การวินิจฉัยโรคนี้ไม่ง่ายเหมือนกระดูกหัก หรือปอดบวม เพราะโรคพวกนี้สามารถเห็นด้วยตาหรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการ แต่การวินิจฉัยโรคสมาธิสั้นจะอาศัยพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งจะมีลักษณะดังต่อไปนี้
-
การขาดสมาธิ Inattention โดยสังเกตพบว่า
- เด็กจะสนใจงานหรือของเล่นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นหลังจากนั้นก็จะเบื่อ
- ไม่มีความพยายามที่จะทำงานที่ต้องใช้ทักษะ
- มีปัญหาในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- ไม่สามารถทำงานที่ครูหรือพ่อแม่สั่งจนสำเร็จ
- ไม่มีสมาธิในการทำงาน หรือเวลาเล่น
- ไม่สามารถตั้งใจฟัง และเก็บรายละเอียดไม่ได้
- ขี้ลืมบ่อย
- วอกแวกง่าย
-
Hyperactivity เด็กจะไม่อยู่นิ่งและควบคุมตัวเองไม่ได้
- เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
- เล่นไปรอบห้อง
- พูดคุยตลอด พูดไม่หยุด
- เมื่อนั่งอยู่ที่เก้าอี้ก็ไม่สามารถนั่งนิ่งโยกไปโยกมา
- แตะสิ่งโน้นสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา
- เคาะโต๊ะส่งเสียงดัง
- รอคอยไม่เป็น
- ชอบขัดจังหวะเวลาที่ผู้อื่นพูดคุยกัน
- บางคนอาจจะทำหลายๆอย่างพร้อมกัน
-
Impulsivity เด็กจะหุนหัน เด็กจะทำหรือตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยที่ไม่ได้คิด เด็กอาจจะพูดโต้ตอบโดยที่ไม่คิด ข้ามถนนโดยที่ไม่ดูรถ เด็กจะไม่สามารถรอยคอยสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ เด็กอาจจะแย่งของเล่นจากเด็กคนอื่น เมื่อไม่พอใจเด็กอาจจะทำลายของเล่นนั้น
ในการประเมินว่าเด็กคนใดจะเป็นโรคสมาธิสั้นหรือไม่แพทย์จะประเมินพฤติกรรมในเป็นมากเกินไปหรือไม่ เป็นระยะเวลานานหรือไม่ อาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเทียบกับเด็กอื่นที่อายุใกล้เคียงกันมีความแตกต่างกันหรือไม่ พฤติกรรมที่เด็กแสดงออกเป็นเพียงตอบสนองต่อเหตุการณ์บางอย่างหรือไม่ พฤติกรรมนั้นเกิดซ้ำๆกันต่างเวลาและต่างสถานที่ แต่อย่างไรก็ตามแพทย์จะมีเกณฑ์วินิจฉัยโรคสมาธิสั้นดังต่อไปนี้
- อาการที่แสดงว่าเด็กอยู่ในภาวะที่มีสมาธิสั้น inattention ได้แก่
- สมาธิของเด็กจะไขว้เขวได้ง่ายโดยอาจจะเกิดจากสิ่งที่มากระทบเพียงเล็กน้อย
- เด็กจะไม่สามารถให้ความสนใจกับรายละเอียด และมักจะเกิดการผิดพลาดจากความประมาท
- มักจะไม่ทำตามคำแนะนำ
- มักจะทำของหายบ่อยเช่น ดินสอ ตุ๊กตา สมุด
- อาการที่แสดงว่าเด็กไม่อยู่นิ่ง hyperactivity และ impulsivity
- เด็กจะไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เป็นคนอยู่ไม่สุข มือและเท้าหยุหยิกอยู่ตลอดเวลา
- วิ่ง ปีนป่าย หรือลุกจากเก้าในขณะที่เด็กอื่นนั่งกันหมด
- พูดโพล่สวนออกมาโดยที่ยังฟังคำถามไม่เสร็จ
- ไม่สามารถเข้าแถวรอได้
แต่อย่างไรก็ตามเด็กปกติการสามารถมีอาการเหล่านี้ได้ดังนั้นการวินิจฉัยจะต้องอาศัยเกณฑ์คือ
- พฤติกรรมเหล่านี้จะต้องเกิดก่อนอายุ 7 ขวบ
- เป็นติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน
- พฤติกรรมของเด็กจะต้องรุนแรงและมากกว่าเด็กปกติ
- และที่สำคัญพฤติกรรมเหล่านี้ต้องเกิดอย่างน้อย 2 แห่งเช่น บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน ที่สาธารณะ