“พรุพี” กับองค์กรที่หลากหลายสู่กองทุนสวัสดิการชุมชนแบบบูรณาการ *
“พรุพี” ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำล เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2538 ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอบ้านนาสารประมาณ 9 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่เป็นคนพื้นเมืองนับถือศาสนาพุทธ โดยแบ่งการปกครองเป็น 7 หมู่บ้าน จำนวนประชากรทั้งสิ้น 6,328 คน
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลพรุพี จัดตั้งขึ้นเมื่อ 31 ธันวาคม 2548 จากการรวมตัวของกลุ่มองค์กรที่มีอยู่หลากหลายประเภททั้ง 7 หมู่บ้าน มีสมาชิกจำนวน 343 คน เงินทุนจำนวน 41,160 บาท ปัจจุบันมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 420 คน มีเงินทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 44,560 บาท แม้เป็นกองทุนสวัสดิการชุมชนที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ในปี 2549 สามารถจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก ซึ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลเจ็บป่วย จำนวน 6 รายจำนวนเงิน 3,000 บาท และให้เป็นเงินฝากสำหรับเด็กแรกเกิด จำนวน 1 รายเป็นเงิน 500 บาท
นายสินชัย วงศ์จินดา ผู้ประสานงานกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลพรุพีกล่าวถึงแนวคิดของการรวมตัวกันจัดตั้งกองทุนว่า ชาวพรุพีมี 7 หมู่บ้าน ซึ่งมีกลุ่มองค์กรที่ทำกิจกรรมทางการเงิน ประมาณ 50 กลุ่ม ทั้งกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ กองทุนน้ำยางสด เป็นต้น กลุ่มเหล่านี้ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่ ขาดการบูรณาการ จึงทำให้ขาดศักยภาพในการขับเคลื่อนงาน ขาดความเอื้ออาทรต่อกัน การรวมตัวกันตั้งกองทุนเมื่อปี 2548 ในเบื้องต้นพบว่า สมาชิกที่เจ็บป่วยเมื่อเราไปเยี่ยมไข้จะรู้สึกดีใจมาก และเกิดความผูกพันกันตลอด เป็นความผูกพันที่ส่งผลกระทบในทางสังคมอันเป็นวัฒนธรรมแห่งความเอื้ออาทรต่อกัน ความเป็นพี่เป็นน้อง นายสินชัย วงศ์จินดา ยังได้เล่าต่อไปว่า ในยุคแรก ๆ คนส่วนใหญ่ในตำบลไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกองทุนดังกล่าว ซึ่งตนพยายามยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ฟังว่า การจัดสวัสดิการชุมชน ที่ทำโดยชุมชน และมีชุมชนเป็นเจ้าของ ต่างจากการทำประกันชีวิต การทำประกันชีวิตซึ่งถ้าหากผู้ประกันไม่เจ็บป่วย บริษัทประกันชีวิตก็ได้ฟรี ๆ แต่กองทุนสวัสดิการชุมชนนั้น เงินอยู่กับชุมชน ซึ่งชุมชนเป็นเจ้าของ และยังสามารถเรียกคืน หรือกู้ยืมได้ในคราวจำเป็น
อย่างไรก็ตามรายละเอียดของกระบวนการกองทุนสวัสดิการชุมชนบ้านพรุพี สามารถแสดงเป็นแผนภูมิได้ดังนี้
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลพรุพี นับเป็นต้นแบบสำคัญของการร่วมทุนจากกลุ่มองค์กร ที่มีอยู่อย่างหลากหลายและจากบรรดาเหล่าสมาชิกที่มองเห็นความสำคัญของการช่วยเหลือเกื้อกูล ความเอื้ออาทรต่อกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบแห่งชุมชนที่เข้มแข็งและการพึ่งตนเอง ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากการให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่กำลังศึกษา ครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลอันเป็นสวัสดิการชุมชน
นอกจากนั้นยังพบว่า กองทุนสวัสดิการชุมชนพรุพี สามารถเชื่อมประสานหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ประสานสนับสนุนการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจน ภาคประชาชน (ศตจ.ปชช.) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุชนมารวมขยายกองทุนให้เติบโตเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น อันเป็นแนวทางสำคัญของการเพิ่มศักยภาพของกองทุนให้สามารถจัดสวัสดิการได้ครอบคลุมกับความต้องการของชุมชนมากยิ่งขึ้น ดังที่นายสินชัย วงศ์จินดา ผู้ประสานงานกองทุนได้ให้สัมภาษณ์ไว้ตอนหนึ่งว่า “การทำงานโดยให้ชุมชนเป็นแกนหลัก จะต้องอาศัยการประสานงานกับทุกภาคส่วน งานชุมชนจึงจะประสบผลสำเร็จได้ ที่สำคัญหากชุมชนหวังความเข้มแข็งของชุมชน ผู้นำต้องไม่มีศัตรู ผู้นำจะต้องสามารถประสานคน ประสานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง”
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลพรุพี เป็นอีกมิติหนึ่งของการจัดสวัสดิการภาคประชาชน ที่อาศัยหลักการบูรณาการ คน ทุน และชุมชน เป็นแนวคิดสำคัญในการขับเคลื่อนกองทุนให้ก้าวไปข้างหน้า ซึ่งจะก้าวไปสู่ความเป็นกองทุนสวัสดิการชุมชนแบบบูณาการในที่สุด
* อุดมศักดิ์ เดโชชัย อาจารย์หลักสูตรการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ยินดีครับ....................
โค้งคำนับนั่งอ่านช่วยสานฝัน
สาระดีมีจุดเด่นเป็นสำคัญ
ชอบสร้างสรรค์เสพหาวิชาการ
ขยันเขียนเวียนหามาบันทึก
เริ่องไม่นึกก็ได้เห็นเป็นแก่นสาร
เกิดความคิดติดปัญญาพาเชี่ยวชาญ
ประสบการณ์พบเห็นเป็นบทเรียน
ธนา นนทพุทธ
จักสานอักษรกลอนคิดเห็น