ทำไมต้อง Aphrodite


เทพเจ้าก็คือตัวแทนลักษณะของมนุษย์เราดีๆนี่เอง มีครบทั้งรัก โลภ โกรธ หลง

เพราะชื่นชอบในตำนานกรีกโบราณ  ว่าด้วยการบูชาเทพเจ้าต่าง ๆ ไล่มาตั้งแต่สมัยไททันโครนัสกันนู้นเลย  ศึกษาดูดีๆ เทพเจ้าก็คือตัวแทนลักษณะของมนุษย์เราดีๆนี่เอง มีครบทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ยกตัวอย่างง่าย ๆ เทพเจ้าซุส ราชันย์แห่งเทือกเขาโอลิมปุส (ฮ่าๆๆ เอาซะหน่อนนะโอลิมปัส) องค์ประมุขของเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ก็เริ่มตั้งตนด้วยการโค่นล้มบิดาตนเอง กว่าจะก้าวมาเป็นใหญ่เป็นโตได้ (อ่ะ...แต่ก็ทำไปเพราะคุณแม่ขอร้องนี้น่ะ) และแม้ว่าจะเป็นพี่ใหญ่ที่รักและไว้ใจของน้อง ๆ (โดนพ่อเขมือบลงท้อง เลยมาช่วย) แต่ก็อาศัยความไว้ใจนี่แหละ ที่ส่งให้น้องรักเฮดีส ผู้ที่รักและภักดีซุสสุดหัวใจ  ไปครองเมืองใต้พิภพ เมืองแห่งความมืดมนไปตลอดกาล(ถ้ามิ่ชิ่ เฮดีสสร้างคาร์เคน อยากรู้นักว่าจะเอาชนะป๊ะป๋าได้ไหม) มิหนำซ้ำ ตามตำรา(มหากาพ์อีเลียด) ซุสนับว่าเป็นที่หนึ่งเรื่องพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ทั้งเพศตรงข้าม และเพศเดียวกัน ทั้งเทพ-เทพี-มนุษย์ จนเป็นแหล่งที่มาของเรื่องราวมหาเทพที่มีหลากหลายบุคลิก ไม่ได้มีความแตกต่างจากมนุษย์เลยแม้แต่น้อย เป็นไปได้รึไม่ที่ชนกรีกโบราณยกเทพเจ้าให้มีคาแรกเตอร์คล้ายมนุษย์จะได้ลดความหวาดกลัวในธรรมชาติลงได้ นัยว่าเทพแต่ละองค์ใกล้ชิดกับคน สื่อสารกันได้ เข้าใจกันได้ เมื่อมีภัยก็คุยกันได้ ช่วยเหลือกันได้ดุจดั่งชนเชื้อเนื้อนุษย์เหมือนกัน  รึอีกนัยคล้ายจะประกาศให้รู้ว่าข้านี่แหละที่สืบเชื้อสายมาจากทวยเทพ (ความเชื่อที่ว่าบรรพบุรุษมนุษย์สืบเชื้อจากเทพเจ้า) มนุษย์ตัวน้อยอย่างข้านี่แหละที่จะครองโลก โฮ่ะๆๆๆ (ก็จริง เพราะในไม่ช้าไม่นานเราก็ครองโลกจริงๆ) เข้าเรื่องได้ยัง อิอิ

 

 Aphordite

 

ทำไมต้องอะโฟรไดที.....(เรียกง่ายๆแบบอังกฤษว่า อะโฟรไดท์กะได๋เด้อ)  เพราะเทพีองค์นี้ถือเป็นตัวแทนของความรัก ความสวยความงาม (ก็มิ่ชิ่ ว่าเปรียบเป็นตัวเองหรอกนะ ฮุฮุ ปลื้มซือๆเด้อ) ก็อย่างที่บอกรัก โลภ โกรธ หลง เป็นคุณสมบัติประจำตัวของเทพทุกองค์ เทพีอะโฟรไดที ก็ไม่มีข้อยกเว้น ในความรักที่บริสุทธิ์ของนางก็มีข้อของความมืดมน ความอิจฉาริษยา และมากล้นด้วยกิเลสตัณหา (แม้ในความดีก็ย่อมมีความชั่วที่เราไม่รู้จัก) เป็นผู้ให้พรเพื่อให้ผู้มีความรักสมหวัง ในขณะเดียวกันก็สามารถที่จะทำลายความรักของผู้ที่พระนางไม่พอใจได้ในพริบตา (อ่า..อย่างงี้รึป่าวที่เรียกกันว่าเลือกที่รัก  มักที่ชัง) อยากรู้จักเทพีองค์นี้แล้วละซิ เรื่องมันยาวนะเค๊อะ...(นี้ฉันจบสัตวศาสตร์มารึนิ่ สงสัยจะเรียนผิดสายน่ะ แฮะๆ)  เรื่องนี้ยกเครดิตให้http://www.phuketvariety.com/greek/aphordite/index.htm  ด้วยนะคะ เท่าที่อ่านมาหลายตำราก็หน้าแรกนี้แหละที่ไม่ค่อยซับซ้อน และเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว

อโฟรไดท์ (อังกฤษ: Aphrodite; ละติน: Venus) เป็นเทพเจ้ากรีกแห่งความรัก, ความปรารถนา, และความงาม ชื่ออื่นๆ ที่เรียก “ไคพริส” (Kypris) “ไซธีเรีย” (Cytherea) ตามชื่อสถานที่ ไซปรัส และ ไซธีรา ซึ่งเชื่อว่า เป็นที่เกิดของอโฟรไดท์ สิ่งศักดิ์สิทธิของอโฟรไดท์ ได้แก่ ต้นเมอร์เติล (Myrtle), นกพิราบ, นกกระจอก และ หงส์

เทพีอโฟรไดท์ เทียบได้กับเทพีวีนัส ในตำนานเทพเจ้าโรมัน

เทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) หรือ วีนัส (Venus) เป็น เทวีแห่งความรัก และความงาม สามารถสะกดเทพ และ มนุษย์ทั้งปวง ให้ลุ่มหลง ทั้งอาจจะลบสติปัญญาของผู้ฉลาดให้ตกอยู่ในความโฉดเขลาไปได้

หากจะสืบสาวต้นกำเนิดของอโฟรไดท์ ที่อาจต้องสืบสาวไปไกลกว่าตำนานของกรีกเสียอีก เนื่องจากเทวี มีต้นกำเนิด มาจากดินแดน ซีกโลกตะวันออก ว่ากันว่าท่านเป็นเทวีองค์แรกเริ่ม ของชนชาติฟีนีเซีย ที่มาตั้งอาณานิคมมากมาย ในดินแดนตะวันออก แถบตะวันออกกลาง ทราบกันมาว่า เทวีอโฟร์ไดท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเทวี ของชาวอัสสิเรีย กับบาบิโลเนีย ที่มีนามว่า อีชตาร์ (Ishtar) และก็ยังเป็น อันหนึ่งอันเดียวกับ เทวีของชาวไซโร-ฟีนิเซี่ยน ผู้มีนามกรว่า แอสตาร์เต (Astarte) จึงนับได้ว่าเป็น เทวีที่มีความสำคัญมาก มาแต่ดึกดำบรรพ์

ตามมหากาพย์อิเลียดของโฮเมอร์ เทวีอโฟรไดท์ ที่เป็นเทพธิดาของซุส เกิดกับนางอัปสร ไดโอนี (Dione) แต่บทกวีนิพนธ์ ชั้นหลัง ๆ กล่าวว่า เทวีผุดขึ้นจากฟองทะเล เนื่องจากคำว่า Aphros อันเป็นที่มาของชื่อเทวี ใน ภาษากรีกแปลว่า "ฟอง" แหล่งกำเนิดของเทวีอยู่ในทะเลแถว ๆ เกาะ ไซเธอรา (Cythera) จากนั้น เทวีก็ถูก คลื่นซัดไปจนถึงเกาะ ไซพรัส (Cyprus) ด้วยเหตุนี้ เกาะทั้งสองจึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับ เทวีอโฟรไดท์ และบางทีเทวีก็มีชื่อเรียก ตามชื่อเกาะทั้งสอง นี้ว่า ไซเธอเรีย (Cytherea) และ ไซเพรียน (Cyprian)

ตามเรื่องที่เล่ากันแพร่หลายกล่าวว่า เมื่อเทวีอโฟรไดท์ ถูกคลื่นซัดไปติด ณ เกาะไซพรัส นั้น ฤดูเทวี ผู้รักษาทวาร แห่งเขาโอลิมปัส ลงมารับพาเทวีอโฟรไดท์ ขึ้นไปยังเทพสภา เทพทุกคนในที่นั้นต่างตะลึง ในความงามของเทวี และ ต่างองค์ต่างก็อยากได้มา่เป็นคู่ครอง แม้แต่ซุสเองก็อยากจะได้ แต่เทวีไม่ยินดีด้วย ซุสจึงโปรดประทาน เทวีให้แก่ ฮีฟีสทัส (Hephaestus) เป็นบำเหน็จรางวัลทดแทนความชอบ ในการที่ฮีฟีสทัส ประกอบ อสนียบาต ถวาย และ เป็นการลงโทษ เทวีในเหตุที่ไม่ไยดีซุสไปในตัวด้วย เพราะฮีฟีสทัส เป็นเทพพิการ แต่เทพองค์แรกที่เทวีพิศวาส และร่วมอภิรมย์ด้วยกลับเป็น เอรีส (Ares) หรือ มาร์ส (Mars) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการสงคราม ซึ่งได้เป็นชู้สู่หากับเทวี อโฟรไดท์ จนให้ประสูติบุตรสอง ธิดาหนึ่งรวมเป็นสาม มีนามตามลำดับว่า อีรอส (Eros) หรือ คิวพิด (Cupid) แอนติรอส (Anteros) และ เฮอร์ไมโอนี (Hermione) หรือ ฮาร์โมเนีย (Harmonia) นางเฮอร์ไมโอนีนั้นได้วิวาห์กับ แคดมัส (Cadmus) ผู้สร้างเมืองธีบส์ ซึ่งเป็นพี่ของนางยุโรปา ผู้ถูกซุสลักพาไป เป็นคู่ร่วมอภิรมย์

เรื่องราวความรัก ของเทวีแห่งความงาม และความรักอโฟร์ไดท์ ไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เทวีได้หว่าน เสน่ห์ไปทั่ว ไม่ว่าเทพ หรือ มนุษย์ อาทิเช่น การมีจิตปฏิพัทธ์ เสน่หากับ เทพเฮอร์มีส จนเกิดมีโอรสองค์หนึ่งนามว่า เฮอร์มาโฟร์ดิทัส (Hermahroditus) ในด้านของมนุษย์ เทวีอโฟร์ไดท์ ยังเคยแอบไปมี จิตพิศวาส กับบุรุษเดินดิน เช่น ไปชอบพอกับ เจ้าชายชาวโทรยัน นามว่า แอนคิซีส (Anchises) จนมีโอรสครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ออกมานามว่า เอนิแอส (Aenias) ผู้เป็นต้นตระกลูของชาวโรมันทั้งหมด

ที่อื้อฉาวฮือฮามากที่สุดได้แก่ การไปแอบรัก สุดหล่อแห่งยุคคือ อโดนิส ในกาลวันหนึ่ง เทวีอโฟรไดท์ เล่นหัวหยอกเอินอยู่กับอีรอส บังเอิญถูกศร ซึ่งอีรอสถืออยู่สะกิดเอาที่อุระ ถึงแม้ว่า จะเป็นแผลเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นการเพียงพอที่จะทำให้เจ้าแม่ตกอยู่ในอำนาจพิษศรของบุตรได้ ยังมิทันที่แผลจะเหือดหาย เทวีก็ได้พบกับ อโดนิส (Adonis) มานพหนุ่มพเนจรอยู่ในราวป่า ให้บังเกิด ความพิสมัย จนไม่อาจระงับ ยับยั้งอยู่ในสวรรค์ได้ เทวีจึงลงมาจากสวรรค์ มาพเนจรตามอโดนิส หมายที่จะได้ใกล้ชิด ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะไป ทางไหนทวี ก็จะตามไปด้วย เทวีอโฟรไดท์หลงใหล และ เป็นห่วงอโดนิส จนไม่เป็นอันระลึก ถึงสถานแห่งหนึ่งแห่งใด ที่เคยโปรด เที่ยวติดตาม อโดนิส ไปในราวป่าคอยตักเตือน และ กำชับอโดนิส ในเวลาล่าสัตว์ มิให้หักหาญ เสี่ยงอันตรายมากนัก ให้หลีก เลี่ยงสัตว์ใหญ่ ล่าแต่สัตว์เล็ก ชนิดที่พอจะล่าได้เท่านั้น ตลอดเวลาที่เฝ้าติดตาม เทวีพะเน้าพะนอเอาใจ อโดนิส ด้วยประการ ทั้งปวง แต่ความรักของเทวีที่มีต่ออโดนิส เป็นความรักข้างเดียว เจ้าหนุ่มหาได้รักตอบไม่ ชะรอย เป็นเพราะอีรอสมิได้แผลงศรรัก กับเจ้าหนุ่มด้วยกระมัง ด้วยเหตุนี้อโดนิสจึงไม่แยแส ต่อคำกำชับตักเตือนของเทวี คงเที่ยวล่าสัตว์ใหญ่น้อยเรื่อยไป ตามใจชอบ วันหนึ่งเทวีอโฟรไดท์ มีธุระต้องจากไป จึงทรงเทพยานเทียมหงส์เหิน เหาะไปในนภากาศ ฝ่ายอโดนิสพบหมูป่าแสนดุร้ายเข้าตัวหนึ่ง (บางตำนานเล่าว่าหมูป่าตัวนี้ เกิดจากเสกจำแลงของ เทพเอเรส เนื่องจากหึงหวงความรัก ที่เทวีอโฟรไดท์มีให้แก่ อโดนิส) และ ตามล่ามันไปจนหมูป่าจนมุมแล้ว อโดนิสก็ ซัดหอกไปถูกหมูป่า แต่หอกพลาดที่สำคัญ หมูป่าได้รับความเจ็บปวด จึงเพิ่มความดุร้ายยิ่งขึ้น จึงรี่เข้าขวิดอโดนิส ล้มลงถึงแก่ความตาย

