เจเจ
เจเจ http://www.hi5.com/friend/profile/displaySameProfile.do?userid=175773721 jj chansakul

โลกมีคนเสียสละเพื่อสังคมมากมาย คนที่เราไม่เห็นคุณค่าจนเมื่อพวกเขาจากไป คำขอร้องของพวกเขามิใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อโลกทั้งใบ


“ป่าไม้จะอยู่ได้ คนต้องอยู่ได้ก่อน

ประกอบ

เสียงสุดท้ายให้โลกได้ยิน
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
เสียงสุดท้ายให้โลกได้ยิน ในวันแรกที่ สืบ นาคะเสถียร เริ่มทำงานในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2532 เขาจับไม้เถื่อนกว่าสองร้อยต้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งแผ่คลุมส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัย เป็นต้นน้ำลำห้วยหลายสาย ทิวเขาขวางกั้นทิศทางลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดฝน เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด การทำลายป่ามีทั้งการตัดไม้ การรุกล้ำ เผาป่า และการล่าสัตว์อย่างเป็นระบบ มีนายทุนเข้ามารับซื้อ ‘สินค้า’ ถึงในหมู่บ้าน และจัดหาปืนและกระสุนให้ชาวบ้าน โดยมีใบสั่งล่วงหน้าและให้ราคาสูง เช่น เขากระทิง 4,000 - 5,000 บาท เนื้อกิโลกรัมละ 70 บาท เป็นต้น การจับกุมไม่ประสบผล เนื่องจากต้องขอหมายจับจากตำรวจท้องที่ก่อน เช่นเดียวกับปัญหาไม้เถื่อน เพราะผู้บงการชาวบ้านให้ไปตัดไม้ก็คือนายทุนที่มีเงินตราและเส้นสาย ไม่ช้านานเขาก็รู้ว่า ตนเองมีค่าหัว 6,000 บาท โทษฐานต่อต้านขบวนการค้าไม้เถื่อนและสัตว์ป่า มองโลกในแง่ดี ค่าหัวของเขาสูงกว่าเขากระทิงเล็กน้อย! การรักษาป่าห้วยขาแข้งที่กินพื้นที่กว่าหนึ่งล้านไร่ด้วยกำลังเพียงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 30 คน ลูกจ้างชั่วคราว 120 คนเป็นเรื่องที่ยากเย็น มิพักเอ่ยถึงค่าดูแลไร่ละไม่ถึงหนึ่งบาทต่อปี อาวุธประจำตัวของคนรักษาป่าคือปืนลูกซองห้านัด ระยะยิ่งหวังผลเพียงเก้าเมตร ขณะที่นักล่าสัตว์ใช้ปืน เอ็ม. 16 เพียบพร้อมด้วยวิทยุสื่อสารและรถยนต์ที่สมบุกสมบันในป่าได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม่มี จึงไม่แปลกที่เจ้าหน้าที่รักษาป่าถูกลอบยิงตายไปคนแล้วคนเล่า แต่ไม่เกินวันผู้คนก็ลืมเลือน เขาออกแรงกายแรงใจประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนในประเทศรู้จักคุณค่าของการรักษาป่า และเข้าใจบทบาทอันยากเข็ญและไร้การดูแลของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่เสียงของเขาเบาเกินไป เขาจึงเขียนเอกสารเสนอให้ป่าทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้งเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก เพราะเชื่อว่ามันเป็นทางรักษาชีวิตของป่าโดยใช้แรงกดดันจากนานาชาติ เขาบอกว่า “ป่าไม้จะอยู่ได้ คนต้องอยู่ได้ก่อน เพราะว่าคนที่ด้อยโอกาสในสังคม เขาไม่สามารถเรียกร้อง ไม่มีอำนาจเขาอยู่กับธรรมชาติ... หากคนของรัฐเข้าใจปัญหานี้แล้วกำหนดนโยบายออกมาเพื่อคนกลุ่มนี้บ้าง ปัญหาก็จะหมดไป” ไม่มีใครสนใจแนวคิดของเขา เขาบอกกับคนใกล้ชิดอย่างขมขื่นว่า “ทีนี้ผมแน่ใจแล้วว่า ผมกำลังต่อสู่อย่างโดดเดี่ยว ผมไม่อาจจะคาดหวังจากใครได้อีก” สืบ นาคะเสถียร เลือกจบชีวิตตนเองในรุ่งสางของวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 ส่งเสียงสุดท้ายของเขาให้โลกได้ยิน พ.ศ. 2534 หนึ่งปีหลังจากความตายของบุรุษผู้พยายามต่อลมหายใจของป่าด้วยลมหายใจของเขาเอง องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่และห้วยขาแข้งเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลก โลกมีคนเสียสละเพื่อสังคมมากมาย คนที่เราไม่เห็นคุณค่าจนเมื่อพวกเขาจากไป คำขอร้องของพวกเขามิใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อโลกทั้งใบ สืบ นาคะเสถียร กล่าวว่า “พวกที่ชอบล่าสัตว์ป่าและชอบกินเนื้อสัตว์ป่า ผมขอเถอะ พวกที่ชอบซื้อสัตว์ป่ามาเลี้ยงก็เช่นกัน ธรรมชาติเขาเลี้ยงได้ดีกว่าอยู่แล้ว” สิ่งที่เราช่วยทำได้นั้นง่ายมาก หยุดซื้อสัตว์ป่า หยุดซื้อของป่า ลดการใช้ไม้ ลดการใช้กระดาษโดยไม่จำเป็น สิ่งนี้ดูจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและไร้พลัง แต่หากทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน พลังของมันอาจโอบอุ้มป่าไม้ของเราให้ยืนนานต่อไปถึงลมหายใจของลูก
หมายเลขบันทึก: 365607เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2010 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 12:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท