นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมื่อทหารโรมันปราชัยในสมรภูมิบุลบัยส์ และถอยทัพกลับไปหามุเกากิสที่มันฟ์ คำพูดของอัรมะนูสะฮฺยังคงก้องอยู่ในความคิดของมาเรีย ตลอดหนึ่งเดือนที่ตกอยู่ภายใต้การปิดล้อม ความคิดหนึ่งต่อยอดขึ้นมาจากความคิดหนึ่งและต่อยอดเป็นความคิดใหม่เรื่อยไป ตามความรู้สึกเชิงวรรณคดีและปรัชญาของนางทำให้นางกระทำการดั่งนักคิดที่ตั้ง
มโนทัศน์ขึ้นมาจากเหตุผลเชิงตรรกะและการโต้แย้ง แล้วยอมรับความจริงเพราะมันเป็นความจริงและยอมรับผลจากเหตุ
ธรรมชาติของความคิดเมื่อมีผลต่อจิตใจก็จะเกิดเป็นความคิดต่อไป ด้วยคำพูดของอัรมะนูสะฮฺที่มาเรียประทับใจ นางกล่าวว่า “ แมซซิอาห์เป็นผู้เริ่มต้น ซึ่งการเริ่มต้นจะต้องมีการสานต่อให้สมบูรณ์ การรับใช้มนุษยชาติกระทำได้ด้วยจิตใจที่สูงส่ง ไม่สนใจใยดีสิ่งอื่นอีกนอกจากเรื่องของใจนั้น ประชาชาติที่เสียสละทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตจะไม่ได้อะไรเลย แต่ประชาชาติที่ยอมสละชีพ ก็จะได้ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง ”
สัจจธรรมอิสลามข้อทำให้สติปัญญาชาวโรมันผู้นี้กลายเป็นอาหรับ ต่อมาเมื่ออัมร์ บินอาศ ต้องการส่งอัรมะนูสะฮฺไปยังบิดาของเธอ มาเรียทราบเรื่องดังกล่าวก็บอกกับนางว่า “ นายท่านมีศักดิ์และสติปัญญา ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้รับคำสั่ง ควรทำในสิ่งที่คู่ควร ฉันคิดว่านายท่านควรเสนอแนะต่อแม่ทัพก่อนที่เขาจะสั่งนายท่าน จงส่งคนไปหาเขาและแจ้งว่านายท่านจะกลับไปหาบิดา และให้เขาส่งทหารไปพร้อมกับนายท่านด้วย จงเป็นผู้ออกคำสั่งแม้ว่าจะตกอยู่ในสภาพของเชลยศึกก็ตาม จงกระทำการให้สมกับฐานะธิดาแห่งประมุข ”
อัรมะนูสะฮฺ “ จอมอุบายนี่ งั้นเธอไปหาเขา พร้อมนำบาทหลวงชะตอและทหารกล้าของเราไปด้วยจำนวนหนึ่ง ”
ไม่มีความเห็น