อาจารย์ครับ อยากดูร่องรอยการเรียนรู้ของคุณกิจ ที่เป็นภาพประกอบด้วยจัง ไม่ทราบอาจารย์ได้เก็บไว้บ้างไหมครับ
หลักการสร้างความเป็นประชาสังคมข้อหนึ่งคือการเรียนรู้อย่างพินิจพิเคราะห์ของสมาชิกในชุมชน หมายถึงการเรียนรู้เพื่อยกระดับความรู้จากประสบการณ์ของบุคคลอย่างใคร่ครวญเชิงเหตุผล
ประสบการณ์ของบุคคลย่อมต่างๆกัน กระบวนการเรียนรู้เพื่อยกระดับความรู้เชิงเหตุผลอย่างพินิจพิเคราะห์เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก ต้องอาศัยคุณอำนวยที่เป็นกัลยาณมิตร อาจใช้แนวทางธารปัญญาและแบบจำลองปลาทูเป็นตัวเดินเรื่อง
อีกทางหนึ่งคือ การใช้แบบแผนกิจกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับการสวดมนต์ ไหว้พระ
ที่ผมคิดว่าง่ายที่สุดคือ การทำกลุ่มสัจจะลดรายจ่ายวันละ1บาททำสวัสดิการภาคประชาชน ใช้กิจกรรม ตัวนี้เป็นตัวเดินเรื่องก็เข้าท่าดีครับ
ถ้าเราสามารถสร้างการเรียนรู้ให้คุณอำนวยหมู่บ้าน ๆละ8คนตั้งเป้าหมายรายทางเพื่อไปสู่เมืองแห่งการเรียนรู้และเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องหนึ่งคือการจัดสวัสดิการให้สมาชิกในชุมชนด้วยการรวมพลังกันลดรายจ่ายวันละ1บาท ครัวเรือนเป้าหมายจำนวน25,600ครัวเรือน คิดครัวเรือนละ2คนเท่ากับ51,200คน และถ้าเราผสานการทำงานแนวราบด้วยการขยายความคิดนี้โดยมุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายทั้งตำบล ไม่ใช่2-5 หมู่บ้านรวม400หมู่บ้านอย่างที่ดำเนินการตามกรอบแผนงาน เราจะทะลวงสู่เป้าหมายสร้างชุมชนสวัสดิการเมืองนครศรีธรรมราช โดยกระบวนการของสัจจะลดรายจ่ายวันละ1บาท เป็นการหล่อหลอมคนโดยใช้ตัวเงินสร้างสวัสดิการเป็นเครื่องมือ ซึ่งเป็นเรื่องลึกซึ้งมาก และหากเราก้าวข้ามแนวคิดสัจจะลดรายจ่ายสร้างสวัสดิการไปสู่การทำบุญตามแนวทางของพระอาจารย์สุบิน ปณีโต เราจะเปลี่ยนจากการร้องขอมาเป็นการพึ่งตนเองและก้าวไปสู่การให้ซึ่งเป็นจิตสำนึกที่ยิ่งใหญ่ ถ้าสามารถไปถึงระดับนั้น(ที่จริงเป็นพื้นฐานทางวัฒนธรรมของชุมชนแต่เดิม) เป้าหมายเรื่องความพอเพียงไม่ต้องพูดถึงเลยครับ
สำหรับเป้าหมายเมืองแห่งการเรียนรู้ อยู่ในกระบวนการที่อาจารย์และทีมงานกำลังดำเนินการกันอยู่ แม้ว่าจะยากแต่มาถูกทางแล้วละครับ