สวัสดีครับ สาระดีครับ
สวัสดีครับ คุณธนา
ขอบคุณครับ ที่เม้นท์ ได้รู้ว่าเข้ามาอ่าน
สวัสดีครับ คุณชำนาญ
เห็นด้วยครับ คนเราต้องรู้จักให้อภัยกัน
อภัยสามารถกำจัดความโกรธได้ และบวกเมตตาเข้าไปอีก ใจก็จะสงบได้ครับ
สวัสดีค่ะ
ขอขอบพระคุณกับข้อคิดดี ๆค่ะ การทำจิตใจให้ว่างเปล่าและสบาย ๆ ขึ้นอยู่กับการฝึกลมหายใจนะคะ ฝึกบ่อย ๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น อย่างบอกใครไม่ได้...ทำนองนั้นค่ะ คือดีกับตัวเราเอง ทำให้การกระทำของเราเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วยค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาอีกครั้งค่ะมาเชิญไปที่นี่คะ ๒๕.ขอเชิญแสดงความคิดเห็นค่ะ
หวัดดีจารย์.... ผมเห็นการฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวันแล้วให้นึถึง พฤษภาที่ผ่านมามากครับ หดหู่ เศร้า และดีใจ ไม่แปลกใช่ใหม่ครับที่ผมดีใจ..ความจริงเราก็น่าจะยิ้มรับความตายได้เหมือนทหารออกศึกสงคราม เหมือนแม่ที่กำลังคลอดความจริงก็เจ็บแต่พอลูกคลอดออกมาแล้วกลับลืมความเจ็บเสียนี่... ผมคิดว่าเป็นอย่างนี้...เพราะจริง ๆ แล้ว ถ้าการตายของโจร ของผู้ร้าย หรือของคนที่เราไม่ชอบ ก็มักจะนำความสุขมาให้คน ๆ นั้นเสมอ บางทีก็ถึงกับมีการฉลองกันยกใหญ่ที่ฆ่าศัตรูได้ตามหวัง ความจริงชาวโลกที่ห่างไกลจากศีลจากธรรม เขาก็ดำเนินชีวิตกัยอย่างนี ...แต่ผมคิดว่าที่อาจารย์รู้สึกไม่ดีเพราะ เป็นคนดีมีธรรม..และมองทุกชีวิตเสมอกันต่างห่าง
แต่สำหรับคนที่เป็นคู่เวรกัน...เขากลับมีความสุข..แม้ว่าความสุขนั้นจะเพียงจนเริ่มต้นของความทุกข์ในอนาคตก็ตาม ..คนเหล่านั้นก็ยังยินดีที่จะหลอกตัวเองว่า...เป็นความสุขอยู่อย่างนั้น...อันที่จริงหากมองในสายตาแห่งพุทธศาสนาแล้ว ก็จะพบว่า...ความตายของมนุษยที่มนุษย์ด้วยกันหยิบยื่นให้..มันคือ..บาปเสมอกันหมด..ไม่มีชั้นวรรณะ ..ไม่มีกาลเวลา...ซึ้งยังเป็นการเริ่มต้น...แห่งการก่อเวรอันไม่มีที่สิ้นสุด..ดังที่พุทธองค์ทรงตรัสไว้.เวรย่อมระงับได้ ด้วยการไม่จองเวร...
สวัสดีครับพี่ครูคิม
ลมหายใจเพื่อนคู่ใจเราครับ
ที่บอกให้ไป ผมไปเม้นท์มาแล้วนะครับ
สวัสดีครับ คุณผู้ไร้นาม
ที่คุณพูดมาก็ น่าคิดนะครับ
แต่การกระทำที่ก่อให้เกิด บุญ บาป และ ดีใจ กับสะใจ มันก็ต่างกันนะครับ