lสวัสดีค่ะ km4fc
ได้อ่านวิวาทะว่าด้วยเรื่อง ชุมชน กับเพื่อนเก่าแล้ว จึงจะขอพูดถีงเรื่องที่เกี่ยวๆกันบ้าง
ขณะนี้เรื่องการออม และเรื่องกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติกำลังเป็นเรื่องสำคัญที่มีข่าวลง น.ส.พ.และสื่ออื่นๆทุกวัน และเคยจำได้ว่า km4fc เคยกล่าวถีงตัวเลข 12 ล้านคนเอาไว้ ขอขยายความเพิ่มว่าเป็นความจำเป็นที่จะต้องสร้างระบบความคุ้มครองสำหรับแรงงานในระบบการจ้างงาน ให้แก่แรงงาน 12 ล้านคน เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีภายหลังวัยทำงาน ซึ่งสามารถทำได้ ด้วย 12 ล.คน นั้นอยู่ในระบบมีความพร้อมหลายๆประการ
แต่น่าคิดว่าคนที่ไม่อยู่ในระบบการจ้างงาน เป็นคนทำงานอิสระ เป็นเกษตรกร เป็นคนไม่มีนายจ้าง จะจัดระบบให้อย่างไรดี
ก็เลยมาคิดได้ว่าระบบชุมชน น่าจะเป็นกลไกในเรื่องนี้ได้ และโดยเฉพาะในชุมชนที่มีการจัดทำกลุ่มการออม เพราะมีการจัดสวัสดิการอยู่แล้ว เรามาหาทางขยายความคิดเรื่องระบบบำเหน็จบำนาญให้กับคนกลุ่มนี้โดยกลไก ชุมชนกันดีกว่า เพื่อเป็นการสร้างตาข่ายความคุ้มครองมิให้ผู้ที่พ้นวัยทำงานในกลุ่มนี้ที่มีมากกว่า 20 ล.คน จะได้อยู่ดีมีสุขตามอัตภาพ ช่วยกันคิดค่ะ
ตรงเผงเลยครับ ผมอ่านหนังสือเงินตราแห่งอนาคต ผู้เขียนให้ข้อมูลจากสถิติว่า ประชากรสูงอายุจะเป็นประเด็นหลักที่กระทบต่อการมุ่งไปสู่สังคมอุดมสมบูรณ์ที่ยั่งยืน
การจัดระบบการออมด้วยแนวคิดสัจจะลดรายจ่ายวันละ 1 บาททำสวัสดิการภาคประชาชนของครูชบ ยอดแก้ว เป็นนวัตกรรม ที่ล้ำเลิศ นอกจากนี้ครูชบยังพูดถึงทุนอื่น ๆในชุมชนอีก 6 ทุน ซึ่งผมคิดว่าสามารถนำมาพัฒนาเป็นระบบเงินตราอนาคตเสริมระบบเงินตราในปัจจุบันเพื่อแก้ปัญหาสังคมประชากรผู้สูงอายุ อีกทางหนึ่งด้วย แต่ผมคิดวิธีการไม่ออก ต้องพึ่งปัญญาครูชบ ยอดแก้วทำภาค 2 ต่อจากการออมทุนเงินตราด้วยการลดรายจ่ายวันละ 1 บาทแล้วละครับ
ผมยังหาBlogพี่ไม่เจอเลยครับ
สวัสดีค่ะ
ยังไม่ค่อยคุ้น บางทีก็หาไม่เจอเหมือนกัน ดังนั้นเมือวานนี้เลยเขียนเรื่องที่อยากเขียน ลงในข้อคิดเห็นแทน และ เวลาหาบล็อกของคุณภีม P'Sue ก็ใช้วิธีหลายวิธี ที่แน่ๆคือเอารูปมือไปคลิกตรงที่มีเรื่องของคุณ
ตอนนี้ยุ่งสุดๆเพราะพรุ่งนี้ 15 กย.ต้องเสนอผลการศึกษาเรื่อง ความเหมาะสมของระบบการออมเพื่อสวัสดิการและการชราภาพโดยใช้ชุมชนเป็นกลไกดำเนินการ แล้วจะเล่าในblockค่ะ
P"SUE