จุดจบประเทศไทย


ไม่ใช่เพราะการเ้มือง ไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ แต่เป็นเพราะเราชาวไทยที่ไม่ทำตามพ่อสอน Subject: FW: จุดจบประเทศไทย ปี 2553 (อ่านนะ ดีมาก ดีมาก) คนไทยต้องอ่านนะ Date: Tue, 4 May 2010 17:01:50 +0700 หาเวลาว่าง เปิดใจอ่านทุกบรรทัด แล้วกลับไปคิดว่าจะชีวิตอยู่อย่างไรในสังคมปัจจุบัน ปี 2553 จุดจบประเทศไทย ...... ถ้ายังเป็นคนไทยอยู่ช่วยอ่านด้วย เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้...ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา..ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน

สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค 
ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง 
เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ 
ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น 
แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ 
และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา 

ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ 
คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน 
ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์   การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์ 
สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล 

ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน 
เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ 


เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ 

เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนให่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ 
วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย   รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ 


เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว 
ไฟฟ้าก็แพงขึ้น   น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา   ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น   ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ 
คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ 

ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ 
การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา   คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ 
ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว 
เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ 
เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ 

ดังนั้น   เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก   เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... 
เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ฤา 

จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553 คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย 
การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร   ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย 
ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว   การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน 

จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี   ตราด   ระยอง  ฉะเชิงเทรา   จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ   การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก 
นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐAlaska จาก  Russia 
ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ 

เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร 
ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี   และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่าเราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างให่อีกเพราะอะไร
เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท 
เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน

นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์   แล้วบางห้าง 86ปอร์เซ็นต์ 
สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ 
ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท   มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว 
ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้างทั่วประเทศ 


คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100เปอร์เซ็นต์ 
เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร 
ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้   ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง 
เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด 

ผมอธิบาย วิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า  license ( ค่าลิขสิทธิ์ ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ 
มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง เดือน   
ขนมต่างชาติ ห่อสวย   แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้   ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย   ผมทำได้และได้ทำแล้ว 

ปล . ที่นำบทความนี้มาเผยแพร่  เพราะนิ่งดูมานานมากกว่า ห้าปี เมื่ิอนึกทบทวนสถานการณ์บ้านเมือง  ก็ยิ่งเป็นห่วง ประเทศชาติและสงสารพ่อหลวงของเราอย่างมาก  ทุกสถาบันคงต้องหันมาช่วยสร้างจิตสำนึกให้มีการปฏิบัติตามลอยเท้าพ่อ อย่างเป็นรูปธรรมจนเป็นนิสัย


หมายเลขบันทึก: 356296เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2010 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณทั้งข้อมุลและภาพประกอบนะครับ..

ชอบภาพมากๆ..

  • ตามมาอ่านครับ
  • คุณนิติภูมิไม่ได้ถูกทั้งหมดครับ
  • ลองสืบประวัติท่านดูนะครับ
  • 12 พค ไป กศน อยุธยาครับ อยู่แถวๆๆนั้นหรือเปล่าครับ

แป่วๆๆบอกผิดวัน วันที่ 20-21 พค ครับ งง งง ตัวเอง

ตกลงครับท่าน ดร.ขจิต ๒๐-๒๑ ผมจะไปพบท่านที่ กศน. ยินดีต้อนรับครับท่าน

ตอนนี้เราต้องชาตินิยมมากๆ ชอบๆ ขอบคุณค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท