เ พื่ อ น แ ท้
จาก รางวัลดีเด่นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ผู้แต่ง ลัดดา ภุชงค์ ,ripw klongluang patumtani 13180 กรุงเทพฯ:ต้นอ้อ,2534
เมื่อดวงตะวันลอยเด่นเหนือขอบฟ้า ลำแสงที่สาดฉายทอดมาก็ปลุกชีวิตทั้งหลายให้ตื่นขึ้น พร้อมกับความร่าเริงยินดี สัตว์ป่านานาชนิดเริ่มออกหากิน ฝูงนกโบยบินร่อนถลาหาเหยื่อ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแจ่มใส
แต่สำหรับเจ้าลูกหมีพิการ ซึ่งกำพร้าทั้งพ่อและแม่ กลับมีแต่ความเหงาหงอยเศร้าซึม เมื่อถึงเวลาที่จะออกไปหาอาหารมาเลี้ยงยายผู้มีพระคุณ“อ้ายขาเป๋เดินโซเซ อ้ายขาเกเหไปหันมา...ฮ่า ๆ ๆ” นี่คือเสียงตะโกน ล้อเลียนของลูกเสือลายกับเพื่อนพ้องดังขรม ยิ่งไปกว่านั้นบางครั้ง เจ้าลูกหมีพิการ ก็ยังถูกกลั่นแกล้งขว้างปาเอาอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่มันไม่เคยสร้างความเดือนร้อนให้กับใครเลย“ยายจ๋า ทำไมขาฉันจึงพิการอย่างนี้” เสียงของเจ้าลูกหมีพิการสั่นพร่า พร้อมหยาดน้ำตาที่เอ่อริน“วันหนึ่งเมื่อเจ้ายังเล็ก ได้เกิดพายุพัดโหมต้นไม้ใหญ่โค่นล้มกิ่งไม้ฟาดมาโดนขาเจ้า เจ้าก็เลยพิการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” ยายเล่าจบก็ดึงลูกหมีพิการเข้ามากอดด้วยความสงสาร “แล้วขาพิการของฉัน มันเป็นความเลวที่ใคร ๆ ต้องพากันเกลียดฉันด้วยหรือยาย” “ความพิการมิใช่ความเลว ความชั่วต่างหากที่เป็นความเลว จงอดทนและหมั่นทำความดีเข้าไว้ แม้วันนี้จะยังไม่มีใครรักเจ้า แต่ยายนี่แหละที่รักเจ้าอยู่ทุกวัน” ยายปลอบโยน ลมร้อนเริ่มพัดผ่าน ใบไม้สีเขียวเริ่มเหี่ยวเฉา ผืนดินบางตอนเริ่มตกระแหงลำธารเคยมีน้ำเอ่อล้น เริ่มแห้งขอด ปีนี้แห้งแล้งกว่าปีใด ๆ สัญญาณภัยครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว“ไฟไหม้ ๆ ๆ” เสียงตะโกนบอกข่าวร้ายดังก้องไพร สัตว์ป่าทุกชนิดต่างหอบลูกจูงหลาน หนีความตายกันโกลาหล รวมทั้งเจ้าลูกหมีพิการกับยายเฒ่าด้วย“เพื่อน ๆ เราขาแพลง ช่วยพยุงเราไปด้วยเถิด” กระต่ายน้อยออดอ้อน “เพื่อนรัก...เราหมดแรงเสียแล้วช่วยอุ้มเราไปด้วยเถิด” เจ้าลิงวิงวอน“กรุณาเถิดเพื่อนรัก...เรากำลังเป็นไข้ ช่วยแบกเราไปด้วย” เจ้าหมูร้องขอต่อหน้าเพื่อนลูกเสือลาย “ตัวใครตัวมันโว้ย !” แล้วเจ้าลูกเสือลายผู้มีร่างกายสมบูรณ์ก็วิ่งแจ้นตามแม่และพ่อของมันไป โดยทิ้งเพื่อนของมันไว้ข้างหลัง ส่วนเจ้าลูกหมี แม้ขาของมันจะพิการแต่จิตใจของมันกลับมีความสงสาร มันทั้งอุ้ม ทั้งแบก ทั้งพยุงเพื่อนเกเรเหล่านั้นหนีภัย อย่างทุลักทุเลไฟป่าโหมไหม้ไล่หลังใกล้เข้ามาแล้ว เจ้าลูกหมีขาพิการทั้งหนักแสนหนัก และเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่มันก็กัดฟันทน จนกระทั่งมันพายายและเพื่อน ๆ หนีไฟมาถึงริมลำธาร เมื่อมันโซเซปีนขึ้นฝั่งตรงกันข้ามได้ ความเหนื่อยล้าทำให้ลูกหมีพิการรู้สึกหน้ามืดมึนงง จนทรงตัวไม่อยู่ มันถึงกับล้มทรุดลง และหมดสติไป ดวงตะวันแห่งวันใหม่ขับไล่ราตรีให้หนีไป พร้อมกับตัวมันเองไต่ฟ้าลอยตัวสูงขึ้นช้า ๆ จนพ้นแนวสันเขา เจ้าลูกหมีพิการรู้สึกปวดร้าวไปทั้งร่าง
ขณะที่มันรู้สึกตัวและลืมตาตื่น มันก็ต้องพบกับความประหลาดใจเป็นที่สุด เจ้าหมูโบกพัดอยู่ใกล้ ๆ เจ้ากระต่ายนวดเฟ้นอยู่ที่ขาเข้าลิงยื่นผลไม้ส่งให้ สัตว์ทั้งหลายต่างมองและส่งยิ้มอันอบอุ่นต้อนรับลูกหมีพิการยิ้มตอบด้วยความสุขเมื่อรู้ว่า ผลของการที่ได้ทำความดี ด้วยการให้ความช่วยเหลือกับทุกชีวิตที่ประสบทุกข์ภัย คือ หนทางของการสร้างความรักและมิตรแท้ที่ตนปรารถนา
นางพรนิต ศิริเดช
ไม่มีความเห็น