มูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์
มูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์
หากใครได้ติดตามการประชุมระดับโลก ระดับนานาชาติหรือระดับประเทศ เกี่ยวกับพัฒนาสังคมในด้านต่างๆ นั้น จะพบว่าในที่ประชุมเหล่านั้นต่างพากันยึดถือปรัชญาที่สำคัญในการทำงานเพื่อสังคมและชุมชน คือ“มุ่งเน้นให้คนในชุมชนนั้นๆ เป็นหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหากันเอง” ภายใต้การสนับสนุนส่งเสริมจากรัฐและหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า “คนในชุมชนย่อมรู้ถึงปัญหาที่ชุมชนประสบอยู่ รู้ถึงศักยภาพ ทรัพยากรและ ภูมิปัญญาที่ชุมชนมีอยู่” นั่นเอง
“มูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์” คือตัวอย่างที่สำคัญของพลังชุมชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้น ด้วยจิตศรัทธาและเคารพต่อ “คุณครูปลั่งศรี มูลศาสตร์”ปูชนียบุคคลและครูผู้เสียสละและทุ่มเทแก่วงการการศึกษา แก่จังหวัดและลูกศิษย์ลูกหามานานกว่าห้าสิบปี
กิจกรรมหลากหลายของมูลนิธิฯ ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา แม้จะไม่เป็นที่รับรู้ของสังคมในวงกว้างมากนัก แต่สำหรับชาวสุรินทร์แล้ว มูลนิธิแห่งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ เป็นตัวอย่างและความหวังหนึ่งที่ช่วยพัฒนาการศึกษาและพัฒนาเด็กๆ เยาวชนภายในจังหวัดมาโดยตลอด ตั้งแต่
หนึ่ง...ด้านการศึกษา มีการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่ยากจน การจัดหาหนังสือดีมีคุณค่าแก่ห้องสมุดโรงเรียนต่างๆ การจัดผ้าป่าการศึกษา ฯลฯ อยู่อย่างต่อเนื่อง
สอง...ด้านวัฒนธรรม ส่งเสริมสนับสนุนมหกรรมผ้าไหมและวัฒนธรรมประจำถิ่น การแสดงวัฒนธรรมของเด็กนักเรียน
สาม...ด้านกีฬาและดนตรี ส่งเสริมการแข่งขันกีฬาเปตองและกิจกรรมกีฬาประจำจังหวัด การประกวดวงดนตรีลูกทุ่งเฉลิมพระเกียรติ์ฯ
สี่...ด้านวรรณกรรม ส่งเสริมกิจกรรมของสโมสรนักเขียนภาคอีสาน การจัดผ้าป่าวรรณกรรม
ประการที่สี่นี้ ล่าสุดมูลนิธิฯได้จัดพิมพ์หนังสือที่น่าสนใจขึ้นเล่มหนึ่ง คือ “40 ปีของชายหนุ่มลูกอีสานในแดนอาทิตย์อุทัย” เป็นหนังสือเล่มบางๆ ที่เขียนโดย ดร.นพ.ยิ่งยง พิษณุวงษ์ เพื่อมอบให้แก่ห้องสมุดและผู้สนใจทั่วไป เนื้อหาภายในเล่มได้ชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้อย่างไม่ท้อถอย กระทั่งประสบความสำเร็จในชีวิต (เข้าใจว่าน่าจะพอมีเหลือสำหรับผู้สนใจทั่วไป ขอได้ติดต่อไปยังมูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์)
นอกจากนี้ มูลนิธิแห่งนี้ยังมีห้องสมุดที่มีหนังสือมากมายหลากสาระให้ผู้สนใจได้หยิบยืมไปค้นคว้าหาความรู้ได้อยู่เสมอ ทั้งยังมีแถบวีดีทัศน์ที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนให้ได้ยืมไปเปิดชมได้ตลอดเวลา
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ คุณครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ยังทำงานทุ่มเทอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการเป็นวิทยากรรับเชิญไปบรรยายแก่นักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ อย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย แม้จะเกษียณอายุราชการมานานหลายปีแล้วก็ตาม ครูก็ยังเป็นครูผู้มีแต่ให้อยู่ตลอดเวลา
ครับ ผมยกตัวอย่างมูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์ มาเสนอให้รับรู้กันทั่วไปเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการตอกย้ำปรัชญาข้างต้นของศักยภาพชุมชนที่เกื้อกูลต่อชุมชนอย่างได้ผล อย่างไรก็ตามท่านที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ ก็สามารถติดต่อไปได้ที่ “มูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์ 11 ถ.มูลศาสตร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000” ได้ทุกเวลาครับ
ความเห็น (3)
วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553 นี้ ท่านอาจารย์ปลั่งศรี มูลศาสตร์ ก็จะมีอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์ ลูกหลานและลูกศิษย์มากมายในจังหวัดสุรินทร์ จึงร่วมกับมูลนิธิปลั่งศรี มูลศาสตร์และสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสิรินธร (ซึ่งอาจารย์ได้บุกเบิกขึ้น) จัดงานแสดงความกตัญญู กตเวทิตาคุณแก่อาจารย์ขึ้นในเย็นวันนั้น
สำหรับผมในฐานะศิษย์คนหนึ่ง ได้รับเป็นประธานจัดงาน "ปาฐกถาปลั่งศรี มูลศาสตร์"ขึ้นในหัวข้อเรื่อง "เยาวชนไทย ก้าวไกล ใฝ่ดี"ขึ้นในบ่ายวันที่ 26 มิถุนายน 2553 โดยได้วิทยากรคือคุณแทนคุณ จิตอิสสระและคุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ มาร่วมกันอภิปราย
เล่าสู่กันฟังนะครับ บางทีท่านอาจจะสนใจ
ขอบคุณค่ะ น่าสนใจมาก..
มาแจกหนังสือ"ประสบการณ์จริงบนเนทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" ค่ะ download ได้ที่ :
http://www.scbfoundation.com/news_publish_detail.php?cat_id=6&nid=489
ขอบคุณครับที่มาเยือนและมอบสาระให้ด้วย จะหาเวลาเปิดอ่าน
สำหรับเรื่องเศรษฐกิขพอเพียงนั้น ผมทำร่วมกับเด็กๆ บ้านสร้างสรรค์เด็ก อยู่ที่ย่านรัวสิตครับ ได้ผลพอสมควร เปิดศึกษาเทียบเคียงกันได้นะครับ ในหัวข้อ "ครูหยุยพาเด็กเดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง"