ผีบนอ๊อฟฟิตผลิต
การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องมีการเพิ่มผลผลิตเกินกว่ากำลังการผลิตของเครื่องจักรในช่วงเวลาที่กำหนดในตอนกลางวันได้นั้น ทางเลือกอีกอย่างที่ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัวก็คือการเปิดการทำงานในช่วงเวลากลางคืนอีก 1 กะ
บางที่เรียกการทำงานกะกลางคืนว่า กะกลางคืน บางที่เรียก กะ2 แล้วแต่
แต่ที่เหมือนกันคือพนักงานต้องมาทำงานกันในตอนกลางคืน
เคยสอบถามหลายแห่ง หลายสถานประกอบการว่าการทำงานกลางวันกับกลางคืนกะไหนได้เป้าเร็วกว่ากัน?
กลางคืน
เพราะอะไร?
ไม่ตอบ
ในแผนกประกอบ ช่วงที่ผมเป็นหัวหน้าแผนกอยู่ก็เช่นกัน พนักงานจะร่วมด้วยช่วยกันทำงานเป็นอย่างดี ไม่มีเสีย ไม่มีเคลม ได้เป้าตลอด ในช่วงที่ผมทำงานกะกลางคืนอยู่ 3 ปี ไม่เคยออกกะเลยนั้น เมื่อดูกะกลางวันจะเห็นได้ว่าน้อยมากที่จะผลิตงานได้ตามเป้าหมาย
แต่กลางคืน 99 เปอร์เซ็นต์ ได้เป้าตลอด
ที่ไม่ได้เป้าก็อาจมาจากปัจจัยตัวอื่นๆ เช่น เครื่องจักรเสีย ชิ้นงานขาดไลน์ เท่านั้น คนครบหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแต่ถ้าคนหยุดงานมาก คนที่มาก็เหนื่อยหน่อยเท่านั้นเอง
ด้วยมนุษย์เป็นสัตว์ที่ต้องทำงาน ทำกิน ติดต่อสื่อสารกันกลางวัน และช่วงกลางคืนเป็นช่วงที่พักผ่อน
การพักช่วงเที่ยงคืนก็จะมีการนอนหลับกันเป็นการพักผ่อนช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง
สำนักงานของฝ่ายผลิต ส่วนประกอบ เป็นสำนักงานเล็ก อยู่กลางโรงงาน ช่วงเวลาเที่ยงคืนก็จะมีหัวหน้า ลีดเดอร์ ขึ้นไปนอนหลับกัน เพราะมีแอร์
ส่วนผมเองไม่ได้นอนเพราะจะเป็นคนที่คอยดูแลพนักงานของตนเอง และก็มีพนักงานบางส่วนที่ไม่นอน มานั่งคุยกันในเรื่องต่างๆ อาจเป็นความรู้ทั่วไปที่มาแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เรื่องครอบครัว แล้วแต่กรณี ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอาเรื่องมาจากไหนมาพูดคุยกันได้ทุกวัน
ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำงานเลย จู่ๆ น้ารณ ก็เดินลงมาจากออฟฟิต ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ
สงสัยปวดท้องมั้ง
หันไปดูอีกที คราวนี้น้าบุญศรี วิ่งลงมาจากออฟฟิต แล้วตรงมาทางผมกับพนักงานที่นั่งคุยกันอยู่
พี่เหน่ ช่วยด้วย ๆ ๆ
มีอะไร?
ผี ผี ผีหลอก มันจะเหยียบผม
หน้าตาตื่น มากอดผมแน่นเชียว
นั่นไง ๆ ดูซิ มันยังมองผมอยู่เลย
ท่าทางแกกลัวมากผมจึงเดินไปใกล้ๆ ออฟฟิต เพื่อดูหาสิ่งผิดปกติ ถามว่ากลัวไหม ก็กล้าๆ กลัว เหมือนกัน แต่ ไฟสว่าง และมีพนักอยู่สามสี่คน ก็เลยไปดูหน่อย
ไม่เห็นมีอะไรเลย
น้าบุญศรี นั่งที่เก้าอี้แล้วเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก่อนที่จะเล่าให้ฟัง
สักพักคนที่นอนอยู่บนออฟฟิตก็ทะยอยกันเดินออกมาจากห้องแยกย้ายกันไปเงียบๆ
“ผมกำลังเคลิ้มจะหลับอยู่แล้วเชียว รู้สึกว่ามันมาตัวใหญ่มาก ขาเท่าๆ ต้นเสาเลยเชียวนะพี่เหน่” น้าบุญศรีเล่าให้ฟังแบบจิตใจยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
พอผมลืมตาได้ ยังเห็นขามันอยู่เลย ผมก็เลยลุกวิ่งออกมานี่แหละ สงสัยไอ้พวกนั้นก็โดนเหมือนกัน ลงมากันหมดแล้วนี่
ไม่มีอะไรหรอกมั้ง คงนอนทับแขนตัวเองละซิถึงได้ขยับตัวไม่ได้ ผีไม่มีร็อก
แต่น้าบุญศรีแกไม่เชื่อ ทำอย่างไรก็ไม่เชื่อ เพราะแกว่าแกเห็นกับตาตัวเอง
มันเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้นะครับเรื่องความเชื่อ
และก็ไม่มีใครขึ้นไปนอนบนออฟฟิตอีกเลย
ดีจัง!!
sekpornsawan boonpetch
ไม่มีความเห็น