สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ามองเห็นในองค์กร ในการงาน ในชีวิตของผู้คน...คือ การทำงานตามคำสั่ง หาน้อยมากในคนหน้างานที่จะก้าวอย่างทำงานนอกคำสั่ง อันเป็นการงานที่ปรากฏตามสภาวะแห่งความคิด และการสร้างสรรค์ตามศักยภาพแห่งความเป็น "มนุษย์"
การทำงานที่นาย..ไม่เห็นด้วย นายไม่สนับสนุน หากแต่ว่าประโยชน์และคุณค่าจะเกิดอย่างมากมายต่อคนทำงาน และผู้คนทั่วไปก็ตาม "คนหน้างาน" ก็ไม่กล้าที่จะก้าวย่าง...
เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น...
ในทัศนะของข้าพเจ้า นั่นน่ะเป็นเพราะว่า เรานั้นถูกกระบวนการครอบงำ มาตั้งแต่เริ่มเรียนรู้ เราปราศจากการนำพาด้วยหัวใจอันเป็นอิสระ เราเติบโตมาด้วยความหวาดกลัวนับตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ ... พอเราเกิด คนที่ให้เราเกิดหวาดกลัวความตาย เราถูกใส่รหัส (encoding) ความกลัว ความตาย...นับแต่ "จิตวิญญาณ" เราเริ่มปรากฏการรับรู้
ขณะที่ผ่านช่องคลอดออกมา ...
คนที่ทำคลอดให้เรา สภาวะแห่งจิตใจก็เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น หวาดกลัว
พอเราเข้าสู่การเริ่มต้นการมีชีวิตอยู่แบบมนุษย์...เราก็เริ่มได้เรียนรู้แบบสร้างเงื่อนไขให้เกิดความหวาดกลัว...
เราไม่ได้ถูกนำพา...ให้เกิดและเคลื่อนไปตามวิถีธรรมชาติ
เราไม่ได้ถูกนำพาให้มองเห็นความเป็นไป...ที่เกิดมาพร้อมกับตาย...
นี่จึงเป็นต้นตอหลักที่ทำให้เราดำรงชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวตั้งแต่เกิด เติบโต ทำงาน และแก่ตัว... สภาวะจิตใจเราจึงเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง หวาดหวั่น ก้าวร้าว ขึ้งโกรธ และแข็งกร้าว... ปราศจากความเบิกบานและความอ่อนโยน
มีหลายคน...บอกต่อข้าพเจ้าว่า จะให้เบิกบานได้อย่างไร ภาระแห่งความทุกข์ล้อมรอบตัวไปหมด...ผู้คนรอบด้านก็ไม่น่าคบหา จะมาให้ใจเบิกบานได้อย่างไร
เป็นคำถามและการบอกเล่าที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสงสารจับใจ...ยิ่งนัก
ความหวาดกลัว...ได้ฝังลึกลงไปในจิตวิญญาณของผู้คน จนทำให้เราห่างไกลความเป็นอิสระตามศักยภาพของความมีชีวิต "มนุษย์"..
ช่วงชีวิตที่ยาวนานที่สุด...คือช่วงชีวิตแห่งการเรียนและการทำงาน
ช่วงชีวิตเหล่านี้...เราถูกใส่รหัสแห่งความหวาดกลัว จนเราเหมือนกับถูกจับเข้ากรงขังอย่างดิ้นไม่หลุด
เราจึงมองเห็นคนทำงาน...ที่เต็มไปด้วยหัวใจแห่งความทุกข์ตรม และขาดซึ่งพลังชีวิตที่จะก้าวย่างไปสู่ "อิสระภาพ" ที่ปราศจากการหวาดกลัว
เราจึงทำได้เพียงแค่...ให้ใครคนหนึ่งมา "สั่งการ"...
เพราะคนที่สั่งการเอง...ใจของเขาก็เต็มเปี่ยมด้วยความหวาดกลัว
เราจึง...เห็นว่า รอบๆ ตัวเราต่างปล่อยเชื้อแห่งความหวาดกลัวออกมาเต็มไปหมด
เราจึงเป็นดั่ง "สิ่งมีชีวิตหนึ่ง" ที่ถูกจับเข้ากรงขังและล้อมกรอบไว้ เพราะนั่นน่ะเชื่อว่าคือ ที่ที่ปลอดภัยสำหรับเรา
๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓
นำภาพ กรง กั้นความคิด มาฝาก
บางทีบางครั้งมันก็อึดอัดอย่างว่าแหละเนาะ ต้องใช้วิธีปล่อยวางค่ะ ไม่งั้นก็เศร้าไม่จบ ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ
เป็นข้อคิดที่ดีมากค่ะ เพราะทุกวันนี้ก็กำลังปฏิบัติอยู่เช่นนี้ การทำงานต้องให้ผู้ปฏิบัติมีอิสระในการทำงานงานจึงจะออกมาดี เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