บันทึกความทรงจำประชาชนประเทศไทย 4


รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้า และไม่อาจถอยได้ ซึ่งถือเป็นแนวทางเดียว เพื่อให้บ้านเมืองปกติและเป็นนิติรัฐอย่างแท้จริง

ห่วงใยประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงนั้น

มาร์คลั่นไม่ถอย แดงต้องยุติ เพื่อรักษานิติรัฐ
 
 
 
 

"อภิสิทธิ์" เสียงแข็งรัฐถอยไม่ได้ ยันเดินหน้าต่อ ชี้ เป็นหนทางเดียวบ้านเมืองเป็นนิติรัฐ ลั่นยอมไม่ได้ใช้กรุงเทพฯ เป็นตัวประกัน ย้ำ แดงยุติสูญเสียน้อยสุด หากชุมนุมต่อก่อการร้ายปฏิบัติการไม่จบ...

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 53 เวลา 20.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยระบุถึงสถานการณ์ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ได้นำไปสู่ความสูญเสียชีวิต ตลอดจนประชาชนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตน รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคน รู้สึกไม่ต่างจากคนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และไม่ต้องการเห็นสภาพบ้านเมือง อยู่ในลักษณะความขัดแย้งและความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำที่ผ่านมา ทาง ศอฉ. ได้ออกมาอธิบายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้ประชาชนรับทราบและเข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ยืนยันว่า สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่นั้น เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และเพื่อนำความปกติสุขคืนสู่สังคม โดยทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ทั้งนี้สำหรับการชุมนุมที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการเจรจา และใช้มาตรการต่างๆ รวมถึงการเสนอแผนปรองดองแห่งชาติ แต่ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่มีใครปฏิเสธว่า การชุมนุมที่คู่ขนานกับกองกำลังติดอาวุธ ที่ก่อวินาศกรรม ทำร้ายทหาร ประชาชน และกลุ่มผู้ชุมนุมเอง นั้นเพื่อประโยชน์ของคนกลุ่มเล็ก ที่ต้องการเห็นความรุนแรง - ความสูญเสีย โดยเฉพาะแนวคิดที่จะนำชีวิตของพี่น้องประชาชน มากดดันรัฐบาล โดยทำให้การเกิดปัญหา ด้านการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งไม่สามารถทำได้อย่างไม่เต็มที่ และนำความสูญเสีย มาใช้ประโยชน์ทางการเมือง

ทั้งนี้หากแผนปรองดอง ไม่เป็นที่ยอมรับของแกนนำผู้ชุมนุม ดังนั้นรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ จึงมีความพยายามที่จะทำให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และให้การชุมนุมยุติลง

โดยให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ด้วยการป้องกันไม่ให้เติมกำลังผู้ชุมนุม เข้าไปในพื้นที่แยกราชประสงค์ การตัดบริการสาธารณะต่างๆ เพื่อจำกัดพื้นที่ และกดดันให้ยุติชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตั้งด่าน บริเวณพื้นที่รอบการชุมนุม ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่จะยังไม่ได้เข้าไปยังพื้นที่การชุมนุมแต่อย่างใด ทางกลุ่มผู้ชุมนุมกลับใช้อาวุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตอบโต้ พร้อมกับระบุว่า รัฐบาลไม่สามารถให้คนกรุงและกรุงเทพฯ ตกเป็นตัวประกัน รวมถึงปล่อยให้คนก่อการร้าย จัดตั้งกองกำลังล้มล้างรัฐบาลได้

โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้า และไม่อาจถอยได้ ซึ่งถือเป็นแนวทางเดียว เพื่อให้บ้านเมืองปกติและเป็นนิติรัฐอย่างแท้จริง ส่วนแนวทางที่จะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด คือ ที่ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เพราะหากยังมีการชุมนุมต่อ จะทำให้กลุ่มก่อการร้ายยังคงปฏิบัติการต่อเนื่อง ซึ่งจะนำความสูญเสียมาให้อย่างไม่จบสิ้น และเกิดความเสี่ยงมากขึ้นด้วย ส่วนการใช้กำลังบีีบบังคับรัฐบาลให้จำนนนั้น ไม่ใช่คำตอบ เพราะจะทำให้ฝ่ายอื่นทำตาม และทำให้ปัญหาไม่จบเช่นกัน

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่องค์กรต่างๆ ออกมาแสดงความห่วงใยประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงนั้น

สามารถเข้ามาดำเนินการเรื่องต่างๆ ได้  โดยรัฐบาลพร้อมให้ความสะดวก แต่วอนองค์กรที่จะเข้าไปดำเนินการ ต้องช่วยเหลือในมาตรการที่นำไปสู่การยุติการชุมนุมด้วย ทั้งนี้ยังได้้ขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ และเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น ทั้งนี้ขอให้ประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อช่วยกันยุติการชุมนุม แม้จะกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ โดยไม่ให้ประชาชนที่ไม่มีความจำเป็น เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งให้แยกแยะและใช้วิจารญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากมีการปล่อยข่าวลือ เพื่อป้องกันให้เกิดความสับสน

นาทีต่อนาที : จลาจลสงครามการเมืองเริ่มแล้ว
 
 
  

คมชัดลึก :ทันทีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แกนนำ นปช. สายฮาร์ดคอร์ โดนลอบยิงที่ศีรษะอาการโคม่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา


กลุ่มคนเสื้อแดงโกรธแค้นเจ้าหน้าที่ต่างพากันออกจากพื้นที่ชุมนุมราชประสงค์ ก่อเหตุป่วนทหาร ตำรวจ กระทั่งเกิดการปะทะกันเป็นเหตุให้ชายวัย 25 ปีถูกยิงเสียชีวิต จากนั้นความรุนแรงก็ขยายวงออกไปเรื่อยๆ

 00.10 น. วันที่ 14 พฤษภาคม เสียงระเบิดดังขึ้นที่ลานจอดรถของโรงแรมดุสิต ต่อมามีกลุ่มคนยิงลูกแก้วและหัวนอตใส่อาคารโรงแรม บางส่วนยิงใส่ รพ.จุฬาลงกรณ์

 00.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยึดรถน้ำทหาร 2 คัน ขณะขับผ่านใต้สะพานไทย-เบลเยียม ถนนสาทรเหนือ จากนั้นเรียกรถแท็กซี่ให้ทหารที่ประจำบนรถ 6 คน กลับไป

 01.00 น. ที่แยกศาลาแดง กลุ่มผู้ชุมนุมปะทะกับทหาร เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงปิดถนน ส่วนที่ตึกอื้อจือเหลียง ตรงข้ามสวนลุมพินี คนเสื้อแดงจุดประทัดยั่วยุทหารตลอดเวลา

 02.10 น. ผู้ชุมนุมยึดรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 4 คัน ไปขวางถนนพระราม 4 ฝั่งขาเข้าบริเวณแยกบ่อนไก่ ทำให้จราจรเป็นอัมพาต

 02.45 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทวิตประณามทหารใช้ความรุนแรง และคุยกับลูกสาว เสธ.แดง หลังหมอผ่าตัดเสร็จ

 03.00 น. ทหารตรึงกำลังพร้อมใช้กระสอบทรายตั้งบังเกอร์ที่หน้าอาคารอื้อจือเหลียง ถนนพระราม 4 ตรงข้ามประตู 3 สวนลุมพินี ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนจากแยกสารสินมารวมตัวที่แยกวิทยุ ด้านประตู 2 สวนลุมพินี ประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ห่างกันเพียง 50 เมตร
 05.30 น. ชายอายุประมาณ 60 ปี ถูกยิงบาดเจ็บที่บริเวณใกล้อาคารวานิช ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

 06.00 น. สหรัฐอเมริกาสั่งปิดสถานทูต ขณะที่สถานทูตอังกฤษ และเนเธอร์แลนด์งดบริการวีซ่า

 08.00 น. คนเสื้อแดงฮือปิดล้อมทหารชุดเคลื่อนที่เร็วอาวุธครบมือขับขี่รถจักรยานยนต์ 7-8 คัน ผ่านมาทางด้านหลังบริเวณแยกถนนวิทยุ ใกล้สะพานไทย-เบลเยียม ทำให้ทหารยิงปืนเปิดทาง 3 นัด

 09.10 น. ผู้ชุมนุมปิดล้อมรถข่าวช่อง 3 ที่สวนลุมพินี อ้างไม่เสนอข่าวไม่เป็นกลาง

 09.20 น. เฮลิคอปเตอร์บินผ่านแยกศาลาแดง เสื้อแดงยิงบั้งไฟและพลุไล่

 10.30 น. ศอฉ.สั่งทหาร 1 กองร้อย ขอคืนพื้นที่สวนลุมพินีจากผู้กลุ่มชุมนุม

 10.54 น. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ปราศรัยขอให้ประชาชนปักหลักตรึงพื้นที่และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อรับมือการสลายการชุมนุมของทหาร

 12.00 น. ปิดถนนสาทรเหนือมุ่งหน้าพระราม 4 มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ทหารส่องอาวุธปืนไปตามอาคารสูงต่างๆ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างวิ่งหนีชุลมุน

 12.15 น. ทหารยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่คนเสื้อแดงรุกคืบขอคืนพื้นที่แยกถนนวิทยุ

 12.30 น. กลุ่ม นปช.ยึดรถบัสขนส่งตำรวจไปจอดใกล้ สน.ลุมพินี แล้วจุดไฟเผาเสียหายทั้งคัน

 13.00 น. ที่ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่ ถนนพระราม 4 กลุ่ม นปช.เผายางรถยนต์เพื่อสกัดกำลังเจ้าหน้าที่ เสียงปืนยังดังต่อเนื่อง

 13.20 น. เจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจลนั่งรถยีเอ็มซี 2 คัน และรถตู้ 9 คัน เสริมกำลังที่แยกวิทยุ

 13.30 น. ที่ชุมชนบ่อนไก่ ผู้ชุมนุมยิงลูกแก้ว ลูกเหล็กด้วยหนังสติ๊ก และปาระเบิดเพลิงใส่ทหาร  เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้สลับยิงปืนขึ้นฟ้า

 13.50 น. ขณะที่สองฝ่ายปะทะกันที่รั้วสวนลุมพินี ถนนวิทยุ ทำให้ช่างภาพหนังสือพิมพ์มติชน และผู้สื่อข่าวสำนักข่าวฟรานซ์ 24 โดนยิงที่ขา

 13.55 น. เหตุปะทะที่บริเวณหน้าสวนลุม ไนท์บาซาร์ มีผู้บาดเจ็บ 2 คน หลังสิ้นสุดเสียงปืนทหารรุกคืบประชิดแนวร่วม นปช.ทันที
 14.30 น. ศอฉ.สั่งทหารตรึงกำลังระวังเต็มที่โดยรอบบริเวณชุมนุม

 15.00 น. ทหารอาวุธครบมือเข้มทำเนียบรัฐบาล ใช้ล้อยางทำบังเกอร์หน้าประตู

 15.20 น. ทหารปะทะการ์ด นปช. ที่แยกราชปรารภ เสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่นไปที่แยกประตูน้ำ

 15.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนเจรจาเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง

 15.55 น. หลังจากทหารรุกคืบจากสะพานไทย-เบลเยียม ล้อมผู้ชุมนุมที่หน้าสนามมวยลุมพินี จับกุมแนวร่วม นปช. ได้ประมาณ 20 คน

 16.20 น. แกนนำ นปช.แถลงจี้รัฐบาลหยุดยิง ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุบสภาทันที

 16.25 น. ชาวบ้านย่านถนนราชปรารภ ซอย 4 และ 6 โห่ไล่คนเสื้อแดงที่ขว้างปาระเบิดเพลิงหวั่นโดนบ้านเรือน

 17.00 น. กลุ่ม นปช. เผายางรถยนต์ 5 เส้น ไฟลุกโชนแล้วกลิ้งลงมาจากสะพานไทย-เบลเยียม เสียงปืน ประทัด ดังเป็นระยะๆ

