KM สร้างสุขที่เมืองนคร
KM สร้างสุขที่เมืองนคร
“อาจารย์หมอวิจารณ์ช่วยดูให้ผมหน่อยว่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้เป็น KM หรือไม่” นพ. บัญชา พงษ์พานิช หนึ่งในคณะกรรมการบริหารแผนคณะ 3 ของ สสส. บอกผมเมื่อวันที่ 8 ก.ย.48
ผมเอาหนังสือเล่มนี้กลับมาบ้าน พลิก ๆ ดูก็พบเรื่องที่ 2 “กายบริหารพิชิตโรค” ผมบอกตัวเองว่า นี่เป็นเรื่องเล่าที่ดี เป็นเรื่องราวของชมรมพิทักษ์ผู้สูงอายุบ้านหัวถนน ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
“ควนเคร็ง” เป็นชื่อที่ติดอยู่ในสมองผม ในฐานะพื้นที่พิเศษ คือเป็นป่าพรุ ในทำนองเดียวกันกับพรุโต๊ะแดงที่นราธิวาส ผมเคยฟังทีมวิจัยของ ศ. สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ นำเสนอผลการวิจัยเรื่องควนเคร็ง ได้ความรู้ความเข้าใจมาก ผมได้ความประทับใจว่าคนควนเคร็งเป็นคนจน และที่พื้นที่นี้เป็นป่ากระจูดที่เป็นกระจูดชั้นดี
เรื่องราวของผู้สูงอายุที่บ้านหัวถนน ต.เคร็ง ที่รวมตัวกันเป็นชมรมและคิดท่าออกกำลังกายขึ้นจากวิถีการทำงานคือการทำเสื่อกระจูด เพื่อรักษาโรคเมื่อยเข็ดของคนสูงอายุ จนในที่สุดได้ “ท่ากระจูดออกกำลังกาย” 22 ท่าที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ พร้อมเพลงประกอบที่แต่งกันเอง
ต้องอ่านเรื่องราว พัฒนาการ และการต่อยอดความรู้จากการทดลองปฏิบัติ ข้ามแดนความรู้ไปยังแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู จึงจะเห็น “กระบวนการ KM ฉบับชาวบ้าน” ที่ชัดเจน
เรื่องเล่านี้ยอดเยี่ยมตรงที่เล่าให้เห็นคน คือเห็นตัวตนของผู้สูงอายุในชมรม โดยเฉพาะเรื่องเล่าของป้าดวง ทองคำ อายุ 78 ปี ที่ท่าออกกำลังกายช่วยให้หลังที่คู้กลับมายืดตรงได้ตามปกติ (หน้า 45)
ผมอ่านเรื่องแรกเดียวก็ตอบหมอบัญชาได้เลย ว่า “เป็น KM ฉบับชาวบ้านที่ยอดเยี่ยม” ขอแสดงความยินดีต่อคุณสุมาลี อุตมาภินันท์ และคุณศิรินทร์ภรณ์ อัจจิมางกูร “คุณอำนวย” ผู้ดำเนินการโครงการนี้ด้วยครับ
สคส. จะส่งทีมไปเยี่ยมโครงการทั้ง 6 โครงการ เพื่อ “จับภาพ KM” นะครับ เพื่อช่วยกันต่อยอดความรู้เพื่อการสร้างสุขในสังคมไทย หมุนเกลียวความรู้เรื่อยไปไม่รู้จบ
ปกหนังสือ
วิจารณ์ พานิช
9 ก.ย.48
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น