว ของจีน ที่ผมเคยได้อ่านเหมือนกัน โอกาสหน้าจะมาเขียนให้อ่านครับ วันนี้ไม่ขอยกมาเปรียบเทียบกับ KM นะครับ เดี๋ยวจะเครียด ก็สรุปว่าคุ้มค่าครับสำหรับวันนี้

คำสำคัญ (Tags): #km
หมายเลขบันทึก: 384561เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2010 23:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 19:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท