สิทธิประกันสังคม:ไม่ไปใช้สิทธิโรงพยาบาลตามบัตรฯ แล้วทำไมต้องจ่ายเงินเอง?


ไม่ไปใช้สิทธิโรงพยาบาลตามบัตรฯ แล้วทำไมต้องจ่ายเงินเอง?

ไม่ไปใช้สิทธิโรงพยาบาลตามบัตรฯ แล้วทำไมต้องจ่ายเงินเอง?

                คุณ “เสรี” ถือบัตรรับรองสิทธิฯ โรงพยาบาล “ก” เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล “ข” ด้วยอาการแน่นหน้าอก รู้สึกเหนื่อยเวลาออกแรง แพทย์ตรวจคลื่นหัวใจพบว่า หัวใจเต้นช้า ไม่ได้รับการรักษา ผู้ประกันตนจึงไปเข้ารับการรักษาตัวต่อ ณ โรงพยาบาล “ค” ในวันเดียวกัน ด้วยอาการความดันโลหิต 160/170 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 52 ครั้ง/นาที หายใจ 22 ครั้ง/นาที อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ไม่ซีด หัวใจ ปอดปกติ ไม่มีอาการบวม ตับ ม้าม คลำไม่พบความผิดปกติ แพทย์วินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดรุนแรง ผลการเอ็กซเรย์ด้วยวิธีฉีดสีเข้าหลอดเลือดหัวใจพบมีหลอดเลือดหัวใจตีบ ให้การรักษาโดยการทำบอลลูนขยายหลอดเลือด นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล “ค” 3 วัน

         คณะกรรมการการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคมพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ผู้ประกันตนคุณ “เสรี” เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล “ข” นั้น เป็นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานประกันสังคม ส่วนกรณีที่คุณ “เสรี” เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล “ค” แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นภาวะระบบการหายใจผิดปกติ (Unstable angina) และได้รับการทำบอลลูนขยายหลอดเลือด คือ elective schedule (นัดมาทำการรักษา) จึงพิจารณาว่าผู้ประกันตนไม่มีเหตุผลอันควรที่จะไม่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ เห็นควรให้ผู้ประกันตนคุณ “เสรี” รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล “ค” เอง

 ประสบการณ์จากผู้เขียน

เมื่อผู้ประกันตนเจ็บป่วยและไปตรวจที่ รพ.ที่ไม่ได้ระบุไว้ในบัตรรับรองสิทธิฯแล้วพบโรคที่ต้องทำการรักษาต่อเนื่อง—ควรกลับไปปรึกษาที่ รพ.ตามบัตรรับรองสิทธิฯเพื่อให้ทีมรักษาพยาบาลพิจารณาการรักษาและการส่งตัวตามขั้นตอนที่ถูกต้องนะคะ จะได้ไม่เสียเงิน

 ขอขอบคุณ--กลุ่มงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์  สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคมและน้องเจี๊ยบ พิมพิมล ดอนผิวไพร น้องธุรการที่ช่วยจัดพิมพ์บทความให้ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 368417เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 09:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม 2012 17:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (27)

อยากทราบว่าทำไมประกันสังคมที่บังคับให้ทำทุกคนเวลาใช้สิทธิถึงไม่ได้เต็มที่

การบริการก็แบ่งแยกสำนักงานประกันสังคมไม่เคยคิดจะทำอะไรเลย

ไม่ลองออกแบบสอบถามประเมินการให้บริการกับประชาชนดูบ้างล่ะคะ

แล้วทำไมต้องจำกัดให้ใช้แต่โรงพยาบาลในเขตพื้นที่ทำงานเท่านั้นไม่เข้าใจ

อย่างนี้เอาเงินที่เสียไปไปทำประกันชีวิตไม่ดีกว่าเหรอ

ตอนนี้เจ็บป่วยอยู่ลองมาทุกแบบแล้ว เจ้าหน้าที่ประกันสังคมตอบชัดเจนทุกอย่างนะคะเวลาถามแต่ความสะดวกที่โรงพยาบาลที่รักษาไม่เป็นอย่างที่คิด เป็นเรื่องจริงเลยคะว่าบางโรงพยาบาลแบ่งแยกประเภทคนไข้อย่างเห็นได้ชัดมาก.. โรงพยาบาลปฎิบัติกับเราดูต่ำต้อยยังไงไม่รู้

