สันติชน
นาย วรนันท์ มูฮัมหมัด รอมฎอน บุนนาค

วิถึเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรกรรมยั่งยืน


เกษตรกรแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเรื่องปุ๋ย เรื่องพันธ์ข้าว ที่ไม่เคนรู้ก็ได้รู้ ที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น
                 วิถีเกษตรกรในไร่นาสวนผสม ในเกษตรผสมผสาน เกษตรกรรมยั่งยืน หรือเกษตรปราณีต เกษตรทฤษฎีใหม่ ล้วนแต่เป็นภูมิปัญญาอันดั่งเดิมเก่าแก่ของคนอีสาน สั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนาน คุณบำรุง คะโยธา นายก อบต.สายนาวัง จ.กาฬสินธุ์ นักเคลื่อนไหว นักปฏิบัติ และเกษตรกรต้นแบบ เล่าให้เราฟังว่า วิถีชีวิตของแกอยู่ได้ด้วยวิถีเกษตรกรรมยั่งยืน ปลูกทุกอย่างทั้งไม้ผลไม้ยืนต้น ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงหมู่ ลดเลิกอบายมุข และการทำเกษตรที่ใช้สารเคมี แกเล่าว่าในแต่ละปีแก่ให้ความรู้เกษตรในตำบลเรื่องการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ อย่างหนัก บางปีแกมีปุ๋ยหมักจากคอกหมูเป็น40 - 50 ตัน พยายามให้เกษตรกรรื้อฟื้นพันธ์ข้าวหลากหลายชนิดอันเป็นภูมิปัญยาดั้งเดิมของชาวบ้าน ขุดบ่อเลี้ยงปลาไว้กิน จ่ายแจกเหลือขาย สร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปทั้งตำบลสายนาวังอย่างมีประสิทธิภาพ จัดสร้างอาศรมไทบ้านไว้เป็นศูนย์ภูมิปัญญาและศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้   และได้สร้างแนวคิดการผลิตพืชหลายชนิด ลดรายจ่าย ทำอยู่ทำกินพึงพาภายนอกน้อยที่สุด เรียกว่าแกง 1 หม้อไม่ต้องไปซื้ออะไรจากตลาดได้เป็นดี เกษตรที่สานาวังจึงตกผลึกทางความคิดอย่างหนักแน่นในการหาทางออกด้วยการพัฒนาวิถีเกษตรกรรมยั่งยืน และที่สำคัญยึดแนวปรัชญาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงกันถ้วนหน้า ลูกหลานที่เติบโตในครอบครัวเศรษฐกิจพอเพียงเช่นนี้น่าจะมีความสุข ร่งกายแข็งแรงและสขภาพจิตดี แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องนี้ เห็นชัดเจนว่าบำรุุง คะโยธา ไม่ใช่ผู้นำมอ็บรับจ้าง หากแต่เป็นเกษตรต้นแบบ เกษตรกรรมยั่งยืนที่แท้จริง
หมายเลขบันทึก: 36661เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2006 10:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

   การทำการเกษตรเศรษฐกิจเป็นการทำการเกษตรที่เบียดเบียนผู้อื่นน้อยที่สุด เบียนเบียนปัจจัยภายนอกน้อยที่สุด ปุ๋ย  ยาฆ่าแมลง น้ำมันสิ่งเหล่านี้เราผลิตไม่ได้เองในประเทศ เราใช้ทุกอย่างที่มีอยู่ในฟาร์ม บำรุงพระแม่ธรณีของแผ่นดิน โดยการใส่ปุ๋ยธรรมชาติ  พระแม่ธรณีท่านการจะดูแลอาหารได้พืชพรรณธัญหารให้เรา  เราก็อิ่มท้อง อิ่มใจ  แจกจ่ายได้  สะสมพระแม่คงคาโดยการขุดสระเก็บไว้ใช้ในหน้าแล้ง ไว้เลี้่ยงดูสัตว์เลี้ยง ไม้ผลผลต่างๆ อยากกินอะไรก็ปลูก แล้วกินทุกอย่างที่ปลูก เป็นอาหารบริสุทธิ๋์ ไม่ปนเปื้อนสารพิษร่างกายเราก็แข็งแรง ไม่มีโรค  ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงเนื่องจากเราปลูกพืชหลายชนิดธรรมชาติเขาจะควบคุมและดูแลศัตรูพืชแทนเรา ถ้ามีมากเราก็ใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเช่น สะเดา หางไหล กระเพา ฉีดพ่น เราเบียนเบียดธรรมชาติ  ธรรมชาติก็จะตอบแทนเรา  ผลผลิตที่เหลือก็แจกจ่ายให้ญาติพี่น้องหรือคนรู้จัก  เกิดการแลกเปลี่ยน ชุมชนเกิดความผาสุก คนโบราณเขาเก่งกว่าเรา เขาเรียนรู้ธรรมชาติ แล้วให้ธรรมชาติดูแลเรา  แต่คนสมัยนี้ทำลายธรรมชาติเราก็ทำลายเราเหมือนกัน  

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท