ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้น แต่ ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่ สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่ มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่ เรากลับพบว่า แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่ แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้น แต่ สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่ การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น...จากนี้ไป...ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ...โอกาสที่พิเศษสุดแล้ว
จงแสวงหาการหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่โดยไม่ใส่ใจกับความ...อยาก...
จงใช้เวลากับ "ครอบครัว" "เพื่อนฝูง" "คนที่รัก" ให้มากขึ้น
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุข ไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า...สักวันหนึ่ง...ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง...ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน...ทุกชั่วโมง...ทุกนาที...มีความหมาย
...เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไร...มันจะสิ้นสุดลง...
ขอคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
ขอบคุณครับ...
ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าจะเหลือเวลาของตนอีกนานเท่าไหร่
1 วัน 1 เดือน 1 ปี หรือ 1 ชั่วโมง
...ลองย้อนกลับไปมองอดีต
เราใช้ชีวิตได้คุ้มค่ากับเวลาที่ผ่านมาแล้วหรือไม่
มีอะไรบ้างที่อยากทำ แล้วยังไม่ได้ทำ
และสิ่งนั้นมีคุณค่าเพียงพอกับเวลาที่สูญเสียไปหรือเปล่า
เราให้เวลา ให้ความสำคัญกับคนที่เรารักเพียงพอแล้วหรือยัง
เราปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์
และใช้ชีวิตอย่างสมดุลแล้วหรือไม่????
“อย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า
จงคิดว่าทุกๆ วันที่ผ่านพ้นไป คือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา”
ขอบคุณที่ไปทักทายกัน ขอให้มีความสุขทุกๆ วันนะคะ
ทุกวัน...ทุกชั่วโมง...ทุกนาที...มีความหมาย ...เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไร...มันจะสิ้นสุดลง...
ขอบพระคุณสำหรับข้อคิดนะครับ...