Master teacher กับความคาดหวัง...

คุณครูที่มีความตั้งอกตั้งใจในการพัฒนาศักยภาพของตน...นั้น...เป็น ยอดครู

ความต่อเนื่องจากการสอบวัดความรู้พื้นฐานของคุณครูในช่วงชั้นที่สี่ ในสาระวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ ไปเมื่อวันที่ ๘ เม.ย. ๕๓ จนกระทั่งเราได้รายชื่อคุณครูที่มีคะแนนอยู่อันดับต้นๆ ของแต่ละภาคส่วนของประเทศไทย และขนานนามเป็น master teacher พร้อมกับจัดการอบรมทางวิชาการ ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์ แต่เนื่องจากงบประมาณเป็นงบที่อยู่ในโครงการไทยเข้มแข็ง ประกอบกับการดำเนินการค่อนข้างฉุกละหุก ทำให้การจัดอบรมที่คาดหมายจะให้เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน นั้นต้องเลื่อนมาเป็นต้นเดือนพฤษภาคม ทำให้ศูนย์อบรมหลายศูนย์ ไม่สามารถสนับสนุนการอบรมได้

ผมเขียนเนื้อหาต่อไปนี้ด้วยความรู้สึกส่วนตัวนะครับ เพราะได้ร่วมในโครงการอบรมครูวิทยาศาสตร์มาหลายปี ทั้งในส่วนที่จัดโดยสมาคมวิทยาศาสตร์ และจัดโดยสสวท. โดยเฉพาะในช่วงหกปีต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ ซึ่งสมาคมวิทยาศาสตร์ฯ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการอบรมครูโดยได้รับความร่วมมือจาก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ รองรับหลักสูตรวิชาต่างๆ จนเมื่อปี ๔๙ ก็เกิดปัญหาเรื่องงบประมาณ ทำให้หยุดการจัดไป ในระหว่างนั้น สพฐ สสวท. และ สกอ. ร่วมกันสร้างหลักสูตรอบรมครูและทดลองหลักสูตรสามปีต่อเนื่องในหลายจังหวัด และเมื่อจบโครงการความร่วมมือนี้ ทางกระทรวงศึกษา ก็ได้จัดสอบวัดความรู้พื้นฐานขึ้น เราก็พบว่า คุณครูหลายท่านที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรความร่วมมือสพฐ สสวท.และสกอ. นั้นสามารถเข้ามาอยู่ในระดับ master teacher ได้ (ผมคะเนเองนะครับ ไม่ได้ใช้หลักสถิติใด) มองในแง่มุมหนึ่ง ก็ หลักสูตรที่ช่วยกันสร้างนั้น...ได้ผล

มาถึงกลุ่ม master teacher นั้น ทางสมาคมก็ได้รวบหลักสูตรอบรมเชิงเนื้อหาที่มีอยู่มาเป็นเนื้อหาเข้มข้น มาจัดอบรมในวันที่ ๓-๑๒ พ.ค. (ช่วงนี้) ซึ่งส่วนตัวกระผมเองนั้น ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเป็นการอบรมที่ใช้ช่วงเวลายาวมาก และทุกฝ่าย ย้ำ ทุกฝ่าย กระทำอย่างเร่งรีบ อันอาจทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ ในสถานการณ์อย่างนี้ ผมยังอยากเห็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยที่เป็นศูนย์จัดการอบรม (คงต้องมองผ่านวิชาฟิสิกส์ และ โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ที่ผมเกี่ยวข้อง) ว่า คุณครูที่สอบผ่านมานี้ ท่านก็มีความรู้และ/หรือประสบการณ์สอนที่ทำให้ท่านสามารถแสดงออกเป็นผลคะแนนที่ประจักษ์แล้ว การนำคุณครูเหล่านี้มาพบกันควรจะได้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งเนื้อหา ปัญหา การวิจัยและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาที่ท่านรับผิดชอบอยู่ โดยมีคณาจารย์จากศูนย์อบรมช่วยแนะนำหรือเสนอความคิดเห็น เพราะการมองจากมุมต่างๆ ต่อปัญหา หรือความสำเร็จที่เกิดขึ้นทั้งตัวคุณครูและ สถานศึกษานั้น จะเกิดประโยชน์มากกว่าการนำคุณครูที่เราอุตสาห์จัดสอบและคัดเลือกได้ว่าท่านเป็น master teacher นั้น มากักในห้องเรียนร่วมสิบวัน แถมด้วยการทดสอบแล้วทดสอบอีก จนเหมือนจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจมากกว่า การเสริมให้เกิดความมั่นใจต่อเนื้อหาทางวิชาการ

เรามีเวทีให้คุณครูวิทย์ในช่วงชั้นที่สี่ มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่อนข้างน้อย มีงานประชุม วทร. (ซึ่งปีนี้งด) ก็ ยังไม่ได้รับความนิยมหรือส่งเสริมให้คุณครูวิทย์-คณิตได้เข้าร่วมมากเท่าที่ควร ดังนั้น ผมจึงรู้สึกค่อนข้างผิดหวังกับงบประมาณขนาดนี้ ที่ใช้ในการสอบคัดเลือกคุณครูแล้ว ให้ท่านมาเข้าอบรมอย่างเร่งรีบ...บังคับ..กดดัน...แบกรับคาดหวัง... ชีวิตคุณครูที่ทุ่มเทด้วยความสามารถน่าจะได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมกว่านี้ครับ เหมาะสมที่ผมหมายถึงนั้นก็คือ ให้คุณครูท่านได้มีโอกาสพูดหรือแสดงออก ซึ่งความสามารถ หรือ เสนอข้อปัญหา เสนอผลงานวิจัยเชิงปฏิบัติการในห้องเรียน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้...แบบสังคมการเรียนรู้มากกว่า พยายามยัดเยียดว่า ครูจะเก่งแค่ไหนก็ตาม..อาจารย์มหาวิทยาลัยก็เก่งกว่า... (บั่นทอนความเชื่อมั่นเหลือเกิน)

แต่เท่าที่เห็นๆ ในห้องอบรม คุณครูทุกท่าน ก็มุมานะและตั้งใจกับการอบรมเสียจน...ผมไม่กล้าออกความเห็นเพิ่มเติมต่อไป... สู้ๆ ครับ คุณครู

[อ.นุ]

เห็นด้วยครับอาจารย์...

"คุณครูที่มีความตั้งอกตั้งใจในการพัฒนาศักยภาพของตน...นั้น...เป็นยอดครู"

ขอบคุณครับ

[พรชัย]

ต้องยอมรับในศักยภาพของครูมาสเตอร์ครับ ข้อสอบที่นำมาสอบหินมากๆ