พระใหม่


ไม่เป็นไรหรอกหลวงตา ไม่มีใครใส่บาตรก็จะให้โยมพ่อ เอาปิ่นโตมาส่ง หลวงตาตอบก่อนหันหลังกลับ “ไม่ใช่ท่าน..... กู”

พระใหม่ 

ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชายชาวพุทธ ต้องบวชเพื่อเป็นการทดแทนค่าน้ำนมของบุพการี คือพ่อแม่ ที่เรียกได้ว่าเป็นพระในบ้านของเรา

ผมเองก็บวชเหมือนกัน ด้วยความเรียบง่าย ไม่มีงานเลี้ยง งานฉลองที่ใหญ่โต อะไร

โกนผมเข้าวัด แล้วทำบุญฉลองพระใหม่ที่บ้าน ก็เป็นอันเสร็จพิธีแล้ว

สองพรรษาที่บวชอยู่ที่วัด ที่บ้านเกิด มีหลายหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้พบเห็น

กุฏิที่พักอาศัย เป็นห้องเดียวกันกับครั้งที่ปู่บวชอยู่ เพราะเคยเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บ้างเมื่อคราวโรงเรียนปิดเทอม

กุฏิเป็นกุฏิไม้ ที่มีที่มาหลากหลาย

เสาต้นหนึ่งเป็นเสาที่มีตะปูขนาดห้านิ้วตอกไว้

เริ่มสังเกตุได้ว่าตะปูมันไม่ได้ถูกตอกจนจมหัวตะปู

ก็ไม่ได้คิดอะไร

ทุกวันพระกลางเดือน กลางดึกจะมีเสียงดัง เปรี๊ยะ ตะปูจะขยับออกมานิดหนึ่ง

มันคงเกิดจากสภาวะอากาศที่ชื้นทำให้เกิดแรงอัด จนตะปูถอยออกมานั่นแหละ ตามหลักวิทยาศาสตร์

หลวงตาบอกว่าท่านกลัวหรือเปล่า

มีอะไรต้องกลัวหรือครับหลวงตา

ผี

ผมเป็นพระนะหลวงตา ... ผีไม่กลัวผมหรือ ผมตอบอย่างนั้นเพราะไม่เชื่อว่าผีมีจริง

เสาต้นนั้นเป็นเสาตกน้ำมัน แล้วมีคนเขาสะกดไว้ด้วยตะปูอาคม

ผมไม่กลัวหรอกครับ แต่ไม่อยากเจอ

กลับห้องผมก็เอาฆ้อน ตอกตะปูให้มันจมมิดหัวไปเลย มันก็ไม่น่าเชื่อ นะครับ ทุกวันพระกลางเดือนตะปูมันจะขยับออกมาทุกครั้ง

ทำไมวันธรรมดามันไม่ขยับออกมาล่ะ

ไม่รู้

ไม่มีใครตอบได้อย่างดี

ช่างมัน

ออกได้ก็ตอกเข้าได้ ไม่เห็นจะเป็นอะไร

ในพรรษาสอง เมื่อเสร็จหน้านาก็เริ่มมีนาคใหม่เข้าวัด

เสียงท่องขานนาคดังไปทั่ววัด

คนละมุมวัด ท่องกันไป

เมื่อมีพระหนุ่มเข้ามาใหม่ หลายองค์ หลายรูป ความคะนอง ความดื้อก็เริ่ม เหมือนเด็กน้อยมารวมกัน

สองสามทุ่ม บ้านนอกก็ค่ำแล้ว ผู้คนเข้าบ้านกันเงียบ

ที่วัดเริ่มคึกคัก

พระหนุ่มๆ อาศัยความมืด ออกกำลังกายกัน

เตะบอล

ลิงชิงบอล

อ้าวเปลี่ยนจากพระเป็นลิงไปซะแล้ว ทำให้นึกคำภาษาอังกฤษ

Monk (มังค)คือ พระ (องค์เดียว)

Monkey (มัง-คิ) ลิง (คือพระหลายองค์ที่เล่นลิงชิงบอล)

คิดไปได้ไง บาปกรรม บาปกรรม

หลวงตาคงจะทนไม่ได้ เอาผ้าเช็ดน้ำหมากพาดบ่า เดินไปหาพระหนุ่มเหล่านั้น พลางก็พูดเปรยๆ ว่า

นี่พวกท่าน ทำอะไรก็ระวังบ้างนะ เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะไม่ใส่บาตรให้กิน    จะไม่มีอะไรฉันกันนะ ท่าน

หนึ่งในพระหนุ่มตอบ

ไม่เป็นไรหรอกหลวงตา ไม่มีใครใส่บาตรก็จะให้โยมพ่อ เอาปิ่นโตมาส่ง

หลวงตาตอบก่อนหันหลังกลับ

“ไม่ใช่ท่าน..... กู”

เออใช่พระหนุ่มไม่ใช่ปัญหาถ้าไม่มีใครใส่บาตร แต่หลวงตาเล่าใครจะเอาปิ่นโตมาส่ง

ผมกับท่านต๋อง ท่านชาติ ก็เลยตามหลวงตาไปนั่งคุยในเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในวัดว่ามีอะไรบ้างเพราะผมไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายยามค่ำมืดเช่นนี้

แต่ละรุ่นก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกันไป จากการกระทำของเขาเอง หลวงตาว่าอย่างนั้น

บางท่านก็ นอนหลับแล้วสะดุ้งตื่นกลางดึก เห็นสตรีสาวสวมชุดขาวผมยาว นั่งหวีผมที่ขอบหน้าต่าง

บ้างก็ถูกผีอำ

บ้างก็มีคนมาดึงขา

ทำไม่เกิดเรื่องอย่างนั้นเล่าครับหลวงตา

มันขี้เกียจสวดมนต์ก่อนนอนกันนะซิ

และพระที่โดนทำไงเล่าครับ

มันก็ไปสุมหัวกันห้องละสององค์สามองค์นะชิ

อ้าวแล้วไม่ผิดหรือครับ

ไม่เป็นไรหรอก

แล้วหลวงตาไม่โดนบ้างหรือครับ

หลวงตาหัวเราะหึ หึ ยิ้มเหงือกแดงก่อนตอบ

“ไม่เคยโดนร็อก... ผีมันคงขี้เกียจปลุกหลวงตาให้ตื่นขึ้นมาให้มันหลอกนะซิ”

จริงๆ แล้วไม่ใช่ท่านขี้เซาหรอกนะครับ เพราะท่านมีวิชา อาคมบ้างนั่นเอง ท่านจึงไม่กลัว

ผมเองก็ได้จากท่านมาบ้างเหมือนกัน จึงได้เตะผีซะติดข้างฝาไปไงล่ะ หุ หุ หุ

 

sekpornsawan  boonpetch

หมายเลขบันทึก: 382051เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2010 16:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 08:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท