ย้อนรอยประวัติศาสตร์ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐประหารในเมืองไทย


ไม่ว่าเป็นการปฏิวัติหรือการรัฐประหาร ก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของชาวไทยทั้งสิ้น

ย่อบทความเรื่อง  ย้อนรอยประวัติศาสตร์ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐประหารในเมืองไทย

จากหนังสือ ย้อนรอยขนวนการยืดอำนาจปฏิวัติเมีองไทย ผู้แต่ง เพลิง  ภูผา


      ประเทศไทยของเรามีการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนถึงปี พ.ศ.2475  ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการก่อการปฏิวัติและการก่อการรัฐประหาร 

      นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2475 โดยการก่อการของกลุ่มนายทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะราษฏร์” ภายใต้การนำของ พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา และได้รับการสนับสนุนจาก หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (นายปรีดี พนมยงค์) ชึ่งในครั้งนั้นถือว่าเป็นการก่อการปฏิวัติอย่างสมบูรณ์แบบครั้งแรกและเป็นครั้งเดียวในเมืองไทยเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นมาการพยายามยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลของกลุ่มอำนาจต่าง ๆ จะมาในลักษณะที่เรียกกันว่า “รัฐประหาร” ซึ่งเป็นวิธีการยึดอำนาจโดยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และหลังจากการยึดอำนาจแล้วก็อาจจะใช้รัฐธรรมนูญเก่าต่อไปหรือจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่แล้วแต่นโยบายของกลุ่มผู้ยึดอำนาจจากรัฐบาลหากผู้ก่อการกระทำการไม่สำเร็จก็จะถูกเรียกขานว่าเป็นพวกก่อการกบฏ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยก็มีการก่อการที่ล้มเหลวที่เป็นกลุ่มกบฏอยู่หลายกลุ่ม    เช่น   กบฏบวรเดช  , กบฏนายสิบ  , กบฏทรงสุรเดช  , กบฏเสนาธิการ  , กบฏวังหลวง  , กบฏแมนฮัตตัน และ กบฏ 9 กันยา สำหรับกลุ่มอำนาจที่ก่อการไม่สำเร็จกลายเป็นกบฏจะถูกลงโทษตามแนวทางของกฎหมายของรัฐบาลในขณะนั้น ส่วนการยึดอำนาจที่กระทำการสำเร็จก็มีอยู่หลายครั้ง เช่น การทำรัฐประหารโดยจอมพลผิน ชุณหะวัณ, การรัฐประหารโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม, การรัฐประหารโดย จอมพลสฤษดิ์  ธนรัชต์, รัฐประหารโดย จอมพลถนอม กิติขจร ฯลฯ และในครั้งล่าสุดที่ยังอยู่ในความทรงจำของคนไทยคือ การทำรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 โดยกลุ่มทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยการนำของ พลเอกสนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. และได้รับการสบันสนุนจากบรรดาผู้บัญชาการของทุกเหล่าทัพ

      ไม่ว่าเป็นการปฏิวัติหรือการรัฐประหาร  ก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของชาวไทยทั้งสิ้น  ดังนั้นชาวไทยทุกคนควรเคารพในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เคารพในสิทธิและหน้าที่ที่ตนมี จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มตลอดไป


นางสาวนุวดี  สีโยม

เจ้าหน้าที่จัดซื้อ

เขียนใน GotoKnow โดย 
 ใน >
คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 356712เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 16:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 12:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท