เมื่อวาน (4 พ.ค.) ได้มีโอกาสเข้าไปใช้พื้นที่ของมูลนิธิมันสำปะหลังซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองเลี้ยงแตเบียนเพื่อควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากการทำลายของเพลี้ยแป้งด้วยการใช้แตนเบียนควบคุม นับเป็นแหล่งทดลองที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมโดยใช้ชีววิธี ปีนี้แล้งรุนแรงมาก เกษตรกรจำนวนมากยังไม่ได้ปลูมัน เพราะรอฝนอยู่ เดิมเกษตรกรจะปลูกได้ราวปลายเดือนมีนาคม แต่ปีนี้พฤษภาคมแล้วยังไม่ได้ปลูก เกษตรกรที่เคยเตรียมท่นพันธุ์ไว้ปลูกอาจต้องเตรียมหาท่อนพันธุ์ใหม่เพราะท่อนพันธุ์หมดสภาพ
เกษตรกรที่ไม่ได้พ่นยาฆ่าแมลงลองสังเกตในแปลงมัน จะมองเห็นแมลงช้างเข้ามาช่วยกำจัดเพลี้ยแป้ง ช่วงนี้ใบพืชน้อยประชาการเพลี้ยแป้งก็น้อยด้วย คิดว่าการปล่อยให้ธรรมชาติช่วยกันกำจัดจะเป็นสิ่งที่ดี สบายกระเป๋า และสุขภาพก็ดี
การปรับความคิดเรื่องไม่ใช่สารเคมีค่อนข้างยากแต่ที่พื้นที่ของมูลนิธิมันสำปะหลัง ก็สามารถยืนยันได้ว่าทำได้จริง การใช้สารเคมีมาเกินไปกระตุ้นให้เกิดการระบาดของศัตรูพืชบางขนิดรุนแรงได้ เพราะกลไกลการควบคุมตามธรรมชาติถูกทำลายด้วยสารเคมีที่เกินจำเป็น หากพวกเราจำกันได้มันสำปะหลังเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ค่อยมีศัตรูหรือแมลงรบกวน แต่...เกิดอะไรขึ้นในช่วง 1-2 ปีนี้
ปีนี้อยากเชิญชวนให้เกษตรกรแช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีกำจัดเพลี้ยแป้งก่อนปลูก และควรปลูกต้นฝน ฝนจะช่วยได้ในการควบคุมเพลี้ยแป้ง เตรียมพร้อมสำหรับการใช้แตนเบียนมาควบคุม ซึ่งตอนนี้หลายหน่วยงานกำลังขยายจำนวนอยู่ แต่เนื่องจากเข้าต้องการเพลี้ยแป้งสีชมพูเป็นอาหาร การเลิ้ยงเพลี้ยแป้งสีชมพูเพื่อผลผลิตแตนเบียนจึงดูไม่ง่ายนัก
ไม่มีความเห็น