ความรักของผู้ป่วยสนามหลวง.....แล้วคุณดูแลคนที่บ้านบ้างไหม


อิสรชนลงพื้นที่ทุกวันอังคารกับศุกร์ อยากเชิญชวนผู้คนที่ได้อ่านบทความนี้ อยากมาเรียนรู้ ม้าเป็นมิตรในการพูดคุยกับคนที่สนามหลวง ยินดีค่ะ ติดต่อได้ที่ 086-687-0902 Case ที่กล่าวมานี้เขาก็จะแวะเวียนมาที่รถโมบายอิสรชนทุกครั้ง มาดื่มน้ำ ขอยาให้เมียเวลากลางคืนเมียปวดท้อง หรือถ้าใครไม่สะดวกแต่อยากช่วยก็สนับสนุนเป็นทุนให้เราได้ต่อยอดการทำงานกับคนเหล่านี้ได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล่า เลขบัญชี 031-00-3432-9 ค่ะ ร่วมแบ่งปันกันนะค่ะ

หลาย ๆ คนที่ได้ยินคำว่า “ผู้ป่วย” ในที่นี้ก็อาจจะงงว่า คืออะไร ผู้ป่วยที่อิสรชนกำลังจะเล่ าเรื่องราว ความรัก ความน่ารัก คือ ผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต ทุกวันนี้ มีผู้ป่วยทางจิต และ ผู้ป่วยทางสมอง ประมาณ 30-40 % ในพื้นที่ สนามหลวง คลองหลอด เมื่อเดือนที่ผ่านมา 2 ราย ที่เป็นผู้หญิงที่มีอาการทางจิต จำเรื่องราวของตนเองไม่ได้ บอกว่าเสื้อเป็นกางเกง อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ อิสรชนได้ประสานงานส่ง Case 2 รายนี้เข้ารับการดูแลที่บ้านมิตรไมตรี และบ้านมิตรไมตรีก็ส่งต่อรักษาที่ รพ.ศรีธัญญา คนหนึ่ง รับการรักษาอาการดีขึ้น กลับไปอยู่กับป้าที่ต่างจังหวัด คนนี้มีอาการที่ชอบเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนมาสนใจ ส่วนอีกคนยังอยู่ในการรักษา


โรงพยาบาลทางจิตของประเทศไทย มีจำนวนไม่เพียงพอกับผู้ป่วย ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยนั้นได้เริ่มคล้าย ๆ กับต่างประเทศ คือ ทัศนคติต่อผู้ป่วยจิตเวชยังไม่ดีนัก คิดว่าสาเหตุมาจาผีเข้า ส่วนใหญ่จึงให้การรักษาโดยพระในศาสนารดน้ำมนต์ เสกเป่า ซึ่งการจะเข้าการรักษาในโรงพยาบาลก็ต่อเมื่อมีอาการคลุ้มคลั่งจนญาติ ๆ ไม่สามารถดูแลได้ โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในไทยที่รักษาผู้ป่วยทางจิตเวช


ปี 2480 เปิดโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ เป็นโรงพยาบาลที่สอง ขึ้นในภาคใต้
ปี 2481 เปิดโรงพยาบาลสวนปรุงเป็นโรงพยาบาลที่ สาม ขึ้นที่ภาคเหนือ
ปี 2484 สร้างโรงพยาบาลศรีธัญญา
ปี 2490 เปิดโรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปี 2497 ได้เปิดแผนกจิตเวชในโรงพยาบาลทั่วไป เริ่มครั้งแรกที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ปี 2503 ตั้งโรงพยาบาลปัญญาอ่อน ชื่อว่า โรงพยาบาลราชานุกุล
ปี 2508 มีโรงพยาบาลสถาบันประสาทวิทยา ที่ จ.สงขลา และ เปิดแผนกจิตเวชในโรงพยาบาล จ.นครราชสีมา ซึ่งต่อขยายบริการเป็นโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา
ปี 2510 เปิดโรงพยาบาลจิตเวชเด็ก คือ โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ เน้นที่กลุ่มเด็ก
ปี 2512 เปิดโรงพยาบาลนิติจิตเวช เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคจิตที่ก่อคดีที่พุทธมณฑล สาย 4 เขตตลิ่งชัน เน้นผู้ป่วยโรคจิตที่ก่อคดีในรูปแบบต่าง ๆ
ปี 2514 มีศูนย์สุขภาพจิตชุมชนหลายแห่งเกิดขึ้น
ปี 2515 กองโรงพยาบาลโรคจิตเปลี่ยนชื่อเป็นกองสุขภาพจิต และในปี 2538 กองสุขภาพจิตเปลี่ยนเป็นกรมสุขภาพจิต


แต่ในบทความนี้ อยากจะสะท้อนให้เห็นภาพ ของความรัก การดูแล กันเองของครอบครัวที่มีผู้ป่วยทางจิตและใช้ชีวิตในที่สาธารณะ Caseแรก ใครมาเยี่ยมอิสรชนก็จะเจอแกเกือบทุกครั้ง ถ้าในความคิดส่วนตัวของผู้เขียน คิดว่า พี่โจ้เป็นผู้ชายที่มีความรักและทำหน้าที่สามีได้ดีกับภรรยาที่มีอาการทางจิต ที่ไม่สามารถโต้ตอบหรือพูดคุยกับใครได้ ภรรยาของเขาจะรับคำสั่งและฟังแต่สามี ทุกเช้าต้องดื่มกาแฟ ถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มกาแฟก็จะคลั่ง พี่โจ้กับอุ้มเป็นCase แรก ๆ ที่อิสรชนพบในพื้นที่ ตั้งแต่ ปี 2546 ตอนนั้นพี่อุ้มท้องและอิสรชนพาไปคลอดที่โรงพยาบาล และส่งกลับบ้าน (ถือเป็น case แรกที่ส่งกลับบ้านแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงทำให้อิสรชนพบคำตอบว่า การส่ง Case กลับบ้านต้องส่งถึงบ้านและอยู่กับครอบครัวของ Case เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุย ในการดูแลคนของครอบครัวให้อยู่บ้าน) ที่บอกว่า Case พี่โจ้ส่งกลับบ้านไม่สำเร็จเท่าที่ควรเพราะว่าตอนนั้น มีอาสาสมัครที่เป็นสองสามีภรรยา ให้ค่ารถและไปส่งขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิต พี่โจ้ไปอยู่บ้านได้สองเดือน พาลูกพาเมียมาทำงานทางใต้ พอลูกมาเป็นไข้ป่าตาย ก็เลยช็อคไม่มีที่ไปกลับมาที่สนามหลวง แต่ถึงจำลำบากแค่ไหน ไม่มีกินขนาดไหน พี่โจ้ก็ไม่เคยทิ้งเมียที่มีอาการทางจิต สื่อสารกับใครไม่ได้ มีแต่โลกส่วนตัว พี่โจ้พาเมียไปขึ้นทะเบียนคนพิการที่มีอาการทางจิต เวลาเมียมีประจำเดือนก็คอยดูแลให้ พอวันไหนหาเงินจากการเดินขอตังค์ เก็บของเก่าขาย ได้มากก็อิ่มทั้งคู่ วันไหนได้น้อย ก็ให้เมียกินอิ่มก่อนเหลือเท่าไรก็ค่อยกิน พี่โจ้เคยบอกว่า “ตายก็ตายด้วยกัน ถ้าไม่มีพี่โจ้ใครจะดูแลอุ้มได้” เพราะมีครั้งหนึ่งพี่โจ้โดนจับ อุ้มก็นั่งรอพี่โจ้ที่ที่โดนจับ 1 อาทิตย์ ใครเข้าใกล้ไม่ได้ แม้แต่อิสรชนเองสื่อสารไปอุ้มก็ไม่เคยรับรู้ได้ แต่สิ่งที่อาสาสมัครหรือเราชาวอิสรชนเห็น คือความรักที่ยิ่งใหญ่ ที่ชายคนหนึ่งมอบให้กับสาวคนหนึ่ง แม้ชีวิตก็ให้ได้ ผ่านมาที่รถทุกวันก็จะมาแซวเล่นกับอาสาสมัคร วันดีคืนดีอารมณ์อุ้มก็หอมแก้มพี่โจ้ให้ดู เป็นคู่หนึ่งที่เขาดูแลกัน เยี่ยว รักษากันเองในสาธารณะ ทั้งที่สังคมหรือครอบครัวไม่รับเขา หรือกลัวเขาเวลาที่เขาเข้าใกล้


อีกคู่ เมียนี้มีอาการทางจิต ประสาทหลอน และทำงานขายบริการในบางครั้ง Case นี้เกิดจากการทำ Case confirent กัน โดยโรงพยาบาลกลาง Case นี้ไปคลอดลูกที่ โรงพยาบาลกลาง แต่ไม่มีหลัดฐานใด ๆ ทาง โรงพยาบาลจึงประสานงานให้อิสรชนช่วยหาประวัติข้อมูล แต่ระหว่างที่สืบหากันนั้น Case อาระหวาดที่จะเอาลูก แล้วนี้ออกมา แต่ทางโรงพยาบาลก็ดูแลโกอย่างดี ณ ตอนนี้ เด็กอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ ส่วน Case นี้อยู่ที่สนามหลวง คำถามที่หลาย ๆ คนคงสงสัยว่าทำไม Case ถึงยังขายบริการทางเพศได้ เคยคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่า เมื่อผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต เมื่อได้รับความรัก ความสุข สารในร่างกายจะหลั่งสารความสุข ทำให้คนป่วยเหล่านี้ ดีขึ้น สังเกตเองจาก Case หลาย ๆ Case ในพื้นที่ที่มีอาการทางจิต อย่างน้อย 2 Case ที่บางครั้งทำอาชีพขายบริการทางเพศ แต่สำหรับ Case นี้ ดาว ที่มีแฟนดูแล แฟนขาเป้ข้างหนึ่ง เมื่อวานที่อิสรชนมาลงพื้นที่ มาเล่าเรื่องราวของดาวให้ฟังว่าเป็นอย่างไร คือการมาทักทายตามปกติ สุดท้ายเราถามกลับว่า “แล้วพี่รักไหม” พี่ตอบกลับมาว่า “ถึงมันเป็นอย่างนี้ ก็รัก ไม่รักจะอยู่มาได้ถึง 10 ปี แลกันมาหรอ” แล้วก็เดินกอดคอกันไปนอนที่สนามหลวง ดาวอาการจะคล้าย ๆ อุ้มแต่ดีกว่าที่ว่า บางวันก็สื่อสารกับคนอื่นได้บ้าง แต่ลูกที่ดาวไปคลอดนั้นไม่ใช่ลูกของแฟนที่เขาอยู่ด้วย ไม่รู่ว่าใครเป็นพ่อ แต่พี่เขาก็อนุญาตให้ใช้ชื่อเขาได้ถ้าจะแจ้งเกิดเด็ก


2 Case ที่เราอยากถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความรัก ที่ ณ วันนี้เขาสองคนไม่มีอะไรกันเลย มีแต่ตัวกับหัวใจ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ คือสามารถพูดได้ว่ารักเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ที่ช่วยเยียวยา ดูฉล และเป็นกำลังใจให้การมีชีวิตอยู่ของคนคนหนึ่งเพื่อดูแลคนอีกคนหนึ่ง ไม่ว้าคนคนนั้นจะสติดีหรือไม่ แต่เขาก็ไม่เคยทั้งกัน ใครจะว่าว่าเมียฉันบ้า แต่ฉันก็รัก และดูแลได้ดีเท่าผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้ มีประจำเดือนก็ทำให้ทุกอย่าง ซื้อผ้าอนามัยเปลี่ยนให้ เพราะเมียไม่สามารถช่วยตัวเองได้
หลาย ๆ คนคงถามว่าทำไมไม่ส่งเขาเข้ารับการรักษา ถ้าถามกลับแบบชาวบ้าน คือ คนไม่มีเงินสักบาท ไม่รู้แม้ว่าตนเองเป็นใคร เอาเข้าจริงโรงพยาบาลจะรับรักษาหรือเปล่า ในขณะที่โรงพยาบาลมีจำนวนจำกัด กับคนป่วยที่เพิ่มมากขึ้น หรือถ้ามีหลักฐานทางทะเบียนราษฎร์ ถ้าอาการไม่หนัก ไม่ทำร้ายใคร ก็กลับบ้านญาติดูแลรักษาเอง คนเหล่านี้เขาถึงดูแลกันเอง


อิสรชนลงพื้นที่ทุกวันอังคารกับศุกร์ อยากเชิญชวนผู้คนที่ได้อ่านบทความนี้ อยากมาเรียนรู้ ม้าเป็นมิตรในการพูดคุยกับคนที่สนามหลวง ยินดีค่ะ ติดต่อได้ที่ 086-687-0902 Case ที่กล่าวมานี้เขาก็จะแวะเวียนมาที่รถโมบายอิสรชนทุกครั้ง มาดื่มน้ำ ขอยาให้เมียเวลากลางคืนเมียปวดท้อง หรือถ้าใครไม่สะดวกแต่อยากช่วยก็สนับสนุนเป็นทุนให้เราได้ต่อยอดการทำงานกับคนเหล่านี้ได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล่า เลขบัญชี 031-00-3432-9 ค่ะ ร่วมแบ่งปันกันนะค่ะ

อัจฉรา สรวารี : เขียนและเรียบเรียง

 

หมายเลขบันทึก: 358262เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 17:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 06:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท