วิธีดำเนินการ KM
สคส. กำลังเร่งจัดทำ รายงานประจำปี ของปีที่ ๓ ของโครงการ เราจะทำรายงานประจำปีที่แปลกประหลาด (Innovative) สุดสุด คือไม่ใช่รายงานประจำปีขององค์กร แต่เป็นรายงานประจำปีของเครือข่ายการขับเคลื่อน KM ทั้งประเทศ เราจึงได้เชื้อเชิญให้เครือข่ายที่เราเห็นว่ามีผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ เล่าความสำเร็จลงในรายงานประจำปี ต่อไปนี้เป็นข้อความที่ อ. ไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ แห่ง มน. เขียนส่งมา ผมขโมยมาลง บล็อก เสียครั้งหนึ่งก่อน เพราะว่ามีประโยชน์ต่อองค์กร และ ที่ปรึกษา (consultant) ที่จะดำเนินการ KM อย่างยิ่ง
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของภาคีเครือข่ายการจัดการความรู้ภาคเหนือตอนล่าง
โดย ไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ
เมื่อพูดถึงความสำเร็จของการจัดการความรู้ทำให้เราหันกลับไปมองอดีตที่เดินทางผ่านมาในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ปี 7 เดือน ที่เราสัมผัสกับชีวิตจริงของการจัดการความรู้ ทำให้เราค้นพบว่า “เราไม่รู้อะไรอีกตั้งมากมาย ที่เราต้องการหาคำตอบ” ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเริ่มสนุกกับการเดินทางค้นหาคำตอบ อันเป็นผลกำไรแห่งชีวิตที่มีค่ามากเหลือคณานับได้และทำให้เรารู้ซึ้งดีว่า “ความรู้เป็นคำตอบหรือบทเรียนรู้ในวันนี้ยังมิใช่วิธีที่ดีทีสุดของวันพรุ่งนี้” นั่นคือ การเรียนรู้ของมนุษย์ไม่มีวันสิ้นสุดเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตนั่นเอง
หากจะหยิบยก 1 ตัวอย่างของความสำเร็จในการขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่ายการจัดการความรู้ของจังหวัดนครสวรรค์ มาบอกเล่าเรื่องราว ซึ่งเป็นความสำเร็จจากการนำประสบการณ์และบทเรียนรู้แบบบูรณาการตั้งแต่ขั้นเตรียมการ วางแผนปฏิบัติและติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องที่ได้รับจากเวทีของการบริหารเครือข่ายการจัดการความรู้โรงพยาบาล ในเขตภาคเหนือตอนล่างและเทคนิคของการทบทวนปฏิบัติกิจกรรม อันเป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จดังกล่าว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะว่าเมื่อเราได้มีการทบทวนทุกขั้นตอนของกิจกรรมที่ดำเนินการและการปฏิบัติทำให้เราค้นพบ หัวใจของสิ่งที่เป็นบทเรียนรู้โดยจะนำเอาสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพื่อหาโอกาสที่จะปรับปรุงในการดำเนินการในครั้งต่อไป ซึ่งจะเก็บไว้เป็นบทเรียนรู้ของตนเอง หวังว่าสักวันหนึ่งหากได้มีโอกาสทำหน้าที่บริหารเครือข่ายหรือได้มีโอกาสให้คำปรึกษาหน่วยงานอื่นที่ต้องการทำหน้าที่บริหารเครือข่ายจะมีเทคนิคและวิธีการดำเนินการที่เป็นสูตรสำเร็จส่งผลให้เกิด การขยายตัว KM ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคนิคและเคล็ดลับที่เป็นบทเรียนรู้ในอดีตของการบริหารโครงการภาคเหนือตอนล่างนำไปสู่การพัฒนา กระบวนการการจัดการความรู้ที่จังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่
1. เทคนิคของการเป็นโค้ชด้านการจัดการความรู้
หากเปรียบการจัดการความรู้ ดังเช่น กีฬาฟุตบอล เราพบเห็นเสมอว่า โค้ชส่วนใหญ่ที่ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ส่งผลให้ทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จได้นั้น ตัวผู้ฝึกซ้อมต้องเคยมีประสบการณ์การเล่นฟุตบอลหรือเป็นนักกีฬาฟุตบอลมาก่อนทั้งสิ้น เฉกเช่นกับโค้ชด้านการจัดการความรู้ ต้องอาศัยประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติกิจกรรมด้านการจัดการความรู้และบทเรียนรู้ที่ผ่านมาประยุกต์วางแผนการดำเนินงานให้แก่ ทีมงานบริหารเครือข่ายการจัดการความรู้ จังหวัดนครสวรรค์ เริ่มตั้งแต่การนัดพบให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ทีมจัดการความรู้จังหวัดนครสวรรค์ ในระยะเริ่มต้นจำนวน 3 ครั้ง โดยรายละเอียดในครั้งแรกที่พบกันนั้น เราได้พูดคุยถึงหลักการของ KM, วัตถุประสงค์และเป้าหมาย KM รวมทั้งความคาดหวัง ความมุ่งมั่นต่อการนำไปปฏิบัติจริงในพื้นที่และที่สำคัญเราได้เน้นให้ทีมเห็นความสำคัญของ “Knowledge vision” และกลยุทธ์การจัดการความรู้ในระดับจังหวัดสู่การปฏิบัติในโรงพยาบาล อันส่งผลถึงความสำเร็จของการจัดการความรู้ที่มีเป้าหมาย คือ “การพัฒนางานประจำ” ฉะนั้นหากมีการวิเคราะห์ความรู้ที่เป็น Best Practice ซึ่งเป็นความรู้ที่ต้องมีและใช้ในการปฏิบัติงานประจำวัน, ผู้ปฏิบัติงาน(คุณกิจ) มีความรู้หรือยัง? ถ้ามีอยู่ที่ใคร? และใครเป็นเจ้าของความรู้นั้น? หรือหากโรงพยาบาลไม่มีความรู้หรือขาดความรู้ที่จำเป็นจะมีวิธีการปิดช่องโหว่ความรู้ได้อย่างไร? แล้วทำการเลือกเครื่องมือการจัดการความรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดและของโรงพยาบาลภายในจังหวัด
นอกจากนั้นเทคนิคที่ได้นำไปใช้ ได้แก่ เทคนิคของการสื่อสาร พูดคุยทำความเข้าใจให้กับท่านผู้บริหารทุกโรงพยาบาลและผู้มีทุกส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการจัดการความรู้ระดับจังหวัด เช่น ท่าน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลในจังหวัด รวมทั้งการนำแผนการพัฒนาการจัดการความรู้เข้าสู่วาระของการประชุมประจำเดือนในระดับจังหวัด เพื่อหาประเด็น Knowledge vision ร่วมกันของจังหวัดและหัวปลาย่อย ซึ่งต้องเป็นความเห็นร่วมกันของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้านการจัดการความรู้ในระดับจังหวัดซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักในการทำแผนที่ความรู้ของจังหวัด (Knowledge Mapping) และเครือข่ายการจัดการความรู้ของโรงพยาบาลในระดับจังหวัด
2. เทคนิคของการจัดการแบบมีส่วนร่วมในการวางแผนกิจกรรมด้านการจัดการความรู้ระหว่างทีมที่ปรึกษากับทีมงานบริหารโครงการโดยได้มีการจัดลำดับกิจกรรม ดังนี้
2.1 กิจกรรมนัดพบครั้งที่ 1 ระหว่างทีมงานบริหารโครงการ HKM กับทีมงานบริหารโครงการระดับจังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์เพื่อตกลงเป้าหมายการจัดการความรู้ โดยเราจะสื่อสารให้กับทีมงานบริหารโครงการของจังหวัด เข้าใจภาพรวมของการจัดการเครือข่าย KM ทั้งหมดซึ่งจะมี Powerpoint ประกอบคำบรรยาย รวมทั้งการแนะนำให้คำปรึกษาเพื่อการวิเคราะห์หาศักยภาพทีมงานในระดับจังหวัด และโรงพยาบาลในพื้นที่รับผิดชอบ หลังจากนั้นเราได้มอบหมายให้ทีมงานเขียนแผนดำเนินงานและมีการนัดหมาย พูดคุยกันอีก 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์
2.2 กิจกรรมนัดพบครั้งที่ 2 ระหว่างทีมงานบริหารโครงการ HKM กับทีมงานบริหารโครงการระดับจังหวัดนครสวรรค์ วัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ KM ร่วมกัน เราได้พูดคุยกันในแผนปฏิบัติงานด้าน KM ในระดับจังหวัด และการกำหนด Knowledge vision ของจังหวัดและมอบหมาย ให้ทีมงานบริหารโครงการตกลงกับสมาชิก เครือข่ายโรงพยาบาลทั้งหมด ถึงหัวปลาย่อยที่จะมาทำกิจกรรม รวมทั้ง ข้อตกลงร่วมกันในการจะนำเครื่องมือชุดธารปัญญา, AAR, Peer Assist มาช่วยในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
2.3 กิจกรรมนัดพบครั้งที่ 3 ระหว่างทีมงานบริหารโครงการ HKM กับทีมงานบริหารโครงการระดับจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวางแผนในรายละเอียดของกิจกรรมที่จะดำเนินการและติดตามประเมินผล ได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดของกิจกรรมชุดธารปัญญา, การวางแผน, การคัดเลือกคุณอำนวยเข้าร่วมกิจกรรม โดยหัวปลาที่ใช้ในการจัดทำเครื่องมือชุดธารปัญญา คือ เรื่อง DM (เบาหวาน) ซึ่งได้เชิญท่านอาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุกยืด มาเป็นวิทยากรให้กับ จ.นครสวรรค์ รวมทั้งการประเมินผลของทีมงานบริหารโครงการในระดับจังหวัด
2.4 หลังจากนั้นมอบหมายให้แต่ละโรงพยาบาลจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาช่องว่างความรู้ในปัจจุบันและอนาคต ของหัวข้อความรู้ DM จัดส่งให้กับทีมงานบริหารโครงการภายในระดับจังหวัด
2.5 กิจกรรมพัฒนาทักษะคุณอำนวย เพื่อพัฒนาศักยภาพของคุณอำนวยโดยการฝึกฝนทักษะการฟัง การสื่อสาร การตั้งคำถาม ทักษะโค้ช การแก้ปัญหากลุ่ม การจดบันทึกและการสกัดคลังความรู้ให้กับคุณอำนวยโรงพยาบาลละ 6-8 คน รวมกลุ่มเป้าหมายที่เราฝึกปฏิบัติให้กับคุณอำนวยประมาณ 60 คน ซึ่งเราวางแผนให้คุณอำนวยทีได้รับการฝึกฝนทักษะต้องไปขยายเครือข่าย KM ในโรงพยาบาลและปฏิบัติตามแผนที่ได้จัดทำไว้
2.6 กิจกรรมตลาดนัดการจัดการความรู้โรคเบาหวาน เราเริ่มฝึกฝนให้ทีมงานบริหารโครงการ จังหวัดนครสวรรค์และคุณอำนวยจำนวน 60 คน ที่ฝึกฝนทักษะไปแล้ว เตรียมพร้อมทีจะบินด้วยตนเอง ซึ่งเราได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ตามที่กำหนดไว้อีกทั้งได้มอบหมายให้คุณอำนวยไปคัดเลือกคุณกิจในประเด็นที่จะทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาเข้าร่วมกิจกรรม โดยที่คุณอำนวยที่ได้รับการอบรมทักษะคุณอำนวยจำนวน 60 คน กระจายกันอยู่ตามกลุ่มและเริ่มเรียนรู้และฝึกที่จะบินด้วยตนเอง โดยจะทำหน้าที่เป็นผู้กระตุ้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจดบันทึกและการสกัดคลังความรู้ เพื่อที่จะฝึกทักษะของคุณอำนวยในเวทีทดลองก่อนที่จะได้นำปฏิบัติจริงในโรงพยาบาล และในช่วงท้ายของกิจกรรมนี้ ทีมงานบริหารจังหวัดนครสวรรค์และคุณอำนวยจำนวน 60 คน ได้ทำการทบทวนหลังปฏิบัติหลังจากการทำกิจกรรม เพื่อที่จะได้นำประสบการณ์ดังกล่าวไปปฏิบัติและประยุกต์ใช้จริงในโรงพยาบาลต่อไป
3. เทคนิคของการนำเครื่องมือการจัดการความรู้บูรณาการฝังเข้าไปในงานประจำ
3.1 เทคนิคของการทบทวนหลังการปฎิบัติกิจกรรมหรือที่เรารู้จักกันในนามของ AAR แท้ที่จริงแล้วในชีวิตของการทำงานโดยเฉพาะทีมพยาบาล จะมีการทำ AAR ในการรับเวรและส่งเวรโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นการแนะนำเทคนิคของการทบทวนหลังจากปฏิบัติ การทำงานทุกวันเป็นสิ่งที่ได้หยิบยกมาเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้หลอมรวมเข้ากับเนื้องานประจำ ไม่มอง KM แยกส่วน อีกทั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลทุกคน ทุกหน่วยงานสามารถนำเอาไปปฏิบัติได้ ดังจะขอยกตัวอย่างการทบทวนการทำงานประจำวันในทุกวันหลังจากที่ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ก่อนที่จะกลับบ้าน ทีมงานต้องมานั่งทบทวนถึงการปฏิบัติงานที่ทำมาตลอดทั้งวันโดยใช้คำถาม AAR เพื่อค้นหาความเสี่ยง, สิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังและโอกาสพัฒนางานอันนำไปสู่การวางแผนพัฒนางานของการทำงานในวันพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้เช้าก่อนที่จะปฏิบัติงาน พนักงานและทีมงานจะมานั่งคุยเรื่องแผนงานที่จะปรับปรุงของเมื่อวานและจะทำให้ดีขึ้นในวันนี้ หลังจากที่วางแผนการทำงานเสร็จแล้วทุกคนก็แยกย้ายกลับไปทำงาน เมื่อถึงเวลาก่อนกลับบ้าน 15-30 นาที ก็กลับมาทำกิจกรรม AAR อีกครั้งเพื่อทบทวนผลการปฏิบัติงานและนำไปวางแผนการทำงานในวันรุ่งขึ้นต่อไป วนเวียนอย่างเป็นวัฏจักร จนกระทั่งเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไม่มีวันสิ้นสุด
3.2 เทคนิคของเพื่อนช่วยเพื่อนจะนำไปใช้ในการทำงานประจำวัน เมื่อต้องการเรียนรู้เทคนิคการทำงานจากเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเดียวกันหรือข้ามหน่วยงานภายในและภายนอกโรงพยาบาล
4. เทคนิคของการติดตามอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่เราได้เข้าไปช่วยผลักดันให้เกิดการจัดการความรู้ตามกิจกรรมที่ได้วางแผนไว้แล้ว เราได้ติดตามข้อมูลความก้าวหน้าของการดำเนินงานการจัดการความรู้อย่างใกล้ชิดกับทีมงานของจังหวัดนครสวรรค์
ฉะนั้นความสำเร็จของการจัดการความรู้ในระดับเครือข่ายและในระดับองค์กรขึ้นอยู่กับความอดทนและมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางานอย่างจริงจัง รวมทั้งการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายอย่างจริงจัง มิใช่ทำตามคำสั่งหรือทำเพื่อการประเมินผลงานในขณะที่ทำ KM เราพบว่ามีองค์กรน้อยนักที่จะประสบความสำเร็จแต่ก็ไม่ยากเกินไปมากนักสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนางานอย่างแท้จริง ดังนั้นความสำเร็จของ KM จะได้มาจากประสบการณ์หรือบทเรียนรู้ที่เป็นโอกาสพัฒนางานในอนาคตนั่นเองจงอย่าท้อถ้อยแม้ว่าวันนี้ท่านจะล้มลุกคลุกคลานกับ KM แต่จงกระหยิ่มยิ้มในใจว่าในอนาคตมันคือ ครูที่สอนบทเรียน KM ที่ดีที่สุดให้กับเรา ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังมุ่งมั่นทำ KM ทุกคนโดยเฉพาะในองค์กรภาคราชการ
นี่คือข้อเขียนเชิง “ความรู้ฝังลึก” (Tacit Knowledge) จากประสบการณ์การเป็น “คุณประสาน” (KM Network Manager) ประมาณ 1 ½ ปี ผมชื่นชมความสามารถของ อ. ไพฑูรย์ มาก เข้าใจว่าการได้ร่วมวง KM เปลี่ยนวิถีชีวิตของ อ. ไพฑูรย์ ไปมาก
วิจารณ์ พานิช
๑๑ กย. ๔๘
ไม่มีความเห็น