ของผมก็เช่นกันครับ
1. รักษาที่ รพ.ระบุในบัตร หมดนัด 2- ครั้ง มีการตรวจเลือด แต่ผลสรุปว่า ไม่พบความผิดปกติของผลตรวจเลือด (อาการปวดตามข้อ) การตรวจของหมอก็แค่อ่านผลตรวจเลือดไม่มีการทำสอบหรือสัมผัดกับผู้ผู้เลย 2. ไปทำการรักษาที่ รพ.นอกสิทธิ์ (ศิริราช) ผลการตรวจเลือด ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อตรวจละเอียดพบว่าเนื้อเยื่อตามข้ออักเสบ ค่าใช้จ่ายในการตรวจรักษา นำมายื่นเบิก ประกันสังคม ทางคณะกรรมการ ไม่ให้เบิกเนื่องจากไม่อยู่ในหลักเกณฉุเเฉิน

คำถามมีอยู่ว่า
1. ในเมื่อการรักษาของ รพ. ที่ระบุในบัตร ไม่สามารถรักษาได้หรือไม่ใส่ใจที่จะทำการรักษาและมีผลการตรวจในอาการเดียวกันมาเป็นข้อยืนยันความบกพร้องของเจ้าหน้าที่ รพ. ทำไมไม่ให้สิทธิ์ ในการเบิก และนำค่าใช้จ่ายไปเรียกคืนกับ รพ. แรก 2. ดังนั้นผู้ประกันตน ที่ไม่มีเงินพอในการรักษาตัวเอง ก็ต้องยอมรับการรักษา เพราะเชื่อว่า ผู้ที่ทำการรักษาได้ทำการตรวจอย่างดี แล้ว อย่างันหรือ (จำยอม เพราะไม่ และไม่มีเงินพอ) 3. ควรยกเลิกการระบุ รพ. ในบัตร หน้าจะให้ ผู้ประกันตนมีสิทธิ์ ที่จะเข้ารักษาที่ไหนก็ได้ แล้วนำใบเสร็จมาทำการเบิกจ่าย เหมือนกับการทำประกันสุขภาพของเอกชน แทน โดยการกำหนดวงเงินในการรักษา 4. การระบุ รพ. หน้าจะเป็นช่องทางให้ รพ. ได้รับเงินสนับสนุน ต่อหัวไปก่อน แต่การรักษา ไม่ได้ใส่ใจ อะไรมากนัก และก็ขาดความรับผิดชอบ กับผู้ป่วย (ถึงได้มีการแบ่งแยก การรักษาอย่างชัดเจน กับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ สิทธิ์)

จากผู้ประกันตนคนหนึ่ง

จริงอย่างที่เข้าใจครับ ผมเคยเข้ารักษาอาการปวดข้อมือที่โรงพยาบาลเอกชนห่งหนึ่งย่านพระราม 2 (นคร..)นั่นแหละครับ เวลาตรวจผมก็นึกว่าจะดีเหมือนลูกค้าทั่ว ๆ ไป สุดท้ายหมอยังไม่เคยสัมผัสมือผมเลยแล้วก็ไม่ได้มีการเอ็กซเรย์อะไรทั้งนั้น ผมได้ยาพารามา 2 แผง แล้วก็ยานวดขององค์การเภสัชกรรม ราคาไม่กี่บาท ทั้ง ๆ ที่แต่ละเดือนผมจ่ายเงินเข้าประกันสังคมตอนนั้นก็ 500 กว่าบาท แล้วใช้สิทธิ์รักษาครั้งเดียวต่อปี ผมได้แค่ยาธรรมดาตามท้องตลาดมา ท่านคิดว่าหายมั้ยครับ แน่นอนไม่หายหรอก ต่างจากน้องผมที่ทำประกันชีวิต พอดีตกบันไดต้องเข้าเฝือกอ่อน หมอดูแลดีมากราวกับพระเจ้า ตอนนี้ผมไม่มีศรัทธากับการประกันสังคมแล้ว ผมหันมาทำประกันชีวิตแล้วครับ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจจะออกจากกรอบของประกันสังคมก็ลองทำประกันชีวิตนะครับ ดีกว่าเยอะ ขอรายละเอียดได้ที่ 0833838735 นะครับ ขอบคุณครับ

ทำบัตรประกันสังถึงใช้ไม่ได้กับโรงพยาบาลทุกคะ เพราะเวลาเจ็บป่วยฉุกเฉยคนไข่อยู่คนละจังหวัดไม่ต้องนั่งรถมาที่โรงพยาบาลที่ตัวเองทำประกันสังคมไว้ ไม่ตายก่อนหรอคะ

ไหนๆก็ทำแล้วน่าจะใช้ได้กับทุกโรงพยาบาลนะคะ คนที่มีประกันสังคมจะได้สะดวกต่อการรักษา ไม่ต้องมาห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลเพราะคนไข่บางเค้าก็ไม่มีเงินาำรองจ่ายนะคะ รบกวนเข้าใจประชาชนที่เข้าเจ็บด้วยคะ

เห็นด้วยกับคุณ Nut ผู้ประกันตนน่าจะใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล เราก็เป็นผู้ประกันตนเหมือนกัน  เจอกับตัวเลย      ปวดท้องรอบเดือนหนัก  ไปตรวจบ่อยมาก  อย่างมากก็แค่ตรวจภายในกับแจกยาพารา  ล่าสุดตั้งใจจะไปฝากท้อง  จึงอัลตร้าซาวด์ให้ จึงได้เจอช็อคโกแลตซีสต์ที่รังไข่  การรักษาในโรงพยาบาลที่ระบุไว้ในบัตร แนะนำให้ตัดรังไข่ทิ้งอย่างเดียว   ยาอะไรก็ไม่ให้เลยทั้งที่เราตรวจสอบข้อมูลจากโรงพยาบาลอื่น มันสามารถรักษาวิธีอื่นได้  แต่ตอนนี้เราแท้งแล้ว เรายังไม่มีลูก เลยเลือกที่จะไปรักษาโรงพยาบาลอื่นแทน  เราคนป่วยก็ต้องเลือกรับการรักษาที่ดีที่สุดกับเรา เมื่อการรักษาของ รพ. ที่ระบุในบัตร ไม่ได้  ขอหนังสือส่งตัว หมอก็ไม่ออกให้ อ้างว่ารักษาที่นี่ก็ได้   ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกให้เค้าตัดอวัยวะของคุณทั้งที่มันมีวิธีการรักษาอื่นอยู่มั้ย  ผู้ประกันตน ที่ไม่มีเงินพอในการรักษาตัวเอง ก็ต้องยอมรับการรักษา เพราะเชื่อว่า ผู้ที่ทำการรักษาได้ทำการตรวจอย่างดี แล้ว อย่างั้นหรือ (จำยอม เพราะไม่มีเงิน และไม่มีเงินพอ)  บอกได้เลยไม่มีใครอยากเจ็บอยากป่วยหรอก     ควรยกเลิกการระบุ รพ. ในบัตร หน้าจะให้ ผู้ประกันตนมีสิทธิ์ ที่จะเข้ารักษาที่ไหนก็ได้ แล้วนำใบเสร็จมาทำการเบิกจ่าย เหมือนกับการทำประกันสุขภาพของเอกชน แทน โดยการกำหนดวงเงินในการรักษา   4. การระบุ รพ. หน้าจะเป็นช่องทางให้ รพ. ได้รับเงินสนับสนุน ต่อหัวไปก่อน แต่การรักษา ไม่ได้ใส่ใจ อะไรมากนัก และก็ขาดความรับผิดชอบ กับผู้ป่วย (ถึงได้มีการแบ่งแยก การรักษาอย่างชัดเจน กับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้ สิทธิ์) 

เรามีสิทธิประกันสังคมถ้าเราเข้ารักษาที่ไหนก็จะขึ้นช่ายป่าวค่ะถึงแม้ไม่ใช้่โรงพยาบาลที่เราต้องใช้สิทธิอะค่ะ

วิทวัส ประเสริฐศรี

คืออยู่ชลบุรีมาตลอด ทำประกันสังคมไว้แต่ตรวจสอบสิทธ์อยู่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพ งง เลย แล้วตอนนี้เล็บฉีก ต้องขึ้นไปหาหมอที่กรุงเทพหรอครับ บัตรทองก็ใช้ไม่ได้

อยากทราบว่า ตอนนี้โทรไปเช็คสิทธิ์ประกันสังคมที่สำนักงานประกันสังคมเข้าตอบเราว่าสิทธิ์ประกันสังคมถูกตัดแล้วเนื่องจากขาดส่งเกิน 3 เดือน แล้วทำไมเข้าไปเช็คสิทธิ์ที่ สปสช. ยังขึ้นสิทธิ์ประกันสังคมอยู่ แล้วถ้าจะไปแจ้งขอใช้สิทธิ์บัตรทองจะทำได้ไมถ้ายังขึ้นสิทธิ์ประกันสังคนแต่ถูกตัดไปแล้วไม่สามารถเบิกได้แล้วค่ะ

เป็นเหมือนๆกันเลยค่ะ ปวดท้องเพราะเป็นโรคกะเพาะ ไปหาหมอตามบัตรบอกว่าเราปวดท้องจะคลอดลูก เราก้อท้องได้8เดือน แล้ว แต่เราบอกหมอว่าเราไม่ได้ปวดท้องจะคลอด เราปวดท้องกะเพาะจิงๆ หมอก้อยืนยันว่าจะคลอด เราเลยถามค่าคลอด 3หมื่นเกือบ4หมื่น วางเงินก่อน1หมื่น มันเกินไปไหมเขาไม่ตรวจอะไรให้เราเลยแค่จับท้องดู เขาเลยถามจะคลอดที่ไหม เราบอกไม่ ไปรัฐดีกว่า พอไปรัฐหมอตรวจ เราแค่มีโรคแทรกซ้อนลมในท้องเฉยๆๆ นอน2วันก้อกลับบ้านได้ ไม่ต้องเสียเงินถึงหมื่น เสียแค่3พัน


ใครอยากสอบใบขับขี่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ลองดูแอพนี้จ้า ฟรีแถมมีประโยชน์มากใครอยากสอบใบขับขี่ลองดูเลย แอพสอบใบขับขี่โหลดฟรีคลิกเลย >>> http://goo.gl/dp51Xm

เช่น บัตรรักษาที่โรงพยาล ก. แต่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ข จ่ายเินเอง เราสามราถนำบิลไปเบิกที่ ปกส.ได้ป่าวค่ะ

ต้องรอให้เป็นนักก่อนหรอถึงจะได้ใช้สิทธิรักษาของประกันสังคม บ้างทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นนักหรือเบาเราไม่ใช้หมอแต่ความปลอดภัยมันเป็นเรื่องสำคัญไมได้หรอทำไมเค้าถึงมองข้ามจุดๆนี้

ไม่เคยใช้สิทธิ์เลย เพราะเคยมีประกันสุขภาพที่ทำเอง ก็จะให้ประกันส่วนตัวและจ่ายเอง พอต้องมาให้ประกันสังคมจริงๆ เพราะมีตุ่มขึ้นตามลำตัว บางตุ่มมีหัวใสๆ และคันมากๆ เดาว่าเป็นอาการแพ้ แต่ไม่ทราบจริงๆ ว่าแพ้อะไร ซื้อยาทาน และทาเอาก็ไม่หาย ผ่านไป 3 วันไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจเดินทางไปใช้สิทธิประกันสังคม พร้อมให้คุณหมอดูยาที่ซื้อมารับทานทาน และทา หมอได้จ่ายยาคล้ายๆ กันมาให้เพิ่ม ทานติดต่อกัน 3 วันก็ยังคงไม่หาย หากแต่ตุ่มกลับเพิ่มขึ้นมาถึงคอ และแขนขา จึงเดินทางกลับไปหาหมออีก แต่เปลี่ยนหมอ ซึ่งผลการรักษายังคงได้ยามาเหมือนเดิม แต่เพิ่มจำนวนครั้งที่ให้รับประทาน ผ่านมาอีก 2 วัน ตุ่มขึ้มทั้งคอ ใบหน้า ศรีษะ และเป็นหนักมากในบริเวณล่มผ้าคือตุ่มติดๆๆ กันจนดูน่ารักเกลียด

ตอนนี่รู้สึกเหมือนกับว่า การไปหาหมอประกันสังคนเป็นเพียงการประวิงเวลาดูอาการ หากไม่หนัก ผู้ป่วยก็จะหายไปเอง แต่หากเป็นหนักขึ้น ก็อาจไปหาหมอที่อื่นเพราะทนการรักษาแบบเพิ่มยาไปเรื่อยๆไม่ได้ หรือถ้าคนป่วยกลับมาอีกค่อยว่ากันว่าจะเอาอยากไร