Aphordite01

     
     
     

Aphordite03

     
     
     
  เทวีอโฟรไดท์ และ อโดนิส  

เทวีอโฟรไดท์ ได้สดับเสียงร้องโอดโอยของ อโดนิส ในกลางหาวผินพักตร์มาเห็นดังนั้น จึงชักรถเทียม หงส์กลับลงมา ยังพื้นปฐพี และลงจากรถเข้าจุมพิต อโดนิสซึ่งกำลังจะสิ้นใจ ครั้นแล้วเจ้าแม่ก็ครวญคร่ำรำพันพิลาปพิไร ด้วยสุดแสน อาลัยรัก ตามวิสัยผู้ที่คลุ้มคลั่ง เทวีรำพันตัดพ้อ เทวีครองชะตากรรม ที่ด่วนเด็ดชีวิต ผู้เป็นที่รัก ให้พรากจากไป ประดุจควัก ดวงเนตร ออกจากเจ้าแม่ก็ไม่ปาน พอค่อยหายโศกแล้ว เจ้าแม่จึงเอื้อนโอษฐ์ออกปณิธานว่า "ถึงมาตรว่า ดังนั้นก็อย่าหมายเลยว่า ผู้เป็นที่รักแห่งข้าจะต้องอยู่ ในยมโลกตลอดกาล หยาดโลหิต ของอโดนิสแก้วตาข้า จงกลายเป็น บุปผชาติชนิดหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ความโศกของข้า ให้ข้าได้ระลึก ถึงวาระเศร้าสลดครั้งนี้ เป็นประจำปีเถิด" เมื่ออกปณิธานดังนั้นแล้ว เทวีก็พรมน้ำ ต่อเกสรอันศักดิ์สิทธิ์ลงบนหยาดโลหิตของอโดนิส บัดดล ก็มีพันธุ์ไม้ดอกสีแดงเลือด ดังสีทับทิมผุดขึ้น ดังมีชื่อเรียกกันสืบๆ มาว่า ดอกอโดนิส หรือ ดอกเออะเนมโมนิ (Anemone) แปลว่า ดอกตามลม (บางตำนานว่าก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเอง)

แรกเริ่มเดิมที ก่อนที่จะกลายเป็น เทวีแห่งความงาม และ ความรักนั้น อโฟร์ไดท์ เป็นเทวี แห่งความสมบูรณ์มาก่อน เมืองที่นับถือเทวีมากที่สุดได้แก่ เมืองปาฟอส ในไซปรัส และเมืองไซธีรา ในเกาะครีต นอกจากนั้น วิหารที่เล่าลือ ว่าโอ่อ่าที่สุดของซีกโลก ทางด้านตะวันออกได้แก่ วิหารที่เมืองคนิดุส ในรัฐแคเรีย (Caria) เมื่อเดินทางมาถึง กรีกก็มีผู้ศรัทธาเชื่อถือสร้างวิหารใหญ่ให้หลายแห่ง รวมทั้งกรุงเอเธนส์ซึ่งมีเทวีเอเธน่าเป็นเทพอุปถัมภ์ อยู่บน เนินอโครโปลิส ได้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทวีที่ชาวกรีก และโรมันโบราณ ถือว่าเกี่ยวข้อง กับความเป็นอยู่ ของมนุษย์ มากที่สุด เนื่องจากเทวี เป็นเทวีครองความรักและความงาม และความงามกับความรัก ก็เป็นสิ่งที่จับใจคน มากกว่า เรื่องอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ เทวีจึงมักเป็นที่เทิดทูน และกล่าวขวัญในวิจิตรศิลป์และวรรณคดีต่าง ๆ นอกจากนั้น ชาวกรีก และโรมัน ยังถือว่าเทวี เป็นเทวีครองความมีลูกดก และการให้กำเนิดทารกอีกด้วย

มีคติความเชื่อประการหนึ่ง ซึ่งอย่างน้อย ก็ยังพูดกันติดปากชาวตะวันตก มาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า ทารกถือกำเนิด เพราะนกกระสานำมา คตินี้สืบเนื่องจาก ข้อยึดถือของชาวกรีกและโรมัน มาแต่เดิมเหมือนกัน ในเทพปกรณัม กล่าวว่า นกกระสาเป็นนกประกอบบารมี ของอโฟรไดท์ คราวใดมีนกกระสาผัวเมีย ไปทำรังอยู่บนยอดหลังคาบ้านใด ก็หมายความว่าเทวีอโฟรไดท์โปรดให้ครอบครัวในบ้านนั้นมีลูกและจะให้ประสบ ความรุ่งเรือง

ในยุโรป โดยเฉพาะภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ถือนกกระสาประหนึ่งที่เคารพทีเดียว ในเยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ ถือว่านกกระสาเป็นนก ที่นำโชคลาภมาให้ ดังนั้นชาวเยอรมัน และวิลันดา จึงยินดีที่จะให้นกกระสา มาทำรัง บนหลังคาบ้านเสมอ ยิ่งอาศัยอยู่นานเท่าใด ก็ยิ่งเป็นมงคลแก่บ้านนานเท่านั้น นกกระสาจึงเป็นที่กล่าวขวัญถึง อย่างสำคัญ ตามเทพนิยาย นิทาน ชาวบ้าน และ นิทานเทียบสุภาษิตต่าง ๆ ของฝรั่งด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี้
อนึ่งชาวยุโรปทั่วไปเชื่อกันมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษด้วยว่า ในคราวที่บ้านหนึ่งบ้านใดกำลังจะมีเด็ก เทวีอโฟรไดท์ จะให้นกกระสา มาบินวนเวียนเหนือบ้านนั้น คตินี้กินความไปถึงว่า ถ้านกกระสาบินวนเหนือบ้านที่กำลังจะมีเด็กเกิด เด็กคนนั้น จะคลอดออกจากครรภ์โดยง่าย และอยู่รอดด้วย แต่คตินี้ในที่สุดก็เป็นเพียงข้อ อ้างที่พ่อแม่ จะใช้ตอบลูกตอนโต ๆ เมื่อถูกถามว่าน้องเล็กเกิดมาแต่ไหน หรือตัวเกิดจากอะไรเท่านั้น

เทวีอโฟร์ไดท์มีต้นเมอร์เทิล เป็นพฤกษาประจำองค์ สัตว์เลี้ยงของเทวีเป็นนก บ้างว่าเป็นนกเขา นกกระจอกบ้าง หงส์บ้าง ตามแต่กวีคนไหนจะชอบใจยกให้เป็นสัญลักษณ์ของเทวีแห่งความงามและความรัก

 

     
   

เอาคร่าวๆ นะเค๊อะ สำหรับเทพีองค์นี้ ที่หลงรักเธอเพราะคิดว่าเธอคือ เพศแม่ที่สมบูรณ์แบบ  เป็นการรวมร่างอวตารของหญิงทุกคนบนโลกใบนี้ ผู้หญิงที่มีชีวิตไม่สมบูรณ์แบบ  ทั้งที่เป็นถึงเทพเจ้า แต่กลับมีชีวิตไม่อาจเลือกได้ดั่งใจเสมอไป ผู้หญิงที่มีความรัก ความรักที่ซ่อนทั้งความดีงาม และความริษยาเอาไว้ ผู้หญิงที่แสดงออกถึงความชั่วร้าย แต่แฝงด้วยความรักอันบริสุทธิ์ เพราะความไม่สมบูรณ์แบบนี้แหละที่ได้เป็นเทพีกลางใจยังไงล่ะเค๊อะ (บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับความสวยงามเห็นไหม อิอิ)

หมายเลขบันทึก: 361334เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 18:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับ

แวะมาอ่านอะโฟรไดที

ภาพสวยมากเลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท