กระทรวงการคลังเร่งพัฒนาระบบการจ่ายตรง เพื่อจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้าบัญชีเงินฝากโดยตรง และพร้อมพัฒนาจ่ายให้กับกลุ่มอื่นด้วย เช่น อสม. และผู้พิการ
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลต่าง ๆ
ที่ดำเนินการมาได้มุ่งเน้นถึงความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย หรือด้อยโอกาสเพื่อให้
มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น ผู้สูงอายุที่ออกจากงานแล้วและไม่ ไม่มีรายได้ประจำหรือมีแต่ไม่เพียงพอในการดำรงชีพ อาสาสมัครที่ช่วยเหลืองานราชการ ช่วยเหลือสังคม รวมถึงผู้ด้อยโอกาสจากการทุพพลภาพมีฐานะยากจนไร้ที่พึ่ง ทางภาครัฐได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเป็นอยู่เป็นเงินตอบแทนรายเดือน แม้ว่าจะเป็นจำนวนเงินละ 500 บาท และ 600 บาท ซึ่งอาจเป็นจำนวนไม่มากนักแต่ก็สามารถช่วยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นบ้าง
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางพิจารณาเกี่ยวกับระบบระเบียบ และขั้นตอนต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือจริง ๆ ต่อเนื่องและไม่ถูกเอาเปรียบ โดยมีการหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานครฯ เมืองพัทยา ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการลงทะเบียน และขอจัดสรรงบประมาณ เพื่อพัฒนาระบบจ่ายเงินเข้าบัญชีของ ผู้มีสิทธิโดยตรง ซึ่งรัฐบาลได้มีการเจรจายกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินให้แล้ว โดยระบบจ่ายตรงจะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ฐานข้อมูลผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการตกหล่น หรือได้รับซ้ำซ้อน ปัจจุบันมีจำนวนผู้มีสิทธิที่ได้รับการช่วยเหลือแต่ละกลุ่ม ดังนี้
“ดังนั้น ผู้พิการที่ได้ลงทะเบียนไว้และได้รับการตรวจสอบเอกสารหลักฐานเป็นผู้มีสิทธิเรียบร้อยแล้วจะได้รับเงินเดือนแรก เมษายน นี้อย่างแน่นอน” นายแพทย์พฤฒิชัย กล่าว
ไม่มีความเห็น