 18.00 น. ตำรวจกองปราบฯ จับรถต้องสงสัยขนถังดังเพลิงต่อชนวนระเบิด 2 ถัง

 18.00 น. มือมืดยิงระเบิดเอ็ม 79 กว่า 5 ลูก ใส่จุดตรวจเจ้าหน้าที่ที่ตึกอื้อจือเหลียง มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ส่วนที่ย่านบ่อนไก่ยังปะทะเดือด ขณะที่ทหารเคลื่อนรถหุ้มเกราะเข้าสู่แยกศาลาแดง

 20.00 น. พล.ต.ต.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์  นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ แถลง นปช.เสียชีวิตจากเหตุปะทะที่แยกศาลาแดง 3 คน


 


หมายเลขบันทึก: 359118เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2010 14:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 187 ราย และเสียชีวิต 24 รายแล้ว !!

ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต

00.00 น. ศูนย์เอราวัณ สรุปยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 187 ราย และเสียชีวิตแล้ว 24 ราย

ทั้งนี้ในส่วนของผู้บาดเจ็บ เป็นชาวต่างชาติ 5 ราย ได้แก่ ชาวแคนนาดา 1 ราย, ชาวโปแลนด์ 1 ราย, ชาวพม่า 1 ราย, ชาวไลบีเรีย 1 ราย และไม่ทราบสัญชาติ 1 ราย

01.00 น. ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งหมดเป็นพลเรือน แบ่งเป็นชาย 23 ราย และหญิง 1 ราย โดยมีรายชื่อ ดังนี้

1. นายเสน่ห์ นิลเหลือง อายุ 48 ปี รพ.กล้วยน้ำไท

2. นายอินแปลง เทศวงศ์ อายุ 32 ปี รพ.กล้วยน้ําไท

3. นายประจวบ ศิลาพันธ์ รพ.ตํารวจ

4. นายปิยะพงษ กิติวงศ์ อายุ 32 ปี รพ.ตํารวจ

5. นายสมศักดิ์ ศิลารักษ์ อายุ 28 ปี รพ.ตํารวจ

6. น.ส.สันทนา สรรพศรี อายุ 32 ปี รพ.พญาไท

7. ชายไทยไม่ทราบชื่อ รพ.พญาไท

8. นายพัน คํากอง รพ.พญาไท

9. นายมนูญ ท่าลาด รพ. พญาไท 1

10. นายชัยยันต์ วรรณจักร์ รพ.พระมงกุฏเกล้า

11. ชายไทยไม่ทราบชื่อ รพ.ราชวิถี

12. ชายไทยไม่ทราบชื่อ รพ.ราชวิถี

13. นายกิตติพันธ์ ขันทอง อายุ 26 ปี รพ.ราชวิถี

14. นายทิพเนตร เจียมพล อายุ 32 ปี รพ.ราชวิถี

15. นายสรไกร ศรีเมืองปุน อายุ 34 ปี รพ.ราชวิถี

16. นายบุญทิ้ง ปานศิลา อายุ 25 ปี รพ.รามาธิบดี

17. นายสุภชีพ จุลทรรศน์ อายุ 36 ปี รพ.ราชวิถี

18. นายมานะ แสงประเสริฐศรี อายุ 25 ปี รพ.เลิดสิน

19. นายอําพล ชื่นสี อายุ 25 ปี รพ.รามาฯ

20. นายสมพันธ์ ศรีเทพ อายุ 25 ปี รพ.รามาฯ

21. นายอุทัย อรอินทร์ อายุ 35 ปี รพ.รามาฯ

22. ชายไม่ทราบชื่อ รพ.พญาไท 1

23. นายวารินทร์ วงศ์สนิท อายุ 28 ปี รพ.ราชวิถี

24. นายพรสวรรค์ นาคะไชย อายุ 23 ปี รพ.เลิดสิน

เสื้อแดงเมินเคอร์ฟิว-ท้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์ตรวจอาวุธสงคราม

เสื้อแดงเมินเคอร์ฟิว-ท้าเปิดตู้คอนเทนเนอร์ตรวจอาวุธสงคราม



     เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงข่าวว่า แกนนำขอพึ่งพระบารมีเพื่อยุติความขัดแย้ง เหมือนในเหตุการณ์พฤษภาคมทมิฬ ปี 2535 พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุติการปฏิบัติการในครั้งนี้ แกนนำขอร่วมต่อสู้ต่อไป แม้ความตายจะเกิดได้ตลอดเวลา ตนพร้อมจะตายบนเวที ขอให้นายอภิสิทธิ์ยุติการปฏิบัติการใดๆ อย่ายิงปืนใส่เด็ก สตรี คนชรา และขอวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศให้คุ้มครองบ้านเมืองให้สงบสุข
     นายก่อแก้ว พิกุลทอง กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เตรียมแผนที่จะทำร้ายผู้คนเพิ่มอีก เนื่องจากสงสัยว่าในพื้นที่ชุมนุมจะมีอาวุธสงคราม พวกตนโดยพร้อมจะเปิดตู้คอนเทนเนอร์ให้สื่อตรวจสอบว่ามีการเก็บอาวุธสงครามไว้หรือไม่  ส่วนการประกาศภาวะเคอร์ฟิวไม่สามารถหยุดยั้งพวกตนได้ เชื่อว่าหากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นก็จะมีคนออกมาร่วมชุมนุมมากขึ้น ประเทศไทยจะเหมือนราวันดามากขึ้นทุกวัน พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้ประเทศในอาเซียนช่วยกันหยุดยั้งเหตุการณ์ด้วย


 

ผมคิดว่าความสงบสุขจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อทุกฝ่ายคิดดี ทำดีเพื่อประเทศชาติโดยแท้เท่านั้น มิใช้เพื่อใคร หากไม่สามารถบังคับให้

ไครคิดดีหรือทำดีได้โดยสันติเพื่อให้เกิดความสงบสุข รัฐก็จำต้องบังคับใช้กฏหมายครับเพื่อชาติและประชาชน

มายกมือเห็นด้วยกับความเห็นของคุณเดชาค่ะ

ยิ่งนานวัน  ยิ่ง สูญเสีย มากขึ้น  มากขึ้น

ขอบพระคุณค่ะ

ก็อดทนรอมาเนิ่นนานแล้วนะคะ ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร ก็โดนว่าทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่ดีค่ะ

ก็ต้องยึดเอาความถูกต้อง และผลปย. และผลระยะยาว ยาว ยั่งยืนเป็นหลักดีกว่าค่ะ

 

วันหยุดที่ผ่านมา ยิ่งดูข่าวยิ่งเครียดนะคะ

เบื่อๆ บรรยากาศแบบนี้จัง ^^

เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสรุปผลการดำเนินการในการขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมหรือจะเรียกว่าบางคนเป็นผู้ก่อการร้ายก็ว่าได้เนื่องจากใช้อาวุธสงครามทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต

ถ้าผมขอได้จะขอร้องว่า

       สำหรับประเทศไทยพี่น้องอย่าทำลายกันเองอีกต่อไปนะครับ เพราะเราพี่น้องกันเรามีผืนแผ่นดินไทยที่อยู่อาศัยด้วยกันนั้น บรรพบุรุษเรารักษาไว้ด้วยเลือดด้วยชีวิต แล้วเราอยู่กันอย่างมีความสุขเป็นเวลานานมากๆ แล้วเวลานี้เราจะมารบกันเพื่ออะ รบกันทำใม อย่าไปตามใจใครคนที่บ้าเงิน บ้าอำนาจก็ช่างเขา เราอยู่แบบพอเพียงก็ดีแล้วครับ ไม่นานก็ต้องตายกันทุกคน แล้วเรามาช่วยกันสร้างความเจริญให้คนรุ่นหลังกันดีกว่าเพื่อลูกหลานเราจะได้มีแต่ความสุข สร้างชาติให้เจริญต่อไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท