โรคฮิแมงจิโอม่า


เล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับโรคภัยใกล้ตัว

ฉันก็เป็นฮีแมงจิโอม่า

แม่เล่าให้ฟังว่าแม่คลอดฉันที่บ้านโดยหมอตำแย ฉันเกิดมาก็มีเยื่อบางอย่างหุ้มที่ศรีษะฉันไว้ คุณตากลัวฉันตายเลยฉีกเยื่อนั้นทิ้งไป แม่สังเกตุเห็นปานสีแดงอยู่ตรงแก้มขวาของฉันเป็นปานไม่ใหญ่นัก ตามประสาชาวบ้าน(นอก)แม่ก็ไม่สนใจจนฉันอายุ 2 ขวบฉันวิ่งเล่นกับเพื่อนแล้วชนกับเพื่อน หลังจากนั้นเลือดก็ไหลไม่หยุด เวลาฉันนอนก็มีเลือดไหลออกมา ฉันไม่รู้ว่าออกมาทางไหน แต่รู้ว่าเวลาตื่นขึ้นมา ฉันต้องอมเลือดที่จับตัวเป็นก้อนออกมาทิ้งทุกเช้า แก้มก็จะมีเลือดแห้งๆติดเป็นทางไหลของเลือด หมอนมีแต่เลือดแข็งบ้างเปียกบ้าง ทุกวันแม่ต้องเอาหมอนไปตาก และซักปอกหมอนให้ฉันพ่อพาฉันไปหาหมอที่คลินิก หมอให้ยามากิน และไม่ใด้บอกว่าเป็นอะไร พ่อพาฉันไปหาหมอเกือบทุกที่ทั้งหมอแผนโบราณและปัจจุบัน จนมาถึงคลีนิกแห่งหนึ่งหมอบอกว่า 9 ขวบจะหายเอง แล้วก็ให้ยามากิน จากนั้นก็รักษากับหมอแผนโบราณมาตลอดใครบอกว่าอะไรดีก็ทำ ทั้งทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร แม้กระทั่งกินน้ำล้างมือพ่อทุกวันเพ็ญเดือนดับก็กิน 9 ขวบเลือดก็หยุดไหล แต่แก้วขวาก็ยังบวมขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่มีอาการปวดใดๆ อ้อ ! จะมีแค่ตอน 7 – 8 ขวบ วันนั้นฉันรูสึกแก้มเหมือนจะระเบิดแต่ไม่กล้าบอกแม่ ฉันมาเรียนปรกติ วันนั้นฉันนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างฝาห้อง เพื่อนคนหนึ่งก็มาแกล้งโดยจะมาปิดตาแล้วถามว่าใครเอ่ย ? แต่ปรากฏว่าแค่มือมาถึงแก้มของฉันเท่านั้นฉันร้องจ้าเลยทีเดียว ครูต้องพาไปส่งที่บ้าน และฉันก็นอนป่วยอยู่เป็นอาทิตย์ ลุกไม่ใด้แม่แต่จะนั่ง หรือ ขยับตัว เวลาลืมตาฉันก็เวียนหัว อ้วกตลอด แม่และยายหาเปลือกมังคุดมาฝนให้กินประมาณ 1 อาทิตย์ฉันก็หายจากอาการป่วย

หลังจาก 9 ขวบแก้มขวาก็บวมขึ้น เป็นรอยจ้ำสีแดงก่ำ พ่อก็พาฉันตะเวนไปหาหมอเหมือนเดิม ไปเชียงใหม่ หมอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจแต่ยังไม่ทันรู้ผลตรวจเพราะหมอนัดให้ไปฟังผลแต่ทีบ้านไม่มีตังเลยไม่ได้ไป ต่อมาตอน ม . ต้น พ่อได้ยินมาว่าที่อำเภอใกล้บ้านมีโรงพยาบาลฝรั่งมาเปิด พ่อเลยพาฉันไปหาหมอที่นั่น หมอรักษาโดยฉีดยาเข้าที่แก้มขวาของฉัน ทำแก้มขวายุบลงบ้างแต่หมอบอกว่าไม่ใด้ผลเพราะทำมา 5 -6 ครั้งแล้วยุบลงนิดเดียว จนอายุ 14 ปี ฉันก็เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์หมอก็อธิบายว่าฉันเป็นโรคฮีแมงจิโอม่า หรือโรคเส้นเลือดฝอยขยาย หรือปานเลือด ตอนนั้นแก้มขวาบวมมากจนหน้าผิดรูป ปากเบี้ยว ซึ้งเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตมาก ฉันรักษาด้วยวิธี เอ็นดีแย็ก และ ทำเบิน เส้นเลือด แก้มขวาของฉันยุบลงเยอะมาก ฉันดีใจมากเพราะคิดว่ามีโอกาศที่ฉันจะหายแต่ ก็ต้องเลิกทำเพราะไม่มีตังที่จะรักษาต่อค่าใช้จ่ายมันเยอะมากสำหรับคนบ้านนอกอย่าฉันฉันรู้สึกว่าแก้มขวามันบวมขึ้นอีกหลังจากไม่ใด้ไปรักษาต่อเนื่องมันเป็นอุปสรรค์ต่อฉันอย่างมากกับการใช้ชีวิตทั้งเรื่องเรียนและการทำงานฉันเรียนจิตวิทยาสาขาคลีนิคและชุมชนแต่พอใกล้จะมีโอกาศได้ฝึกงานอาจารย์กลับบอกว่าให้หายก่อนแล้วค่อยฝึกงานฉันท้อมาก ไม่ไปลงเรียน ไม่ไปสอบ ทั้งที่ลงไปกว่า 8 วิชา ฉันคิดจะไม่เรียนต่อ แต่ฉันก็ลองสู้อีกครั้งเพื่อปริญญา ฉันย้ายสาขามาเรียนสังคมสงเคราะห์ ตอนนี้อายุ 24 แล้วแต่ยังเรียนไม่จบ ฉันไม่รู้ว่าจบมาแล้วจะได้ทำงานไหม?

เพราะขนาดโรงงานที่ฉันไปสมัครเขายังไม่รับฉันเข้าทำงานเลยฉ้นอยากมีงานทำเพื่อเก็บเงินรักษาตัวแต่ไม่มีที่ไหนเปิดโอกาศให้ฉันได้แสดงความสามารถเลยฉันอยากช่วยเหลือพ่อแม่บ้างอยากตอบแทนบุญคุณท่านบ้างเพราะท่านเหนื่อยมามากแล้วกับฉัน ฉันขอแค่โอกาศที่จะให้ฉันใด้แสดงความสามาถ ใด้ทำงานเพื่อพึ่งตนเองให้ใด้และตอบแทนบุญคุณพ่อแม่เท่านั้นเอง

ปราณี ปิยวรรณ

[email protected]

 

ที่มา   WWW.KOOSANGKOOSOM.COM/board_view.php

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #kmanw3
หมายเลขบันทึก: 374333เขียนเมื่อ 12 กรกฎาคม 2010 15:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท