เมื่อวานนี้ (วันที่ 5 ก.ค.53) ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้มาบรรยายเกี่ยวกับ การเสนอขอรับการประเมินเพื่อรับรางวัล "คุณภาพการให้บริการประชาชน ประจำปี 2553" และรางวัล "United Nations Public Service Awards" โดยได้มีการบรรยายไปถึง ร่าง เกณฑ์รางวัลการเสริมสร้างการจัดการความรู้ในภาครัฐ ซึ่งทราบว่าจะนำเข้าที่ประชุมอนุกรรมการ ก.พ.ร. หรือ อ.ก.พ.ร.ในวันนี้(6 ก.ค.53)
เกณฑ์รางวัลการเสริมสร้างการจัดการความรู้ในภาครัฐ จะเป็นรางวัลใหม่สำหรับหน่วยงานภาครัฐที่มีผลการพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยมีการพิจารณาใน 7 มิติ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการที่มีคุณภาพ การปฏิรูปการบริหาร การอำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การเสนอแนะแนวคิดใหม่ การส่งเสริมความรับผิดชอบ และการส่งเสริมความโปร่งใส
วิทยากรจาก สำนักงาน ก.พ.ร. ได้แสดงความมั่นใจว่าเกณฑ์ตามที่ได้เสนอมานี้จะต้องผ่าน อ.ก.พ.ร.อย่างแน่นอน โดยให้ความเชื่อมั่นถึง 90%
แต่จากการที่ได้รับฟัง ก็ยังไม่เข้าใจบางประเด็น ซึ่งได้สอบถามวิทยากรไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามมีข้อคิดเห็น/ข้อสงสัย เกี่ยวกับเกณฑ์ดังกล่าว พอสมควรแต่จะขอกล่าวในเรื่องที่ผมเห็นว่าน่าสนใจเรื่องเดียวก่อน คือ
ในข้อที่ 5.การเสนอแนะแนวคิดใหม่ มีข้อ 5.2 กำหนดว่า "มีวิธีการแก้ไขปัญหาผ่านเครื่องมือการจัดการความรู้แบบใหม่" จึงเกิดอาการงง เลยถามวิทยากรไปว่า
เครื่องมือการจัดการความรู้แบบใหม่คืออะไร เครื่องมืออันใดเก่า อันใดใหม่ แบ่งที่ไหน ที่ปี พ.ศ หรือที่เทคนิค/เทคโนโลยีสารสนเทศ(IT)
วิทยากรก็ตอบไปทางทฤษฎีการจัดการความรู้ มีการยกตัวอย่างเครื่องมือที่หลากหลาย รวมถึง ชุมชนนักปฏิบัติ(CoP)
ผมก็เลยขอถามใหม่ว่า ชุมชนนักปฏิบัติ(CoP) นี่จัดว่าใหม่หรือเก่า
วิทยากรก็ตอบว่า "ต้องการการแข่งขันในระดับนานาชาติ จึงต้องการให้มีการคิดเครื่องมือใหม่"
ผมก็เลยถามอีกว่า ความต้องการของเกณฑ์นี้คือ การเสนอแนะแนวคิดใหม่ ถ้าเราใช้เครื่องจัดการความรู้ที่อาจจะเก่า แต่ได้แนวคิดใหม่ที่ปรับปรุงคุณภาพการทำงานได้ก็น่าจะถือว่าสัมฤทธิ์ผล ดังนั้นในข้อ 5.2 น่าจะกำหนดว่า "มีวิธีการแก้ไขปัญหาผ่านเครื่องมือการจัดการความรู้" ก็พอไม่ต้องมีแบบใหม่
จากนั้นก็มีการชี้แจงจากวิทยากรอาวุโสอีกท่านแทน โดยสรุปคือเป็นการนำมาตรฐานของสหประชาชาติมาใช้ (แต่ก็น่าจะปรับได้นะครับ) แต่ก็จะมีงานชี้แจงที่เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นได้ใน 11 ส.ค.53 ประเด็นนี้เลยต้องจบไป อย่างไรก็ดีถ้าท่านใดมีแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องมือการจัดการความรู้แบบเก่า และแบบใหม่ ขอได้โปรดร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