ภาวะโลกร้อน : ไก่เครียด รังไข่ฝ่อ ราคาไข่แพง
จากสภาพภูมิอากาศของโลกเราที่ร้อนขึ้น ทำให้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยอย่างมาก พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ส่งพลังงานผ่านชั้นบรรยากาศมายังโลกของเราเป็นระยะ ทาง 1.4 ล้านกิโลเมตรโดยประมาณ แต่พลังงานความร้อนจะถูกก๊าซเรือนกระจกกักเก็บไว้มิให้ความร้อนย้อนกลับไป ได้ยิ่งมีมากเท่าไรความร้อนก็จะถูกกักเก็บไว้มากเท่านั้น ก๊าซเรือนกระจกต่างๆนั้นก็คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ก๊าซมีเทน,ก๊าซไนตรัสออกไซด์, โอโซน, ไอน้ำ และคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน (C.F.C.) ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาโดยน้ำมือมนุษย์อย่างเราๆท่านๆนี้ทั้งนั้น จึงเป็นปัญหาที่มนุษย์ทั้งโลกต้องร่วมกันรับผิดชอบและร่วมกันแบกรับปัญหาต่อ ไป
อุณหภูมิของโลกที่ร้อนขึ้น ส่งผลให้ภูเขาน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายทำให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นเกาะแก่ง ต่างๆ อย่างเช่น มัลดีฟ, ไอร์แลน, เวนิชตะวันตก กำลังจะจมทะเล อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ในทะเล ทำให้เกิดการกลายพันธุ์-สูญพันธุ์ของสัตว์และพืชในทะเลเป็นจำนวนมาก ปะการังทั่วโลกกำลังตาย (ปะการังฟอกขาว) ปลาแซลมอน นกทะเลหลายร้อยตัวกำลังจะตายเพราะขาดแคลนแหล่งอาหาร เกิดปรากฎการณ์ลมฟ้าอากาศแปรปรวนแบบสุดโต่ง เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เกิดคลื่นรังษีความร้อน ฮีทเวฟ (Heat wave) มีคนตายเป็นจำนวนมาก เกิดการเปลี่ยนแปลงทางผลิตผลการเกษตร เกิดการระบาดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว เกิดเพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันสำปะหลัง และอื่นๆ อีกมากมาย
ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ไก่” ย่อมที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนนี้เช่นกัน สภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในโรงเรือน จะต้องมีการจัดการอย่างดี อย่าปล่อยมีน้ำหก ราดรด เปียกแฉะที่พื้นคอก มูลและของเสียต่างๆ จะต้องถูกกำจัดออกอย่างทันท่วงทีไม่ปล่อยให้บูดเน่าส่งกลิ่นเหม็นเพราะเศษ อาหาร มูลและของเสียต่างๆที่ตกค้างเมื่อได้รับความชื้นก็จะย่อยสลายแตกตัวบูดเน่า เกิดก๊าซแอมโมเนีย, ไฮโดรเย่นซัลไฟด์ ส่งผลทำให้ไก่มึนงง ไอจามส่งเสียงฟื้ดฟาดในลำคอ เกิดความเครียด อีกทั้งความร้อนอาจจะส่งทำให้รังไข่ของไก่ฝ่อ ผลผลิตลดลงส่งผลให้ไข่ไก่มีราคาแพง
เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจจะคิดว่าไก่เป็นหวัด ไปซื้อยารักษาหวัด ได้ผลดีในระยะสั้นสักพักก็เป็นเหมือนเดิม เพราะสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากหวัด แต่เป็นอาการที่แพ้ก๊าซของเสียภายในเล้าหรือคอกไก่ ขี้ไก่และเศษอาหารที่เหลือมีกลุ่มของโปรตีนอยู่ด้วย เมื่ดบูดเน่าแตกตัวเป็นก๊าซแอมโมเนียระเหยขึ้นไป ส่งผลทำให้ไก่มีอาการระคายเคืองนัยตาและระบบทางเดินหายใจ แอมโมเนียเมื่อรวมตัวกับสารคัดหลั่งและน้ำตากลายเป็นด่าง ก็เปรียบเหมือนเอาด่างไปป้ายตาและลำตัวไก่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง แพ้และคัน ทำให้ต้องเกาและจิกตีกันจนหนังถลอกเกิดบาดแผล ใช้ยามารักษาอย่างไรก็ไม่หายขาด เพราะเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ดังนั้นจะต้องทำการรักษาที่ต้นเหตุคือการใช้กลุ่มของหินแร่ภูเขาไฟ เช่น สเม็คไทต์, ไคลน็อพติไลท์ ช่วยจับกลิ่นและก๊าซแอมโมเนีย, ไฮโดรเย่นซัลไฟด์ ตัวต้นเหตุที่ทำให้ไก่เครียด มึนงง น้ำตาไหล พบกลิ่นเหม็นบริเวณไหนก็ใช้หินแร่ภูเขาไฟหว่านลงไปตรงนั้น ก็จะทำให้กลิ่นเหม็นค่อยๆลดลง เพราะหินแร่ภูเขาไฟเกิดจากความร้อนเป็นล้านองศาภายใต้พื้นผิวของเปลือกโลก เกิดแรงอัดแรงบีบมหาศาล เคลื่อนตัวโผล่พ้นขึ้นมาบนผิวโลกเจอชั้นบรรยากาศที่บางเบาวกว่าเพียงหนึ่ง ชั้นบรรยากาศทำให้เกิดการพองตัว มีรูพรุนในพื้นผิวมากมาย ทำให้มีความสามารถในการดูดจับก๊าซและประจุบวกต่างๆไว้ในตัวเองได้ (C.E.C. = Catch Ion Exchange Capacity) ก๊าซพิษต่างๆ ในเล้าและคอกไก่ถูกกำจัด มีอากาศใหม่เข้ามาแทนที่ส่งผลให้โรงเรือนมีอากาศถ่ายเท โปร่ง โล่งสบาย ไก่ไม่เครียด ให้ผลผลิตออกมามาก ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนไข่ไก่จำหน่ายในท้องตลาด อาจจะเป็นหนทางที่ช่วยรัฐบาลทำให้ราคาไข่ไก่ถูกลงมาบ้างก็ได้
By นายมนตรี บุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com
ความเห็น (2)
ได้รับความรู้ดีครับ เรื่องราวดีๆ
อย่าว่าแต่ไก่ เครียดเลยครับ ...
คนก็เครียด ร้อนก็ซื้อหาแอร์ มาติดกัน ติดไป ค่าไฟก็แพง ..ยังต้องมาซื้อไข่ไก่แพงอีก
จิงค่ะที่โลกเราร้อนขึ้นเรื่อยๆๆนะค่ะ