วันนี้ 8 กันยายน 2548 เป็นวันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือและวันการศึกษานอกโรงเรียน
วันนี้.. โลกของเรากำลังก้าวสู่ โลกแห่งความรู้ Knowledge is power อย่างที่นักวิชาการพูด ทุกคนกำลังพัฒนาตัวเอง ทุกองค์กรกำลังปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพื่อให้ทันกับกระแสความเปลี่ยนแปลง..ข้าราชการหลายคนต่างก็บอกว่ามันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงาน ต้องนำเอาเครื่องมือหลายตัวมาพัฒนาการทำงาน เช่น KM
ในอีกมิติหนึ่งของโลกใบนี้ ..โลกยุคโลกาภิวัฒน์ ณ วันนี้ .เรามีผู้ใหญ่ที่ยังไม่รู้หนังสืออีกประมาณ 800 ล้านคน ทั่วโลก โดย 2 ใน3 ของจำนวนดังกล่าวเป็นสตรี และเด็กวัยเรียน ที่ไม่เคยได้เข้าโรงเรียนกว่า 100 ล้านคน นับเป็นงานที่ท้าทาย ที่ทุกคนควรใส่ใจ สงคราม ความยากจน ความไม่เอาใจใส่ของผู้มีโอกาส ทำให้พวกเขา โดยเฉพาะสตรี ต้องตกอยู่ในภาวะแห่งการไม่รู้หนังสือตลอดชีวิต ซึ่งนายโคอิชิ มัทซูอุระ ผู้อำนวยการองค์การยูเนสโก กรุงปารีส กล่าวว่า "เป็นสถานการณ์ที่น่าอดสู ของศตวรรษ ที่ 21 "
ในฐานะครูที่สอนผู้ไม่รู้หนังสือ ครูืี่อยู่นอกโรงเรียน รู้สึกสำนึกผิดในสภาวะเหตุการณ์นี้เพราะมีส่วนรับผิดชอบในฐานะครู กศน. สำหรับประเทศไทย แม้เราจะมีการรณรงค์จัดการเรียนการสอน แก่ผู้ไมรู้หนังสือ มาหลายครั้ง มีการไปเดินสอนตามบ้าน ทั้งรายกลุ่ม และรายบุคคล ขณะนี้ ยังมีผู้ไม่รู้หนังสือ อีก 2.5 ล้านคน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาพื้นฐาน (แต่เขาก็เป็นคนไทย ) ในฐานะสตรี ในฐานะแม่ ในฐานะครู กศน. จึงขอไถ่บาปที่ติดอยู่ในใจ ด้วยการเชิญชวนทุกท่าน ให้ช่วยกันเปิดโลกแห่งการรู้หนังสือให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง หรืออยู่ในชุมชนของท่าน เพื่อเราจะได้ก้าวไปสู่โลกยุคใหม่ ยุคสังคมแห่งการเรียนรู้...มีเพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มาอ่าน เขาแนะนำว่า ถ้าเราจะแก้ปัญหานี้ ..เราต้องตั้งกระทรวงผู้ไม่รู้หนังสือ ขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งกระทรวง... เอ๊ะคิดได้ยังไงนะ ..คิดนอกกรอบได้ดีแท้..ใครจะรับไปทำไม่สงวนลิขสิทธิ์
.หมายเหตุ วันนี้ ตอนเช้าได้นำอาหารไปถวายพระเพื่ออุทิศแด่ ทุกท่านที่ทำงานอุทิศตัวแก่ผู้ไม่รู้หนังสือ
ไม่มีความเห็น