ดร.ป๊อป ส่งเมล์ถึงข้าพเจ้าทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจและใคร่ระลึกถึง Recovery Model และหนังงามอันเป็นภาพยนต์แห่งชีวิตที่ประทับใจ Beautiful Mind และมีความรู้สึกและปรารถนาที่อยากจะเขียนถึง
Recovery and Wellness :
Models of Hops and Empowerment for People with Mental Illness.
ทำให้คำคำหนึ่งผลุดขึ้นมาในห้วงความคิด "ผู้ที่เชี่ยวชาญทางจิตใจ" มากที่สุด ก็คือ ผู้ป่วยเอง...ไม่มีใครรู้ซึ้งถึงสภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในของเขาได้มากเท่ากับตัวเขาเอง ผู้ดูแล ครอบครัว ทีมสุขภาพ หรือนักบำบัดเป็นเพียงเพื่อนร่วมทางที่คอยประคองให้เขาเกิดสภาวะการเรียนรู้ด้วยหัวใจอย่างเต็มเปี่ยมด้วยตัวของเขาเอง
เมื่อไรที่ผู้คนรู้สึกว่ามีความหวัง ซึ่งเป็นจินตนาการอันวิเศษของมนุษย์ที่ทรงอิทธิพลต่อการดำรงอยู่ของชีวิต ความหวังที่ก่อขึ้นและเต็มเปี่ยมอยู่ในดวงจิตของคนเมื่อซึ่งได้รับกำลังใจและการสนับสนุนเชิงสร้างสรรค์ ให้เขาลุกขึ้นมาใช้ศักยภาพที่มีอยู่มากเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะลุกขึ้นมาใช้อำนาจแห่งภายในดังกล่าวได้....เมื่อนั้น
ระหว่าง ==> ความหวัง + การสนับสนุนให้กำลังใจภายใต้ความเชื่อในความเป็นมนุษย์
จะนำพาเขาไปสู่การรับผิดชอบต่อตนเอง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์เขาได้เกิดการยอมรับในตนเองและกล้าหาญที่จะยืดอกรับสุข และทุกข์ที่ปรากฏขึ้นในชีวิต เมื่อนั้นเขาจะเริ่มเกิดความซึ้งในใจอันเคลื่อนคล้อยไปสู่การเข้าใจในความหมายแห่งการมีชีวิตอยู่...ว่า
"เกิดมาเพื่ออะไร"...
และระหว่างห้วงแห่งการดำรงอยู่นี้เพื่ออะไร...
มันคือ ความงดงามของชีวิต
ที่เราให้ความปราณีไม่ครอบงำ "ชีวิต" ด้วยสารเคมีต่างๆที่จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับสารชีวเคมีในร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะที่เดี้ยงและไร้การควบคุม แววตาแห่งความมีชีวิตของมนุษย์นั้นก็จะหายไป
ในทางกลับกันความกรุณาที่จะยืนยันให้เขามีชีวิตและดำรงอยู่ภายใต้ศักยภาพของความเป็นสิ่งมีชีวิตสิ่งหนึ่งที่ธรรมชาติให้ปัญญามา สนับสนุนให้เขาดำรงตนอยู่เคียงคู่กับการเจ็บป่วยทางจิตใจนั้น อย่างที่ไม่ต้องปฏิเสธกันและกัน
สำหรับข้าพเจ้ามองว่านี่แหละคือ ความงามของชีวิต
๑๗ พ.ค. ๒๕๕๓
ขอบคุณมากครับคุณ Ka-Poom