How to flirt 2


How to flirt 2

           เรารู้จักกับพี่คนหนึ่งที่ผ่านเรื่องราวความรักมามากมาย แต่มีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจที่พี่เราเล่าให้เราฟังก็นึกขัน ความที่เราเป็นคนที่ชอบอ่าน คอลัมน์ How to flirt ของคุณกมลชนก ปานใจ ก็เลยบอกพี่เขาไปว่าเหมือนเรื่องในคอลัมน์เลยน่าจะตั้งเป็น How to flirt 2 ได้

           พี่เราชอบเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่พี่เรากระทำกับผู้ชาย เพื่อแก้เหงาเท่านั้น ขอย้ำว่าแก้เหงา เพราะดูสถานการณ์ของอายุตอนนี้ของพี่เราก็เกือบ 30 เข้าไปแล้ว ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักคน พี่เราเคยมีแฟนแต่ว่าเพราะความเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเกินขอบเขต ความอดทนของคนเราก็มีจำกัดฝ่ายชายก็แสนดี คิดว่าเป็นคนที่ทำให้ฝ่ายหญิงอาจจะลำบากใจที่คบกับเขา เขาก็ยินดีเลิกคบตามที่ฝ่ายหญิงบอกเลิกก่อนแบบประชดในตอนนั้น พอตอนนี้ฝ่ายหญิงคิดได้ว่าผิดก็เลยอยากจะกลับไปเหมือนเดิมมันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้ก็เคว้งและเกิดความเหงาขึ้นมา

           เรื่องมีหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรกความที่พี่เราอยู่หอ ซึ่งเป็นหอรวมชายหญิง พอพี่เราเห็นผู้ชายที่ถูกสเป็กก็จะสืบเบอร์ห้องที่ผู้ชายคนนั้นอยู่พร้อมกับชื่อและเบอร์โทรห้องนั้น การที่หอมีการโทรถึงกันได้โดยไม่เสียเงินหรือที่เรียกว่า intercom พี่เราก็ใช้ใหญ่เลย เราถามว่าเวลาโทรไปไม่อายหรือ พี่เราบอกว่าจะอายอะไรเขาไม่เห็นเราสักหน่อย ได้ยินแต่เสียง เราไม่เคยฟังตอนที่พี่เราโทรไปห้องนั้น แต่เราก็ถามว่าพี่คุยอะไรบ้าง พี่เราก็บอก และนี่ก็คือบทสนทนา

                                             “สวัสดีคะ ขอสาย…….”        ที่เว้นไว้คือชื่อผู้ชาย

                                             “เฮ้ยไอ้…….มีสาวโทรมา”                   “                  และเป็นเสียงของเพื่อน

                                             “ฮัลโหล”                               เขารับสาย

                                             “สวัสดีคะ”

                                             “สวัสดีครับ ใครอะ”

                                             “ทานข้าวหรือยังคะ”

                                             “ทานแล้ว    ใครอะ”

                                              ……………………               แล้วพี่เราก็วางสายไป

ตอนต่อมาไม่ทราบว่าพี่เราไปทำอีท่าไหน คนที่หมายปองไม่ได้คุย แต่ได้คุยกับคนที่ไม่ถูกสเป็ก หน้าตาไม่เข้าขั้นและโดนสืบกลับจนรู้ตัวพี่เรา แต่ความที่เขาเหล่านั้นต้องย้ายหอเรื่องต่าง ๆ ก็จบไป

         เรื่องที่สอง บังเอิญที่ทำงานของพี่เรา มีเจ้าหน้าที่ที่มีน้องชายหล่อ หน้าตาตรงสเป็ก พี่เราก็เลยขอเบอร์ ตอนแรกเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ให้ แต่ตอนหลังเห็นใจ หรือใจอ่อน ทนการตื้อแบบสาวมั่นอย่างพี่เราก็เลยให้เบอร์น้องชายของเธอมา พี่เราก็เริ่มสืบประวัติ ว่าชอบเล่นกีฬา และเรียนอยู่ปริญญาตรีเป็นปีสุดท้ายกำลังทำงานทางคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดตอนที่โทรไปคุย บังเอิญเราได้ยินพี่เราคุยในวันหนึ่งที่เราไปช่วยพี่เราพิมพ์งานที่หอพัก ความว่า

                                              “………ทานเข้ายัง”         ที่เว้นไว้คือชื่อผู้ชาย

                                              “ทานแล้วครับ”

                                              “คิดถึงจัง”

                                              “คิดถึงเหมือนกัน พิมพ์งานอยู่ และอาทิตย์หน้าจะได้รถ”

                                              “มีคนนั่งหน้ารถหรือยัง”

                                              “ยัง แต่ว่าอาทิตย์หน้าไม่แน่”

ปัจจุบันก็เหมือนน้องแค่คุยแก้เหงา เพราะไม่ได้มีความรู้สึกรัก และกลัวจะเสียความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่ที่สนิทในที่ทำงาน แต่ก่อนที่จะคุยกันแบบนี้ได้ การสนทนาก็เหมือนกับเรื่องแรกมาก่อน และก็ให้พี่สาวที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำงานไปเฉลย

         เรื่องสุดท้าย พี่เรามีเพื่อนดีบังเอิญได้คุยกัน พี่เราถามว่าพอจะมีผู้ชายโสดบ้างไหม เพื่อนพี่เราก็ให้เบอร์มาแต่ไม่รับรองว่าหน้าตาจะพอใจไหม ต่อมาพี่เราก็โทรไปแบบลึกลับแบบเรื่องแรกและนัดเจอกันเพราะคิดว่าไม่น่าจะอันตราย เพราะเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนของเพื่อนพี่เราอีกทีที่ให้เบอร์มา สรุปว่า หน้าตาของผู้ชายไม่ผ่าน ตอนแรกพี่เราคิดว่าหน้าตาไม่สำคัญเท่าไหร่ ถ้าจิตใจดีก็คิดว่าพอไหว สุดท้ายก็ไม่ไหวรับไม่ได้ทั้งสองอย่าง เช่น เป็นคนคิดว่าตัวเองหล่อและมีความมั่นใจอยู่ตลอดเวลา ชอบดูถูกคนอื่น ไม่ชอบคนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บังเอิญพี่เราก็มาจากภาคนี้แต่ยังไม่เฉลย มีวันหนึ่งนัดเจอกันอีกฝ่ายชายก็พาเพื่อนมาด้วย ปากเพื่อนก็ไม่ดีทักว่า  ”สวัสดีป้า”

พี่เรายังทนไหว แต่ยังมีอีก พี่เราก็ถามว่า “ทานอะไรกันดีคะ” เพื่อนเขาก็พูดมาทันทีว่า “จะเลี้ยงหรือ” เราได้ฟังก็แปลกเหมือนกันว่าพูดกันดี ๆ ไม่ได้หรืออย่างไร พี่เราก็ขอตัวกลับทันที แบบไม่มีใครมาส่ง ดีที่สถานที่ไม่ไกลจากหอพัก หลังจากนั้นเขาก็โทรมาขอโทษ พี่เราก็เฉลยว่ารู้เบอร์โทรมาจากไหน และขอบอกว่าไม่สนใจแล้ว และไม่อยากรับโทรศัพท์อีก เรื่องก็กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ คือแฟนของเพื่อนพี่เราที่เขาก็เป็นเพื่อนสนิทกัน และทำงานที่เดียวกัน ก็โกรธกัน หาว่าเห็นเขาเป็นตัวตลก โทรไปแหย่เล่น แกล้งจีบเขาเล่น ๆ ความที่เขาเป็นคนมั่น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ยอมรับไม่ได้ จะเอาเรื่องให้ได้ พยายามโทรมาหาพี่เราตลอดเวลา จนไม่อยากรับสาย และโทรเข้าหอพี่เรารับและบอกว่าเรื่องต่าง ๆ เพื่อนของพี่เราไม่เกี่ยว พี่เราอยากติดต่อไปเองและยอมรับผิดที่โทรไปแหย่เองตอนแรก ตอนนี้ไม่ชอบแล้วจริง ๆ ปัจจุบันเรื่องก็ยังเป็นเหมือนเดิม อีกคนตาม อีกคนหนี

         บางทีเรื่องมนุษย์ มีเรื่องมากมายที่ไม่อยากเจอ และอยากเจอ และความที่เราเป็นสัตว์สังคมต้องพบปะและใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น และมีคนมากมาย ลักษณะนิสัยก็ต่างกัน เราอาจจะเจอทั้งคนดีและคนไม่ดี คนที่อารมณ์รุนแรง และคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว ก็ต้องระวังการกระทำอะไรต่อบุคคลอื่น เขาอาจจะเจ็บใจ และทุกข์ใจต่อการไม่ตั้งใจของเราได้ สิ่งสำคัญคือว่า ให้การกระทำมันมาจากความไม่ตั้งใจดีกว่ามาจากคว่ามตั้งใจหรือว่าเป็นเรื่องล้อเล่นมันเจ็บใจจริง ๆ นะ สำหรับคนที่โดนกระทำ….

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องสั้น
หมายเลขบันทึก: 356203เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2010 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 10:06 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท