แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป
กาลครั้งหนึ่งมีพระราชาองค์หนึ่งมีอำนาจครอบครองเมืองมากมาย ได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมืองหาของวิเศษให้อย่างหนึ่ง โดยของวิเศษนั้นต้องสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้ “หากมีความทุกข์อยู่ก็จะหายจากทุกข์ หากมีความสุขอยู่ก็จะคลายความสุข ไม่ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะอยู่ ก็จะสามารถหยุดอารมณ์ทั้งสองอย่างนั้นได้ ” เมื่อครบกำหนดมีเจ้าเมืองเล็กๆอยู่เมืองหนึ่งได้นำแหวนวิเศษมาถวาย พระราชาสงสัยว่าวิเศษอย่างไร มันเป็นเพียงแหวนทองธรรมดาๆวงหนึ่งที่สลักข้อความไว้ว่า แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป พระราชาทรงสวมแหวนวงนี้ตลอด แล้ววันหนึ่งพระองค์มีความทุกข์ กังวลใจ หมุนแหวนไปมา แล้วอ่านข้อความจากแหวน แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป ทำให้พระองค์เข้าใจว่าสิ่งที่พระองค์กำลังประสบกับความทุกข์ ความกังวล แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป นั้นเป็นจริงอย่างที่ข้อความนั้นกล่าวไว้
คราใดที่พระองค์มีความสุข ความยินดี แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป เมื่อมีความเศร้า ความสูญเสีย แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป ทำให้พระองค์ไม่ยึดติดกับอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้น เพราะการดำรงชีวิตของมนุษย์เราต้องประสบกับโลกธรรมแปด คือเมื่อมีลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ก็ต้องมีเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์เป็นธรรมดา หากเราเตือนสติตนเองได้ว่า แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป ก็จะช่วยให้เราทำใจเป็นกลาง ทำใจเป็นปกติได้ ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็พลันหายไป
ทำนองเดียวกันกับคำว่าอะไรมันจะเกิดก็ต้องปล่อยให้เกิดไป เสียหายมากน้อยต้องทำใจ อย่าตีโพยตีพาย จนเสียหายหนัก เมื่อมีทุกข์ทุกข์นั้นก็ไม่จีรังยั่งยืน ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะเอาทุกข์นั้นมาเป็นกังวล ความสุขก็เช่นกันไม่จีรังยั่งยืนทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง......
ฝากให้ทุกคนที่อ่าน วันนี้คุณหัวเราะแล้วหรือยัง หากยังทำอารมณ์ไม่สนุกอยู่ เดี๋ยวจะไม่ได้หัวเราะนะจะบอกให้...หัวเราะบ้างโลกจะน่าอยู่อีกเยอะเลย
ขอขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมทักทายกัน มีอะไรดีๆก็อยากเอามาฝาก เหมือนเรามีของอะไรด๊เราก็มักจะซื้อ หรือหาติดมือไปฝากคนที่เรารักจริงไหม