อ๋อย
พิไลลักษณ์ อ๋อย ศรีประดิษฐ์

ลาก่อน...สาวน้อย


ขอให้ผลบุญที่น้องทำมาส่งให้น้องได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี

          ก่อนเดินทางมาจังหวัดเลย เมื่อวันที่ 27 เม.ย.53 ดิฉันขึ้นไปเยี่ยมผู้ป่วยหญิงวัย 16 ปี ที่หอผู้ป่วย มาด้วยอาการไข้สูง และปวดศีรษะมาก เป็นมา 1 วัน เด็กอาการไม่ดี Deep Coma หลับตลอด หลังจากเจาะหลัง ก็ไม่ตื่นอีกเลยผลการเจาะ lumbar puncture พบว่า CSF มีน้ำตาลต่ำมาก และมีโปรตีนสูงเล็กน้อย ย้อม Indian ink ไม่พบ cryptooccus  ผลตรวจ Crypto titer ก็ negative ทำให้สงสัยว่าจะเป็น Bacterial meningitis (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ) และอาจติดเชื้อในสมองด้วย ทำให้แทบไม่มีความหวังว่าผู้ป่วยจะกลับมา

          พยาบาลประจำหอผู้ป่วยบอกว่า"เมื่อวานนี้มายังพูดคุยเสียงดังฟังชัด"

          พยาบาลถามว่า"มีโรคประจำตัวมั้ย"

          ผู้ป่วยตอบเสียงดังว่า “HIV”  

          ทราบภายหลังว่าช่วงสงกรานต์ลุงของผู้ป่วยพาเด็ก ๆ รวมทั้งผู้ป่วยขึ้นรถปิคอัพไปเล่นสาดน้ำตามเทศกาล   แต่คนไข้ของดิฉันไม่แข็งแรงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่าย ที่เป็นเช่นนี้น่าจะติดเชื้อจากน้ำที่เล่น

          เธอติดเชื้อเอชไอวีจากมารดา อยู่กลับมารดาจนถึงชั้น ป.3 มารดาก็เสียชีวิต จึงต้องย้ายจากจังหวัดลำพูนมาอยู่กับบิดาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา  รักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัดในช่วงแรก จน 3-4 ปี หลังบิดาต้องการให้ผู้ป่วยมารับยาใกล้บ้าน คือที่ร.พ.บ้านโพธิ์ ผู้ป่วยรับยาสูตรดื้อยาอยู่ และViral Load สูงเป็นแสนตลอด พบว่าผู้ผ่วยไม่ค่อยกินยา บอกว่ายาเม็ดใหญ่กลืนไม่ลง

          ความสัมพันธ์ ในครอบครัว บิดาของผู้ป่วยมีแฟนใหม่ซึ่งติดเชื้อด้วยกัน ไม่ค่อยได้กลับบ้าน จะอยู่อีกบ้านหนึ่งที่บ่อกุ้ง  ป้าจะทำงานอยู่ต่างจังหวัดกลับมาบ้านวันเสาร์-อาทิตย์ ลุงเขยเป็นคนเลี้ยงดู  ที่น่าเศร้าก็คือทั้งป้าและลุงเขยก็ติดเชื้อเอชไอวีเช่นกัน

          ไม่อยากคิดร้ายเลย ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ป่วย 

          เคยถามผู้ป่วยอ้อม ๆ ว่า “มีใครทำร้ายหรือเปล่า”

          เด็กบอกว่า “ไม่มี แต่ไม่อยากมาอยู่ที่บ้านโพธิ์ อยากไปอยู่ที่ลำพูน”

          และเคยถามผู้ป่วยว่า “อยู่กับลุง ลุงดีกับหนูมั้ย” 

          คำตอบที่ได้“ไม่ค่อยดี ไม่ชอบกัน” 

          ผู้ป่วยไม่ชอบลุงและลุงก็ไม่ชอบผู้ป่วย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทิ้งเด็กไว้ตามลำพังกับลุงเขยที่มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน

          29 เม.ย.53 ช่วงเช้าบิดาของผู้ป่วยโทรศัพท์จากฉะเชิงเทรามาบอกว่าผู้ป่วยเสียชีวิตแล้ว  น่าเสียดายเมื่อเดือนมีนาคมดิฉันเพิ่งไปเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วยจะไปอยู่ที่วัดเพื่อเรียนธรรมะ วันที่ไปเยี่ยมเธอกำลังจะรับรางวัลคะแนนสอบธรรมะยอดเยี่ยม และได้รู้ว่าผู้ป่วยจะสนิทสนมกับชีพราหมณ์  และไปพักอยู่กับชีคนนี้ที่บ้านของชีด้วย  ผู้ป่วยบอกกับชีด้วยว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร ชีก็รับปากว่าจะช่วยดูแลเรื่องการกินยา  แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เพราะเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ขอให้ผลบุญที่น้องทำมาส่งให้น้องได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ร่มเย็นและเป็นสุข

          ป้าอ๋อยจะคิดถึงหนูนะ     30 เม.ย.2553

หมายเลขบันทึก: 355200เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2010 22:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 21:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีค่ะ

  • เศร้าใจนะคะ
  • ขอให้น้องไปสู่ภพที่ดี หมดเวรหมดกรรมเสียที
  • สถาบันครอบครัวในปัจจุบันอ่อนแอมากค่ะ
  • ยากที่จะเยี่ยวยา  ขอขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าบันทึกนี้ค่ะ

ขอบคุณคะครูคิมที่เข้ามาทักทาย  เมื่อวานอ๋อยเพิ่งเดินทางกลับจากจังหวัดเลย โดยขึ้นเครื่องที่สนามบินพิษณุโลก อ่านประวัติครูคิมเลยทราบว่าครูคิมอยู่ที่พิษณุโลกคะ

สำหรับผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยเด็กคนเดียวที่รักษาที่ร.พ.บ้านโพธิ์ ส่วนใหญ่เด็ก ๆ จะรักษาที่ร.พ.ขนาดใหญ่ เพราะมีกุมารแพทย์ ยกเว้นว่าเด็กและครอบครัวต้องการมารักษาร.พ.ระดับอำเภอ ถ้าเด็กและครอบครัวไม่พร้อมกุมารแพทย์ก็จะไม่ส่งเด็กมา เศร้ามากคะ ผู้ป่วยขาดแรงจูงใจในการกินยา ถ้าครอบครัวเข็มแข็งกว่านี้ น่าจะมีแรงสนับสนุนให้เธอกินยาและมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่านี้

ฝากสำหรับทุกท่าน สถาบันครอบครัวมีความสำคัญมากที่สุด ในการผลิตประชากรที่มีคุณภาพ ครอบครัวเป็นพื้นฐานและสิ่งที่ดำรงอยู่ของชีวิตมนุษย์ แต่อย่างที่ครูคิมบอก สถาบันครอบครัวในปัจจุบันอ่อนแอมากค่ะ  ขอให้พ่อและแม่ทุกคนที่ทำให้เด็กคนหนึ่งเกิดขึ้นมารับผิดชอบให้ความรัก เอาใจใส่ อบรมสั่งสอน และที่สำคัญให้เวลากับเขา ในวัยเด็กก็อยากได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่ เมื่อเขาเติบโตขึ้นจะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเขาก็จะมีโลกของเขา แล้วไปตามหาความรักจากคนอื่น เขาก็จะไม่ฟังเราอีกต่อไป

 

สวัสดีค่ะน้องอ๋อย

....พี่มีนักเรียนที่จบป.6 ออกไปแล้ว พ่อกับแม่ได้รับเชื้อ และจากเขาไปแล้ว สามพี่น้องต้องอยู่กันตามลำพัง น่าสงสารมาก แต่พี่สาวคนโตของเขาเห็นครั้งล่าสุด มีท้องอีกแล้ว น่าจะเป็นท้องที่สามของเขาแล้วนะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร....ทุกชีวิตที่ยังเหลืออยู้ต้องดำเนินต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะน้องอ๋อย

เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งต้องมาจากไปก่อนวัยอันควรก็รู้สึกสงสารค่ะ ขอร่วมไว้อาลัยค่ะ

เป็นกำลังใจให้คนทำงานอย่างน้องอ๋อย สู้ๆค่ะ

ขอบคุณคะพี่ปิ่นธิดา      ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์

อ๋อยเคยเข้าไปคุยกับคุณครูของผู้ป่วย คุณครูบอกว่ารู้ว่าเด็กติดเชื้อฯ แต่ไม่เคยพูดคุยกันตรงๆ คอยมองอยู่ห่าง ๆ คิดว่าเด็กน่าจะไม่มีปัญหาอะไร วิ่งเล่นได้ตามปกติ เด็กไม่มีปัญหาแปลกแยก เพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครรังเกียจ และอ๋อยก็ได้เห็นเวลาที่เด็กเล่นหยอกล้อกับเพื่อนๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก มีข้อดีคือเด็กไม่ต้องทรมาน แต่ทีมผู้ดูแลเศร้าจัง แง แง

ขอบคุณคะพี่อุ้ม สำหรับกำลังใจ มีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่าCounsellor ให้บริการแล้วต้องได้รับการCounselling บ้างไม่งั้นจะเกิด Depress อ๋อยเชื่อแล้วคะ

ขอบคุณน้องต้นเฟิร์น แทนน้องด้วยคะ

ขอบคุณคะคุณบ่าวบ้านนอก

ได้อ่านประวัติของคุณบ่าวบ้านนอก ให้ความรู้สึกที่ดีมาก ขอชื่นชมคะ ขอยกนิ้วหัวแม่มือให้ 2 ข้างเลย

ทำไมชีวิตน้องเค้าน่าสงสารแบบนี้ เศร้า

ชาติหน้าขอให้น้องเขาเกิดมามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ นะสาวน้อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท