บ่อยครั้ง ที่วงการมวยไทย โดยโปรโมเตอร์และหัวหน้าค่าย ต้องให้นักมวยต้องควบคุมนำ้หนักตัวให้อยู่ในพิกัด และมีการตรวจชั่งนำ้หนักก่อนชก เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบ เสียเปรียบ
ใครไม่เคยอดข้าวเป็นวันๆ มองเห็นคนอื่นเขากินนำ้แข็ง มองเห็นเขากินข้าวปลาอาหารกันอย่างอิ่มหมีพลีมัน ..... มันแสนจะทรมาน
ในชีวิตนักมวยทุกคนต้องถูกสั่งให้อดอาหาร นุ่งห่มผ้าให้มิดชิดไม่ให้โดนความเย็นทั้งที่ร้อนแสนร้อนก็ต้องสวมเสื้อกันหนาวสอง-สามชั้น นำ้ก็อาบไม่ได้(เหม็นตัวเองเหลือทน) ออกวิ่งกลางแดดด้วยชุดคลุมที่มิดชิดเพื่อเรียกนำ้เหงื่อให้ออกตลอดเวลา เวลาใดที่หิวจัดจนแสบท้อง กินได้ก็เพียงนำ้ร้อน นำ้ข้าว(กาแฟหมา) น้ำต้มผัก อย่างดีก็นำ้เกาเหลา
บ้างต้องถูกควบคุมอย่างนี้เป็นหนึ่ง-สองอาทิตย์ เป็นผลให้สมองไม่สั่งการ มีเพียงแรงบ้า แรงโมโห ทักษะจากการฝึกซ้อม และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นผลให้นักมวยไทยที่หลังจากเลิกมวยไปแล้ว ร่างกายเสื่อมสภาพเร็ว และไม่สามารถไปประกอบอาชีพที่มีเกียรติมีสง่าได้ นอกจากคนๆนั้นจะรักเรียนหรือดวงดีมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์
ต่างกับมวยต่างประเทศ มีกฏหมายควบคุม และให้มีการพัฒนาการไปตามนำ้ำหนักและอายุ
ผมเองเคยตกอยู่ในสภาพนี้ เมื่อไปชกในเวทีมาตรฐานในกรุงเทพและต่างจังหวัด แต่ก็เป็นผลดีที่ทำให้เรารู้จักประมาณในการกิน และสามารถรับประทานอาหารได้วันละมื้อก็อยู่ได้ จนทุกวันนี้
แต่ นักมวยเก่าๆในอดีตและเด็กมวยไทยรุ่นใหม่ น่าเป็นห่วง เพราะยังมีการรีดนำ้หนักเพียงเพื่อให้ดูได้เปรียบเพราะต้องทำให้ตัวใหญ่นำ้หนักน้อย ชนะมาได้ก็จริง แต่สภาพร่างกายถูกบั่นทอนให้โทรมเร็ว
สมัยเรียนอยู่จุฬาฯ ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นนักมวย ชื่อวีระ วัชรมณี จะขึ้นชกครั้งใด ต้องลดน้ำหนักเรื่อย ครั้งหนึ้งลดไม่ลง ถึงกับต้องเข้าไปอยู่ในตู้โทรศัพท์กลางแจ้งเพื่อรีดเหงื่อ นานเกือบชั่วโมงโดยผมต้องคอยนั่งดูในร่ม เพื่อช่วย หากเขาเป็นลม เฮ้อ ทรมานจริงครับ นักมวย
ขอบคุณครับ ครุูหยุย ดีใจที่ท่านเข้ามาเยือนในบล๊อกนี้
ผมเข้าใจครับ แล้วโปรดแนะนำทางแก้ไขด้วยครับ น่าสงสารครับ
ศิรภพ รัตนสุบรรณ ขอบคุณที่ท่านแสดงความคิดเห็นมา
ขณะนี้มีการเรียนมวยไทยอย่างกว้างขวาง และนำไปขยายผล แต่น่าศึกษาว่า
" ทำไม? มวยไทยในบ้านเราจึงเป็นกีฬาสำหรับคนที่มีฐานะปานกลางลงมา.... ?
และคนไทยส่วนมากก็ไม่ค่อยเรียนรู้ศาสตร์นี้กันเท่าไรนัก...จะสร้างค่านิยมเชิงบวกอย่างไรให้คนไทยทุกคนรู้ เข้าใจ รักและหวงแหน เรื่องกีฬาประจำชาติให้มาก "