ไม่เข้าใจว่า ครั้งที่ 2 ที่กลับไปด้วยอาการที่แย่ขึ้น ทำไมคุณหมอจึงไม่นัดให้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งก็คือหมอผิวหนัง ยังคงปล่อยให้อาการหนักขั้น ตอนนี่กลุ้มใจคะว่าจะเอาอย่างไร เพราะไม่อยากต้องเสียค่ารักษาเอง แต่ว่าการต้องเสียเวลาไป รพ. และรอคิวเป็นวัน เพื่อให้ได้ยา ที่ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น

อยากให้ ปกส. ช่วยสงเสริมให้คุณหมอใส่ใจการรักษาคนไข้ ปกส. ให้เท่าเทียมกับคนไข้อื่นๆ อย่าแระวิงการรักษาเพียงเพื่อให้ค่ารักษาพยายาบต่อครั้งถูก การรีบรักษาให้คนไข้หายขากโดยเร็วต่างหาก ที่จะทำให้ประชาชนพ้นทุกข์ และกลับไปทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดี และภูมิใจที่ตนเองได้รับการดูแลอย่างดีจากสวัสดิการเบื้องต้นของชาติ


เหมือนกันครับ ทีแรกรักษาตัวอยู่ รพ ในเครือข่ายในบัตร 4 วัน อาการไม่ดีขึ้นจึงขอเข้า รพ ในจังหวัด แต่แพทย์ไม่ทำใบส่งตัวให้ และบอกว่าจะไม่เขียนประวัติการรักษาให้ด้วย จึงขอย้ายไป รพ นอกเขต แพทย์เขียนประวัติให้ แต่พอรักษาตัวได้ประมาณ 4 วัน พยาบาลมาบอกว่า ทางประกันสังคมไม่จ่ายค่ารักษาให้ ให้จ่ายเอง แล้วที่จ่ายให้ประกันสังคมทุกเดือนละ



เนื่องจากไม่นานมานี้ทางดิฉันเป็นแท้งคุกคาม ซึ่งตอนนี้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด เลยไปฉุกเฉินและหมอให้กลับบ้านมานอนเฉยๆ อย่าเคลื่อนไหวหรือเดินทางไกล เพื่อให้เด็กในครรภ์มีโอกาศพัฒนาต่อไป(ได้ขอประวัติเพื่อมารักษาที่ รพ.ที่มีสิทธิแล้ว แต่คุณหมอไม่แนะนำ) แล้วคุณหมอนัดอีก 1 อาทิตย์ เพื่อตรวจดูการพัฒนาการของเด็ก พอหาหมอเรียบร้อย(ได้จ่ายเงินสำรองไปก่อน) จนกลับมาทำงานก็ได้ไปเบิกเงินทดแทนกับประกันสังคม และได้บทสรุปว่า
1.ตอนไปฉุกเฉินไม่แน่ใจว่าจะสามารถเบิกได้หรือเปล่า ให้ส่งเอกสารไปก่อน ต้องรอเวชระเบียนจาก รพ.ที่ไปฉุกเฉิน
2. ตอนหมอนัด ไม่สามารถเบิกได้ ต้องมารักษาที่ รพ.ต้นสังกัดเท่านั้น เลยถามว่าสามารถเบิกตรงกับต้นสังกัดของสามีที่เป็นข้าราชการได้ไหม สรุปอาจไม่ได้
คำถาม?
1. เงินที่จ่ายไปทุกเดือน 700 กว่าบาท ไม่จ่ายได้ไหม ทำไมต้องบังคับ ในเมื่อฉุกเฉินที่อื่นก็เบิกไม่ได้ สุดท้ายต้องจ่ายเงินเองอยู่ดี เพราะเราไม่สามารถเลือกที่เกิด เจ็บ ตายได้
2. บางครั้งในกรณีที่เจ็บหนักไม่สามารถเดินทางไกลได้ ทำไมหมอนัดถึงไม่ให้เบิก เพราะบางครั้งผู้ใช้สิทธิก็ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดที่ทำงาน บางครั้งก็ไปป่วยที่บ้านและเวลาป่วยก็ต้องมีคนดูแล หากรักษา รพ.ที่มีภูมิลำเนาอยู่ก็จะไม่ลำบากคนดูแลด้วย และถามว่าจะเบิกตรงก็มาตัดสิทธิ สุดท้ายแล้วไม่ได้เงินคืนสักทาง แล้วเอาเงินที่จ่ายไปเอามาเก็บเองไว้จ่ายเองดีกว่าไหม บางคนปีๆหนึ่งแทบไม่เข้า รพ.เลย ไปคลีนิคหรือซื้อยากินเองตลอด พอป่วยหนักๆถึงจะไป แล้วต้องจ่ายเงินเองอีก มันรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบ ทั้งๆที่เราเคยสามารถเบิกตรงได้ มีประกันสังคมอีกด้วย
3. คนที่มีสิทธิเบิกจ่ายตรง ไม่ทำประกันสังคมได้ไหม ในเมื่อไม่สามารถเบิกเงินคืนได้ถ้าไป รพ.ที่ไม่มีสิทธิ เลือก รพ.รักษาก็ไม่ได้ ทั้งที่ รพ.นั้น รักษามาตลอด รักษาก่อนจะทำประกันสังคมอีก คนที่ไม่เข้า รพ.เลยภายในกี่ปีก็ว่าไปไม่ได้รับเงินคืน หากสอบบรรจุได้เงินที่จ่ายไปก็ไม่ได้คืน

#เพลีใจกับประกันสังคมมาก

คลำที่ท้องเป็นก้อนๆไปตรวจที่รพ.ประกันสังคม ให้เอาฉี่ไปตรวจสรุปเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หมอไม่ตรวจคลำดูที่ท้องเลยว่าตามที่ผู้ป่วยบอกเลยจะถามหมอก็ไม่ทันได้ถามนางสรุปตามผล แต่พอไปอีกโรงพยาบาล ให้หมอตรวจ หมอให้ไปอัล

ตร้าซาวน์พบเป็นก้อนเนื้อเจริญผิดที่ในโพรงมดลูก  หนังคนละม้วนกับรพ.ประกันสังคมเลย ตอนนี้เตรียมตัวจะผ่าเอาเนื้อออก  รพ.ประกันสังคมห่วยมากๆไม่รู้ประกันสังคมจะทำให้การรักษามันดีกว่านี้ได้มั๊ย

อยากทราบว่ายื่นเรื่องเบิกเงินค่านอนรักษาพยาบาลนอกสิทธิประกันสังคม ยื่นไป3เดือนแล้วยังไม่ได้เลย เรื่องก็ไม่นำเนินให้ เงียบหมายความว่ายัง ได้ไม่ได้ยังก็ไม่ติดต่อมา ตอนจ่ายก็จ่ายเต็มๆพอเบิกนี้ทำไมมันยากจัง 

อยากทราบว่ายื่นเรื่องเบิกเงินค่านอนรักษาพยาบาลนอกสิทธิประกันสังคม ยื่นไป3เดือนแล้วยังไม่ได้เลย เรื่องก็ไม่นำเนินให้ เงียบหมายความว่ายัง ได้ไม่ได้ยังก็ไม่ติดต่อมา ตอนจ่ายก็จ่ายเต็มๆพอเบิกนี้ทำไมมันยากจัง 

ระบบประกันสังคมทุกวันนี้แย่ๆสิทธิของผู้ประกันตนไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร หักเงินทุกเดือนแต่สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับไม่ค่อยดีเลย

ระบบประกันสังคมทุกวันนี้แย่ๆสิทธิของผู้ประกันตนไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร หักเงินทุกเดือนแต่สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับไม่ค่อยดีเลย

ข้อเท็จจริงพวกรัฐเขาต้องการอะไรจากประชาชน ถึงออกกฎแบบงงๆ 

ในเมื่อต้องการแสดงความช่วยเหลือ และให้ประชาชนนำส่งเงินประกันสังคม แม้จะเข้า ร.พ.รัฐ แต่ไม่ใช่ ร.พ.ที่ระบุในบัตร ก็ยังเบิกไม่ได้ ทั้งๆ ที่ใบเสร็จระบุว่าเบิกได้

และการรักษาบางอย่าง หรือหลายๆ อย่างด้วยซ้ำ ที่ ร.พ.ตามบัตร ไม่มีความสามารถในการรักษาได้ดี คนไข้ควรมีสิทธิ์เข้าถึงสิทธิ์การรักษาใน ร.พ.รัฐ ทุกที่ ทุกกรณี ไม่ว่าจะฉุกเฉินหรือไม่ฉุกเฉิน 

ไม่ควรระบุการรักษาเฉพาะ ร.พ.ตามบัตร หรือในเครือ 

จะให้จ่ายสมทบเท่าไรก็ว่ามาตรงๆ ไม่ควรตีกรอบการรักษาแบบเดิมๆ

คนไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่เจอกรณี ร.พ.ตามบัตรบางแห่ง บกพร่องในการรักษา คงไม่เข้าใจ 

ชีวิตทุกชีวิตมีความสำคัญ เมื่อรัฐต้องการช่วยเหลือประชาชนจริง ก็ช่วยให้เท่าเทียมสิทธิ์ข้าราชการจะได้ไหม จะให้ส่งเงินสบทบเพิ่มก็ได้ หรือจะเพิ่มอีกมาตราก็ได้ เผื่อคนที่เขาอยากเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพในโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ เช่น ศิริราช รามา จุฬา ฯลฯ

ประกันสังคมควรจะใช้ที่ไหนก็ได้ หรือไม่ก็ให้สำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิกย้อนหลังได้เหมือนการทำประกันกับบริษัทเอกชนทั่วไป ถ้าเบิกไม่ได้เอาเงินไปซื้อประกันเก็บไว้ไม่ดีกว่าหรอ หรือไม่ควรยกเลิกประกันสังคมไปเลย เสียเงินส่งแต่ไม่ทีประโยชน์ ใช้จริงไม่ได้ ขอพื้นที่ในการระบายหน่อยนะคะ

ประกันสังคมควรจะใช้ที่ไหนก็ได้ หรือไม่ก็ให้สำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิกย้อนหลังได้เหมือนการทำประกันกับบริษัทเอกชนทั่วไป ถ้าเบิกไม่ได้เอาเงินไปซื้อประกันเก็บไว้ไม่ดีกว่าหรอ หรือไม่ควรยกเลิกประกันสังคมไปเลย เสียเงินส่งแต่ไม่ทีประโยชน์ ใช้จริงไม่ได้ ขอพื้นที่ในการระบายหน่อยนะคะ

เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า ประกันสังคมควรใช้ได้กับทุกโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าจะเป็นเอกชนไปรัฐบาล หรือรัฐบาลไปเอกชนก็ได้ และจะผ่าตัดเล็ก-ใหญ่ เบิกได้หมด (จากคนที่ผ่าตัดบ่อยๆ เนื่องจากโรคภูมิแพ้ เราผ่าไซนัส ต่อมทอนซิลฯลฯ เรารักษาที่ร.พ.รัฐใกล้อนุเสาวรีย์ ตั้งแต่เด็กๆ ส่วนบ้านอยู่สระบุรี เพราะย้ายกลับบ้านหลังพ่อแม่เกษียณงานที่กทม.)

ประเทศไทยเจริญได้แล้ว ทำให้เหมือนตปท.สักที!!!คนไทยจะได้มีความสุข คนรวยคนจนจะได้อยู่ร่วมกันได้ สิทธิเท่าเทียมกันหมดทุกคน หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ กรุณาดูแลผู้มารับบริการให้ทั่วถึง เท่าเทียมกันกันด้วย อย่าแบ่งชนชั้นหรือตามบัตรต่างๆ #สงสารคนจน #ควรได้รับการรักษาและผ่าตัดเพื่อรักษาได้ทุกโรค ไม่มีแบ่งความรุนแรงและไม่รุนแรง ไม่มีแบ่งโรค นอกจากผู้ป่วยขั้นวิกฤตจริงๆ

คนไม่เจ็บไม่ป่วย คนรวย ไม่เจอกรณี ร.พ.ตามบัตรบางแห่ง บกพร่องในการรักษา หรือรักษาไม่ดีและดูแลไม่ดี คงไม่เข้าใจ ชีวิตทุกชีวิตมีความสำคัญ เมื่อรัฐต้องการช่วยเหลือประชาชนจริง ก็ช่วยให้เท่าเทียมสิทธิ์ข้าราชการหรือคนรวยมากๆ จะได้ไหม จะให้ส่งเงินสบทบเพิ่มก็ได้ หรือจะเพิ่มอีกมาตราก็ได้ เผื่อคนที่เขาอยากเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพในโรงพยาบาลรัฐอื่นๆ เช่น ศิริราช รามา จุฬา พระมงกุฎเกล้า ฯลฯ#ขอร้องเถอะ #ได้ปรดเห็นใจปชช.ตัวเล็กๆคนจนๆที่ป่วยบ่อยๆ จะได้ไหม?? แค่นี้เอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท