วันที่ 15 - 17 มิถุนายน 2549 ทีม สคส. นำโดย ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด, คุณฉันทลักษณ์ อาจหาญ และผู้เขียน รับหน้าที่เป็นวิทยากรกระบวนการจัดการความรู้ให้กับการประชุมเชิงปฏิบัติการทีมแกนนำนักจัดการความรู้ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ให้กับบุคลากรของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ เวทีนี้เป็นเวทีที่ 2 และเป็นเวทีสุดท้ายของ สคส. ตามเงื่อนไขที่ สคส. ตกลงไว้กับทีมนักวิจัยโครงการฯ ว่า สคส. จะทำหน้าที่เป็นวิทยากรกระบวนการจัดการความรู้ให้ดูเป็นตัวอย่างแก่ทีมนักวิจัยของโครงการฯ เป็นจำนวน 2 ครั้ง หลังจากนั้น ทีมนักวิจัยของโครงการฯ ต้องดำเนินการเอง
เวทีครั้งนี้ จัดขึ้นที่โรงแรมคุ้มสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี ผู้เข้าร่วม คือ ผู้บริหารและบุคลากรของ สพท. และสถานศึกษา ในเขต สพท. พระนครศรีอยุธยา 1, สพท. ลพบุรี 1 และ สพท. สุพรรณบุรี เขต 2 จำนวนประมาณ 60 คน
กลุ่มผู้เข้าร่วมกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะเคยฟังการบรรยายของ อ.ประพนธ์ มาแล้ว และมีบางส่วนที่ได้เริ่มลงมือดำเนินการในหน่วยงานหรือโรงเรียนของตนเองบ้างแล้วด้วย
ในครั้งนี้ ทีมประสานงานและทีมนักวิจัย ได้นำบทเรียนจากเวทีครั้งแรก มาปรับกระบวนการใหม่ ในหลายๆ ประเด็น เช่น
1. มีการส่งแบบบันทึกความภาคภูมิใจ ประทับใจในการทำงานให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนได้กรอกก่อน เพื่อที่จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งกลุ่มในช่วงกิจกรรมเรื่องเร้าเล่าพลังต่อไป
2. มีการเตรียมเอกสารคู่มือการทำหน้าที่ "คุณอำนวย" และ "คุณลิขิต" ในกลุ่มย่อยให้ศึกษาทำความเข้าใจทั้งช่วงก่อนและระหว่างการทำหน้าที่ "คุณอำนวย" และ "คุณลิขิต" ประจำกลุ่ม
3. มีการกำหนดหัวปลาย่อย ซึ่งได้มาจากแบบบันทึกความภาคภูมิใจ (ข้อ 1) เพื่อกำหนดให้สมาชิกแต่ละกลุ่มย่อย ได้เล่าเรื่องให้ตรงกับหัวปลาย่อยที่กำหนดไว้ และให้แต่ละกลุ่มได้พูดคุยทำความตกลงกันเองว่า สมาชิกแต่ละคนจะเล่าเรื่องอะไร ขอบเขตแค่ไหน ที่ไม่เกินเลยหรือออกนอกหัวปลาย่อยที่กำหนดไว้
สำหรับบรรยากาศช่วง Workshop ช่วงที่ผู้เข้าร่วมรู้สึกว่า มีความสำคัญ คือ ช่วงการสังเคราะห์ขุมความรู้เป็นแก่นความรู้ และการนำมาทำเป็นตารางแห่งอิสรภาพ กระบวนการนี้มีข้อถกเถียงอย่างมากถึงเกณฑ์ในการนำมาสร้างตารางแห่งอิสรภาพ เนื่องจากผู้เข้าร่วมค่อนข้างคุ้นชินกับเกณฑ์วัดระดับแบบขั้นบันได แต่สำหรับตารางแห่งอิสรภาพตามแนว สคส. จะเน้นไปที่วิธีการ ที่ค่อนข้างเป็นเอกภาพระหว่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละเกณฑ์และในแต่ละระดับ ซึ่งผู้เขียนในฐานะวิทยากรกระบวนการ ใช้เวลาอธิบายทำความเข้าใจในกระบวนการนี้อยู่นานทีเดียว และสิ่งที่ผู้เขียนเน้นย้ำอย่างมาก คือ วิธีการหรือกระบวนการของ สคส. เน้นการดำเนินการเพื่อพัฒนาตัวเอง และร่วมมือกันพัฒนาแบบเป็นเครือข่าย แบบเพื่อนช่วยเพื่อน ให้ก้าวไปด้วยกัน โดยที่ไม่ได้เน้นที่แข่งขันกันแบบคู่แข่ง แต่เราแข่งขันแบบกัลยาณมิตร ในที่สุดผู้เข้าร่วมเข้าใจมากขึ้น
นอกจากนั้น ในเวทีครั้งนี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยนอกรอบกับ อ.สุรศักดิ์ ศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งโรงเรียนนี้ เป็นศูนย์การเรียนการสอนภาษาไทยของ เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 1 ด้วย อ.สุรศักดิ์ ให้ความสนใจที่จะนำกระบวนการ KM ไปใช้ในการดำเนินการของศูนย์ฯ นี้ด้วย ซึ่งผู้เขียนสนับสนุนและยินดีเป็นที่ปรึกษาให้อย่างเต็มที่ โดยคงได้มีการประสานงานและจะรายงานความคืบหน้ากันต่อไป
และแล้วเวทีการสร้างแกนนำด้านการจัดการความรู้ ครั้งที่ 2 ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
แล้วพบกันในเวทีครั้งที่ 3 ที่จังหวัดพิษณุโลกคะ
ไม่มีความเห็น