ชีวิตต้องเดินต่อไป


ชีวิต

     เป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีอยู่ว่า ณ อำเภอแห่งหนึ่ง มีหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ (หน.ปอ.) หนึ่งคน เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 ปี ได้ย้ายมาทำงาน ณ สปอ.นี้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ใหม่เป็นผู้หญิง ในการทำงาน ณ ที่แห่งใหม่นี้ ทั้งสองคนมีความรู้สึกว่ายังต้องปรับตัวอีกมาก และคงต้องใช้เวลาหลายวัน ภาพลักษณ์ของ หน.ปอ. ท่านนี้ ดูจากภายนอกน่าจะเป็นคนดุ หน้าตาเคร่งเครียด ลักษณะการทำงานในเวลางานดูจริงจัง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ใหม่ที่เป็นลูกน้องผู้หญิงเป็นคนที่กำลังมีปัญหาครอบครัวอย่างหนัก ในแต่ละวันแทบจะไม่ได้ทำงาน ได้แต่นั่งเป็นทุกข์ ไม่มีสมาธิ บางวันก็ลาป่วยไม่มาทำงานเลยก็มี แต่เพื่อน ๆ ที่ทำงานรับทราบถึงปัญหาของเจ้าหน้าที่ผู้นั้น ต่างก็พากันเห็นใจ ให้กำลังใจ และช่วยปฏิบัติงานแทนเป็นบางครั้งที่เป็นงานที่เร่งด่วน จนในที่สุด วันหนึ่งท่าน หน.ปอ. เรียกพบเจ้าหน้าที่ผู้นั้นและได้มีการปรับทุกข์ ระบายเรื่องราวต่าง ๆ นาๆ ที่เป็นปัญหาให้ฟัง บางครั้งมีเสียงร้องไห้ สะอึกสะอื้น ดังเป็นระยะ ๆ กระดาษทิชชู เกลื่อนเต็มห้อง ในบทบาทของความเป็นผู้บังคับบัญชา เป็นผู้นำ และเป็นผู้มีประสบการณ์ชีวิตมาก่อน เมื่อท่านรับฟังเรื่องราวที่เป็นทุกข์ของลูกน้องแล้ว ท่านได้สอนหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ อย่าง โดยให้คำแนะนำว่าการเป็นทุกข์กับเรื่องปัญหาครอบครัวก็เป็นทุกข์ได้ ทุก ๆ ครอบครัวก็มีปัญหาแตกต่างกันไป แต่การขาดงาน หรือเสียงานนั้น ไม่ดีต่อตัวเอง งานคือชีวิตของเรา และงานก็คือเงินที่เราจะต้องใช้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว เราควรหันมาตั้งใจทำงาน เพื่อให้ตัวเรามีคุณค่า ทำงานให้มากเราก็จะไม่มีเวลาได้ทุกข์นั้น เพราะฉะนั้นการทำงานเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก ท่าน หน.ปอ. ได้แสดงความเข้าใจในปัญหา ยอมรับฟังและเข้าใจลูกน้องด้วยความเห็นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพูดคุยกับลูกน้องคนอื่น ๆ เสมอ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งทุก ๆ คนก็เห็นตรงกันว่าจะช่วยเหลือกันจนสุดความสามารถ เพื่อให้เพื่อนได้กลับมาทำงานร่วมกันอย่างปกติ จนในที่สุด การให้โอกาสของผู้บังคับบัญชา และความเข้าใจ ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อของเพื่อนร่วมงานทุกคน ทำให้ลูกน้องที่มีปัญหา คิดได้ มีสติ และกลับมาทำงานเป็นคนปกติทั่วไป ด้วยหน้าตาที่สดใส ร่าเริง

     นอกจากมีผู้บังคับบัญชาที่เข้าใจ ห่วงใยลูกน้อง แม้แต่เรื่องส่วนตัว และเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องแล้ว ยังมีเพื่อนร่วมงานที่มีแต่ความเข้าใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ หมายความว่า การมีผู้บังคับบัญชาดีมีเพื่อนร่วมงานดี มีคนรอบข้างดี ก็ทำห้เกิดภูมิคุ้มกันความทุกข์ได้เหมือนกัน

     จึงได้บทสรุปของบันทึกเรื่องนี้ว่า "ชีวิตของคนเรามีมากมายหลายฉาก หลายตอน นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เราจะต้องเจออะไรอีกมากมายในชีวิต แต่วิธีที่ดีที่สุดคือ การแก้ปัญหา โดยใช้ปัญญา จึงจะพบทางสว่างนั่นเอง"

 

คำสำคัญ (Tags): #บุรีรัมย์6
หมายเลขบันทึก: 363288เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2010 21:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

หนูอ่านแล้วนะคะสนุกมากกกกกกกกกกกกกกๆ........................................ค่ะ

ปลื้มปิติค้า............................

สุดท้ายนี้ขอบอกว่า...................

รักแม่มากกกกกกกกกกที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยย

หนูยล

หนูสนใจที่จะอ่านเรื่องนี้มากค่ะ

และเรื่องนี้สนุกมากค่ะ......

หนูอ่านแล้วปลื้มเหมือนพี่ดาเลยค่ะ.....

จากเอิงที่น่ารัก

ชีวิตต้องเดินต่อไปนะครับ

ถ้าเหนื่อยก็นั่งบ้าง

ถ้ามีแรงเหลือก็วิ่งบ้าง

ตามจังหวะชีวิตนะครับ

ขอบคุณครับ...

เดินแล้วเหนื่อย เราก็พัก พักแล้วไม่หายเราก็ขึ้นรถ สู้ต่อไป

ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นไป ทำใจให้มั่นคงจงก้าวเดินต่อ แบบ Two in one

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท