รมช.คลัง ติดตามงบไทยเข้มแข็ง พร้อมดูแลความเป็นอยู่ชาวบ้าน

นายแพทย์พฤฒิชัย ลงพื้นที่ตรวจเข้มความก้าวหน้างบไทยเข้มแข็ง  และดูแลทุกข์สุขประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร

นายแพทย์พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในคราวลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการงบไทยเข้มแข็งตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อติดตามการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ
เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน   โดยงบโครงการไทยเข้มแข็งที่ลงจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 619.66 ล้านบาท   งบส่วนใหญ่เป็นด้านคมนาคม  ซึ่งมีจำนวน 300.44 ล้านบาท หรือร้อยละ  48.48  ด้านชลประทาน จำนวน 162.64 ล้านบาท หรือร้อยละ  26.25  ด้านการศึกษา จำนวน 128.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.67  และด้านอื่น ๆ ประมาณ 28.5 ล้านบาท    จากรายงานของหน่วยงานทราบว่ามีผลการดำเนินงานด้านคมนาคมดีมาก สามารถดำเนินงานเสร็จและเบิกจ่ายเงินแล้ว 239.22 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 79.62  ทำสัญญาแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการอีกจำนวน 46.45 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 15.46 เป็นประโยชน์อย่างมากต่อคนในพื้นที่และเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไปด้วย เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก  อยู่บริเวณศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจังหวัดและเป็นเส้นทางหลักที่ผ่านไปสู่จังหวัดต่าง ๆ ทางภาคใต้  สามารถกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ   สำหรับงานด้านชลประทาน ส่วนใหญ่จะเป็นงานด้านบริหารจัดการน้ำ   ในพื้นที่เกี่ยวกับประตูระบายน้ำ  และงานป้องกันและบรรเทาอุทกภัย การทำกำแพงดินป้องกันการกัดเซาะของตลิ่ง  ซึ่งจะช่วยเหลือพื้นที่ราบลุ่มไม่ให้ถูกน้ำท่วมได้ 3,000-4,000 ไร่ โครงการต่าง ๆ เมื่อเสร็จแล้วจะเกิดประโยชน์อย่างมาก
ซึ่งขณะนี้ทุกโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ ก็น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย แต่หากว่ามีปัญหาอุปสรรคใด ๆ ก็ให้ประสานงานโดยตรงกับทางคลังจังหวัดได้ทันทีเพื่อหาแนวทางแก้ไขได้ทัน  

นายแพทย์พฤฒิชัย  ดำรงรัตน์  กล่าวต่อว่า สำหรับด้านความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่  ตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ  จากข้อมูลภาพรวม ณ วันที่ 23 เมษายน 2553  มีลูกหนี้ลงทะเบียน 1,183,355 ราย คิดเป็นมูลหนี้ทั้งสิ้น 122,672.19 ล้านบาท  ได้เชิญเข้ามาเจรจาแล้ว 390,101 ราย คิดเป็นร้อยละ 32.97  และในจำนวนนี้เจรจาสำเร็จ 239,312 ราย  คิดเป็นร้อยละ 20.22  ทั้งนี้จังหวัดสมุทรสาครมีลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 7,847 ราย คิดเป็นมูลหนี้ 715.38 ล้านบาท ได้มีการเจรจาแล้ว 3,162 ราย เป็นเงิน 133.08 ล้านบาท  ประสงค์จะเข้าโครงการ จำนวน 1,478 ราย เป็นเงิน 95.66 ล้านบาท  ซึ่งแบ่งไปตามธนาคารต่าง ๆ แล้ว

ในส่วนของประชาชนที่รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีอาชีพหรือมีแต่มีรายได้ไม่เพียงพอ ของทั้งประเทศเป็น ผู้สูงอายุ จำนวน 5,6 ล้านคน   ผู้พิการ จำนวน 7.7 แสนคน  อสม. จำนวน 9.7 แสนคน  โดยผู้สูงอายุที่ได้ลงทะเบียนในจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 40,718 คน คิดเป็นเงิน 239.17 ล้านบาท  เบี้ยยังชีพคนพิการ จำนวน 2,260 คน คิดเป็นเงิน 13.560 ล้านบาท  เบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 31 คน คิดเป็นเงิน 0.186 ล้านบาท  และเงินอาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 2,385 คน คิดเป็นเงิน 17.172 ล้านบาท  ในส่วนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือทุกคน ทุกเดือนแล้ว  ซึ่งน่าจะพอช่วยเหลือได้บ้าง ทั้งนี้หากพบปัญหาอุปสรรคหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ศูนย์บริการประชาชน  1111 หรือที่คลังจังหวัดและกรมบัญชีกลางได้โดยตรง นายแพทย์พฤฒิชัย  กล่าว