ปรากฏการณ์นักข่าวตะวันตกถูกยิงแล้วได้รับการช่วยเหลือจากผู้ชุมนุมชี้ให้เห็นอะไร?


“บันทึกนี้ เกิดจากการคิดข้ามเลยเรื่องสี ทั้งสีเขียวสีแดงที่มีผมสีดำ และที่ไม่มีสีแต่ผมสีทอง ผมกำลังคิดถึงคนในฐานะมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี”

บันทึกนี้ เกิดจากการคิดข้ามเลยเรื่องสี ทั้งสีเขียวสีแดงที่มีผมสีดำ และที่ไม่มีสีแต่ผมสีทอง ผมกำลังคิดถึงคนในฐานะมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรี

เมื่อคืนก่อน ผมดูรายการที่นี่ทีวีไทย ที่ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสไปสัมภาษณ์คุณเนลสัน แรนด์ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวฟรานซ์ 24 ที่ถูกกระสุนปืนระหว่างทำข่าวบริเวณหน้าสวนลุมไนท์บาร์ซ่าร์ ในวันที่ 14 พ.ค.53 ว่า อาการเขาดีขึ้นแล้ว คุณเนลสัน แรนด์พูดขณะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลว่า เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนยิง แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เอง และไม่ควรมีใครถูกกล่าวโทษในเรื่องนี้ เขารู้สึกขอบคุณชายไทยที่ช่วยพาเขาออกจากที่เกิดเหตุซึ่งทำให้เขาได้ไปถึงโรงพยาบาล ทำให้เขาได้รับการผ่าตัดช่วยชีวิต เขาพูดผ่านจอทีวีว่า เขาอยากพบชายผู้นั้นแบบซึ่งหน้า (face-to-face) เพื่อแสดงความขอบคุณแบบเห็นหน้าค่าตาด้วย การขอบคุณผ่านโทรทัศน์แบบนี้ยังไม่เพียงพอต่อความรู้สึกของเขา

รายการที่นี่ทีวีไทย ได้ฉายให้ดูภาพเหตุการณ์ที่คุณเนลสัน แรนด์ถูกยิง แล้วก็มีผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่ง รูปร่างท้วม ผมหยิกๆ ฟูๆ ช่วยลากช่วยพยุงออกจากที่เกิดเหตุ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ชายคนนั้นอย่างสั้นๆ เขาบอกว่า เขาหลบอยู่ที่เกาะกลางถนน ได้ยินเสียงร้อง help me, help me … เขาจึงได้เข้าไปช่วยออกมาส่งให้กับรถที่นำฝรั่งที่เขาไม่รู้จักคนนี้ไปโรงพยาบาล

ขณะดูรายการดังกล่าว ผมเกิดความรู้สึกว่าเหมือนการ “ประกาศตามหาคน” ผ่านโทรทัศน์ วัตถุประสงค์เพื่อจะแสดงความ “ขอบคุณ” ต่อผู้ “มีพระคุณ” ช่วยชีวิตตน พูดตามประสาคนไทยก็ว่า อยากพบหน้าพบตา(พบตัวเป็นๆ)เพื่อกราบขอบพระคุณต่อผู้มีบุญคุณช่วยให้รอดชีวิต

จนถึงขณะนี้ ผมยังไม่ได้ข่าวว่า คุณเนลสันได้พบชายไทยคนนั้นหรือยัง แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณไทยพีบีเอสที่ช่วยเป็นสื่อกลางให้ ขออนุโมทนาในกุศลกรรมของทีวีช่องนี้

หลังจากนั้น ผมก็ภาวนาให้ทั้งสองคนได้พบกัน ผมพอจะจินตนาการออกว่า นาทีที่คุณเนลสันพบหน้าคุณคนนั้น (ที่ไม่ทราบว่าชื่ออะไร) และคุณคนนั้นพบหน้าคุณเนลสันอีกครั้งเพื่อรับ “คำขอบพระคุณ” ทั้งสองคนจะรู้สึกอย่างไร แค่ภาพจินตนาการผุดขึ้นเล็กน้อยในสมอง ผมก็ปลื้มปิติแทนจนน้ำตาซึมไปด้วยแล้ว

ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า ภายในจิตใจลึกๆ ของคนเรานั้นมีคุณงามความดีซ่อนอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราได้เปิดโอกาสให้ตนเองได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้น(ที่เรามีอยู่แล้วลึกๆ)เพียงไรในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา

คำ คุณ หรือ คุณะ แปลว่า ความดี อย่างเช่นในคำ ธรรมะคือคุณากร แปลว่า ธรรมะคือบ่อเกิดแห่งความดี (อากร แปลว่า บ่อเกิด) เมื่อเราใช้คำ “คุณ” นำหน้าชื่อของผู้ที่เราเรียก จึงเป็นการให้เกียรติผู้นั้นว่าเขาเป็นคนดี การเรียกขานผู้อื่นโดยมีคำ “คุณ” นำหน้าจึงเป็นการช่วยให้สติเขาได้สำรวมตนให้ระมัดระวังตนไม่ทำอะไรในทางไม่ดี ในทางเสื่อม (ไม่ไหลไปในทางต่ำ) อันนี้เป็นภูมิปัญญาไทยของบรรพบุรุษเรา

คำ งาม แปลว่า ลักษณะที่เห็นแล้วชวนให้ชื่นชมหรือพึงใจหรือสมบูรณ์ เช่น มารยาทงาม รูปงาม ต้นไม้งาม ปีนี้ฝนงาม (จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ)

ฝ่ายคุณเนลสัน ที่บอกว่า "ไม่โทษใคร" และต้องการแสดงความรู้สึกขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อหน้าผู้ช่วยชีวิต แสดงว่าคุณเนลสันได้สัมผัสกับความคุณงามอันหนึ่งที่มีอยู่ในส่วนลึกของจิตใจตน (และของเราทุกคน) นั่นคือ การให้อภัยต่อผู้ลั่นกระสุน (ไม่ว่าจากฝ่ายใด) และการสำนึกในบุญคุณของผู้มีพระคุณ เมื่อสำนึกนี้เกิดขึ้นในใจแล้ว ก็ไหลผ่านออกมาทางวาจาของคุณเนลสัน แววตาท่าทางของคุณเนลสันที่แสดงออกมาในขณะพูดทำให้ผู้ชมอย่างผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งจริงใจของเขา

ส่วนคุณคนนั้นที่เสี่ยงชีวิตตนเองเพื่อช่วยชีวิตคุณเนลสันในเกิดเหตุ ก็แสดงว่าเขาได้สัมผัสกับความดีงามอันหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่ในส่วนลึกของเราทุกคน นั่นคือ การอุทิศตนเพื่อคนอื่น แล้วก็แสดงออกผ่านการกระทำบางอย่าง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่ละคนจึงไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตนเองเท่านั้น แต่มีชีวิตอยู่เพื่อผู้อื่นด้วย

ปรากฏการณ์เล็กๆ นี้จึงเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนความเป็นมนุษย์

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ชี้ให้เห็นว่าทั้งสองคนพบศักดิ์(และ)ศรีของความเป็นมนุษย์ในตนเองและผู้อื่น

คำ ศักดิ์ หมายถึง อำนาจ กำลัง ความสามารถ

คำ ศรี (หรือ สิริ) หมายถึง ความงาม ความสว่างสุกใส ความเจริญรุ่งเรือง

การเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์จึงหมายถึง การเคารพในกำลังอำนาจของความงามความสว่างสุกใสในมนุษย์

เรื่องของคุณงามความดีกับเรื่องศักดิ์ศรีของมนุษย์จึงเป็นเรื่องเดียวกัน

คำ มนุษย์ ก็มีความหมายในทำนองเดียวกันอีกด้วย เพราะหมายถึง สัตว์ที่มีจิตใจสูง (มน หรือ มโน แปลว่า ใจ)

ผมเชื่อว่า การเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์เริ่มที่การสามารถเคารพในคุณงามความดีในตนเองก่อนเป็นเบื้องต้น

เมื่อเราสามารถสัมผัสกับคุณงามความดีในตนเอง เราก็จะรู้สึกถึงศักดิ์ศรีของเรา และสามารถเคารพตนเองได้ (กราบไหว้ตนเองได้อย่างสนิทใจ) จากนั้น เราก็จะสามารถเรียนรู้การเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์คนอื่นได้

เมื่อสามารถ “รู้สึก” ถึงคุณงามความดีของตนได้ด้วย “ใจ” ไม่ใช่ด้วยระดับเหตุผล จากการใช้ “หัว” หรือสมอง “คิด” เพียงอย่างเดียว คำพูด “เคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์” ที่ใครต่อใครพูดกันมากในเวลานี้ จึงจะไม่ใช่เพียงคำพูดที่เป็นนามธรรม เลื่อนลอย แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงที่เราสัมผัสได้ทั้งในตนเองและผู้อื่น (ไม่ว่าเขาจะสีอะไร?)

เราได้รับการสอนมาเสมอและมักสอนลูกหลานต่อว่า ให้ใช้ “เหตุผล” (สมอง) เช่น อย่าเอาความรู้สึกมาเหนือเหตุผล น้อยครั้งที่จะได้ยินว่าให้ใช้ทั้งความรู้สึก หรือ “ใจ” และเหตุผล

ผมมีประสบการณ์ตรงกับตนเองว่า การให้น้ำหนักกับเหตุผลมากไปเช่นนี้ ทำให้ผมเสียสมดุลในชีวิตครอบครัวและการงานมามากแล้ว และเชื่อว่าหลายท่านก็มีประสบการณ์เดียวกับผมมาบ้างไม่มากก็น้อย เช่น เวลาถกเถียงกับภรรยา เหตุผลผมมักดีกว่า แต่ผมก็พบว่า ผมชนะเพียงเหตุผล แต่ไม่ได้ชนะใจเธอหรอก ยิ่งเถียงกันด้วยเหตุผลผมก็ยิ่งเพิ่มความกดดันความเก็บกดลงในใจเธอ แล้วทั้งผมและเธอก็ไม่มีความสุข

ในกาลามสูตร มีข้อหนึ่งที่พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าได้เชื่อเพราะฟังดูมีเหตุผล

การเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ หมายถึง การเชื่อว่าตนเองและเพื่อนร่วมโลกทุกคนมีคุณงามความดีอยู่ในส่วนลึกจิตใจ เราทุกคนมีปัจจัยภายนอกมากระทบมาเร้าให้เราเขว ผลักให้เราต้องห่างออกจากคุณงามความดีอันนี้ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่หนีไม่พ้นกฏเกณฑ์อันนี้ แต่เมื่อใดที่เราระลึกขึ้นมาได้ (เกิดสติ) ว่าในทั้งเขาและเราล้วนมีพลังแห่งความสว่างสุกใสอันนี้ซ่อนอยู่ เราก็จะเคารพในตนเองและผู้อื่น เราก็จะสงบลง เราก็จะรู้สึกให้อภัยต่อตนเองและผู้อื่น เราก็จะรู้สึกเมตตาตนเองและผู้อื่น เราก็จะเกิดมุทิตา(ชื่นชมยินดี)ทั้งในตนเองและมนุษย์คนอื่นๆ แล้วเราก็จะแสดงความกรุณาต่อตนเองและผู้อื่นผ่านคำพูดและการกระทำของเรา.

สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
28 พ.ค. 2553

หมายเลขบันทึก: 362030เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2010 12:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผมได้รับอีเมล์จาก บก.รายการที่นี่ ทีวีไทย เช้านี้

แจ้งว่า ตอนนี้ คุณเนลสัน ได้พบชายคนดังกล่าวที่ช่วยเหลือเขาแล้ว

ชายคนนั้นได้ดูรายการที่นี่ ทีวีไทย คืนที่คุณเนลสันประกาศตามหาเขาผ่านรายการที่นี่ทีวีไทยด้วย

เขาเป็นการ์ด นปช.ที่ติดต่อกลับมาทางทีวีไทยในวันรุ่งขึ้น

ซึ่งทางรายการได้ประสานเรื่องการเดินทางให้เขามาพบกับคุณเนลสันแล้วที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ

โดยเขาก็ได้พบกับครอบครัวคุณเนลสันและคำขอบคุณมากมาย

จึงขอแสดงความยินดีกับคุณเนลสันและครอบครัวกับชายคนนั้นด้วย

ขออนุโมทนาในกุศลกรรมของทีวีไทย

สุรเชษฐ 29 พ.ค.53

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท