ไฉน
นาย ประกาศิต ปอ ประกอบผล

ความมืดสีขาว


ในความมืดมีความน่ากลัวแฝงอยู่ด้วยเสมอ

        ความมืดทุกคนจะคิดเห็นกลางคืนที่ไม่มีแสงสว่างใดอยู่ซึ่งเป็นภาพแห่งความดำ แต่ในความเป็นจริงมันมีความมืดประเภทสีขาวด้วย

        ความมืดสีขาวนี้หลายท่านคงเคยสัมผัส เวลาขับรถไปแล้วมีคนเผาหญ้าข้างทางควันไฟสีขาวจากกองหญ้ามาปกคลุมถนนทำให้ไม่สามารถมองเห็นข้างหน้าได้ หรือหมอกที่ลงหนา หรืออีกประการหนึ่ง ฝนที่ตกหนักกระทั่งไม่สามารถเห็นได้ในระยะ ๑๐ เมตร ทัศนะวิสัยของการมองเห็นก็ไม่ดี เวลาขับขี่ยานพาหนะก็ไม่สามารถทำความเร็วได้ และต้องเปิดไฟตลอด  เหล่านี้เป็นความมืดที่ต้องอาศัยไฟช่วยให้เกิดการเห็นกันและกัน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์

        ในความมืดมีความน่ากลัวแฝงอยู่ด้วยเสมอ เหตุที่กลัวนั้นเพราะเราไม่เห็นไม่รู้ ว่าความมืดปกคลุมอะไรอยู่บ้าง อันตรายมากน้อยแค่ไหน หรือใครอาศัยความมืดเพื่อกระทำสิ่งไม่ดีงาม  ขณะที่เราจำเป็นต้องผ่านความมืดนั้นไปต้องใช้ความระมัดระวังสูง

        อีกวิธีหนึ่ง ก็อาจต้องยอมเสียเวลาหน่อย คือ รอ ๆ จนกว่าหมอก ควัน ฝน นั้นๆ จาง ซาลงทำให้มองเห็นเส้นทางที่จะไปได้อย่างชัดเจน

        แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่า อันตรายมากที่สุด คือ ความมืดในใจคน และโดยทั่วไปเราก็มักจะมองว่าคนใจมืดดำ หรือที่พูดกันสั้นๆ ว่า “ใจดำ” เป็นคนไม่ดี

        บางคนภาพภายนอกดูดีมาก การพูดจาดีน่าเชื่อถือ พฤติกรรมการกระทำที่ออกสู่สังคมก็ดูงดงาม เรียกว่าสร้างภาพลักษณ์ของตนเองได้ดี แต่ในความเป็นจริงนั้นอีกอย่าง บุคคลแบบนี้อาจกล่าวได้ว่า เป็นคนใจมืดสีขาว

หมายเลขบันทึก: 380979เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2010 09:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณค่ะ..และในทางกลับกัน.. "คนใจขาวในความดำมืด"..ที่แม้เขาจะรูปชั่ว ตัวดำ..ฐานะต่ำต้อย..แต่ใจสว่างด้วยสติสำนึกแห่งพุทธธรรม..สว่างจากข้างใน..

 

เจ้าของภาพ : วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร

 

ขอบคุณครับคุณพี่นงนาท

ที่พี่พูดมาก็ถูกครับ

ผิวกายไม่สำคัญเท่าจิตใจ

เช่น แมวจะสีไหนไม่สำคัญ ขอให้มันจับจิ้งจกตุ๊กแก หนูได้ก็โอเค

แม่นเลยครับ...ความมืดสีขาวเป็นความมือที่น่ากลัวกว่าความมือสีดำ เพราะความมือสีข่าวมันหลอกเราได้เนียนกว่า หลอกได้สนิทกว่าและที่สำคัญเป็นการหลอกแบบที่เราชื่นชอบ ชื่นชมเสียด้วย แต่จะว่าไปความืดสีขาวยังอันตรายน้อยกว่าความมืดสีทองนะครับ..เพราะความมือสีทองเป็นความมือชนิดที่หลอกคนได้ง่ายที่สุด ตั้งแต่ยาจกจนถึงพระราชาเลยที่เดียว ดูเหมือนว่าอันรายที่เกิดจากสีดำคนโดยทั่วไปจะตั้งตัวรับได้เพราะเหมือนความชั่วฝ่ายโกรธ ฝ่ายโทสะมองเห็นได้ง่าย ส่วนความมืดสีขาวเหมือนความน่ารัก น่าใคร่ ชวนให้อยากมี อยากเป็นนำไปสู่โลภะได้ง่าย แต่ความมือสีทองเหมือนโมหะที่มองเห็นได้ยาก รู้ทันได้ยาก ตั้งตัวรับไม่ได้

ดังนั้น ความมืดที่น่ากลัวที่สุดคือ ความมืดสีทอง ที่หลอกให้เข้าใจว่าเป็นพระพุทธเจ้าจริง ๆ เข้าใจผิดคิดว่าทองเป็นพระพุทธเจ้าหลงกราบ หลงไหว้กันมานาน ยิ่งสีทองสวยงามเท่าไหร่ ก็ยิ่งปิดความสงสัย ความหลงได้มากเท่านั้น ดังคำโบราณที่ว่า ไหวัพระพุทธ ระวังจะสดุดทองคำ ไหว้พระธรรมระวังจะขยำใบลาน ไหว้พระสงฆ์ระวังจะถูกลูกชาวบ้าน

ความจริงไม่ว่าความมืดชนิดไหนก็ตามล้วนนำมาซึ่งความทุกข์ นำมาซึ่งอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งนั้น หรืออีกนัยหนึ่งก็คือนำมาซึ่ง ความมืดเสมอกันหมด ความมืดในชีวิตจึงเป็นสิ่งที่ต้องใช้ธรรมเป็นเครื่องส่องทาง ใช้แสงสว่างจากธรรมเท่านั้นจึงจะสามารถทำลายความมืดได้หมด เพราะจริง ๆ แล้วชีวิตคนเราก็ต้องเกี่ยวข้องกับความมืดอยู่ตลอดเวลา ปัญหาจึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีแสงสว่างพอหรือไม มีแสงสว่างพอใช้หรือยัง ปัญหาจริง ๆ จึงไม่ใช่ความมืดแต่ คือ แสงสว่างมีพอหรือไม่ก็เท่านั้นเอง ยังพุทธพจน์ที่ว่า

นตฺถิ ปญฺญา สมา อาภา

ตามมาขอบคุณที่แวะไปทักทายที่บันทึกชมดอกนมแมวค่ะ

เลยได้มาอ่านข้อคิดดีๆและความเห็น ข้อธรรมจากคุณพี่นงนาท และท่านผู้ไม่แสดงตน ยอดเยี่ยมค่ะ

ความมืดและความสว่างนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ในกันและกัน มืดมากคือสว่างน้อย สว่างมากคือมืดน้อย ธรรมะเป็นหนทางแห่งปัญญาที่จะขับไล่ความมืด เพิ่มความสว่างให้แก่จิตใจ ตอนนี้ตัวเองก็ยังมืดๆ สว่างๆ แต่สว่างมากกว่ามืด มีความสุขในชีวิตจากภายในมากกว่าแต่ก่อน ก็ยังอยู่บนเส้นทางขัดเกลาตนเองอีกยาวไกลค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท