ระยะนี้ร่างกายคงอ่อนแอมาก หลับตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ และตื่นขึ้นมาช่วงเที่ยงคืน-๑ นาฬิกาของวันใหม่ กว่าจะหลับอีกครั้งก็ประมาณ ๔-๕ นาฬิกา จริงๆก็หลับได้เลยแต่….ต้องการจะสานงานที่คั่งค้างต่อนั่นเอง
กิจวัตรยามค่ำคืนนี้ ก็ดำเนินไปตามข้อความดังกล่าวข้างต้น แต่ครั้งนี้เมื่อตื่นขึ้นมาสมาธิทั้งหมดหยุดอยู่ที่รายการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ในช่วงท้าย… แน่นอนดาวดับของสภาคนดังที่กำลังอภิปรายคือ นายจตุพร พรหมพันธุ์
หลังจากกล่าวหาเกือบ ๒ ชั่วโมงจนจบ คณะฯที่ถูกพาดพิงอย่างเช่น นายกษิต ภิรมย์ และอีก ๒-๓ ท่านได้ลุกขึ้นมากล่าวแก้ข้อกล่าวหาแบบ สั้นๆกระชับ...ได้ใจความลึกซึ๊ง และผู้ที่ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นเป้าหมายหลักคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ต้องตอบแบบให้เหตุผลอ้างอิง - น่าเชื่อถือ มาหักล้างให้สมเหตุ-สมผล
ได้ตรวจสอบข่าวสาร... เพื่อติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองด้วยความห่วงใยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ….เลือกที่จะเชื่อสื่อ-ที่นำเสนอหลักฐานอ้างอิงทั้งทางวัตถุ-ข้อคิดเห็นจากบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือทางสังคมในระดับสูง และเคยทำคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองด้วยความเคารพในสถาบันชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ …. เชื่อว่าคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่มีสติปัญญาในระดับปัญญาชนและมีความกตัญญูรู้คุณต่อแผ่นดินเกิด ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติทั้ง ๓ สถาบัน ย่อมรู้-ย่อมเข้าใจ ว่าสิ่งใดเป็นการบิดเบือน สิ่งใดเป็นเรื่องจริง แต่อดที่จะห่วงใย การเสพข่าวการเมืองของเยาวชนจากสื่อสาธารณะไม่ได้ เยาวชนหลายล้านคนยังอ่อนเยาว์เกินกว่า ที่จะวิเคราะห์-วินิจฉัยได้ว่า สิ่งใดเป็นการกล่าวบิดเบือน –ปั้นแต่ง เพื่อใส่ไคล้ สิ่งใดเป็นเรื่องจริง
บางคนแนะนำว่า ไม่ควรมีการถ่ายทอดสดการอภิปรายฯ หรือมิเช่นนั้น ต้องมีการแนะนำให้ดูรายการนี้กับผู้ปกครอง เพราะบางครั้ง ผู้นำประเทศเหล่านี้แสดงกิริยา-คำพูด-อารมณ์ ที่เป็นตัวอย่างไม่ดี กักขฬะ ไร้คุณธรรม-จริยธรรม ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยชี้แนะและอธิบายความให้เข้าใจ ถึงสิ่งที่ถูก-ที่ควร
สำหรับผู้เขียนเอง การอดหลับ-อดนอน กว่า ๔ ชั่วโมงเพื่อฟังการอภิปราย-โต้ตอบ ในสภาฯครั้งนี้ ถือว่าคุ้มค่า คุ้มที่ได้รับฟังการกล่าวหาที่แสดงถึงวุฒิปัญญาและนิสัยใจคอของผู้อภิปรายและคณะฯ (ศึกษารายละเอียด) และการกล่าวอธิบายแก้ข้อกล่าวหาที่ใช้ภาษา-สำนวนสุภาพ แต่คมเฉียบไปด้วยข้อคิดที่แสดงถึงวุฒิภาวะฯ ของผู้พูดได้อย่างกินใจ (ศึกษารายละเอียด)
*** อดไม่ได้ที่จะร้องเพลงอมตะรักชาติที่มีคติสอนใจคนทั้งชาติที่ชื่อว่า “ หนักแผ่นดิน ” ***
สวัสดีค่ะ
ตั้งแต่ได้รับชมรับฟังการอภิปรายในสภา ไม่มีครั้งใดจะ "ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนครั้งนี้" อดเป็นห่วงเยาวชนไม่ได้นะคะ
ล้วนแต่ใช้อารมณ์รุนแรง และถ้อยคำไม่สุภาพกันมากนะคะ แต่ดูไม่จบค่ะ ติดอ่านหนังสือ
เป็นการพัฒนาการทางการเมืองไทยที่มีนักการเมืองเป็นแบบบอย่างที่เห็นๆกันอยู่
เป็นการเมืองเก่าที่ยังฝังรากเหง้ายากที่จะขุดรากถอนโคน
แต่หลังเหตุการณ์ 10 เมษ. 53 และ 19 พฤษภา. 53
เยาวชนและนิสิตนักศึกษาต่างตื่นตัวขึ้นมาต่อต้านฝ่ายอธรรมแล้วครับ
คุณครูสันติคะ
*** น่ายินดีนะคะที่เยาวชนและนิสิต-นักศึกษาจำนวนมากได้แสดงพลังต่อต้านฝ่ายอธรรม แต่ระบบรัฐสภาฯ ของไทย พวกมากก็ยังได้เปรียบ-ก่อกวน-ถือข้าง....ประชาชนบางพวกก็ยังรับข่าวสารข้อเท็จที่ไม่มีการกรอง ปล่อยข่าวให้สับสนอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้ผู้ใสซื่อ- ที่ไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบข้อเท็จเหล่านั้น เข้าใจผิดๆ ไป.... ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกตั้งฯ ***
คงต้องช่วยๆกันนะคะ!