แผ่นปลอม เสียงปลอม


ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่มีใครปฏิเสธได้ ดนตรีเป็นของมนุษย์ทุกชนชั้นไม่ว่าจะจนหรือรวย แดงหรือเหลือง

 

 

ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่มีใครปฏิเสธได้ ดนตรีเป็นของมนุษย์ทุกชนชั้นไม่ว่าจะจนหรือรวย แดงหรือเหลือง ทุกคนล้วนชื่นชอบและต่างก็มีความสุขกับการเสพบทเพลงต่าง ๆ ตามความนิยมชมชอบโดยส่วนตัว

    เมื่อ 100 กว่าปีก่อนนั้นการฟังดนตรีเกิดขึ้นจากการบรรเลงให้ฟังกันสด ๆ ไม่มีแผ่นเสียง เครื่องเล่นเช่นทุกวันนี้ ผู้ประพันธ์ที่ต้องการแสดงผลงานของตนเองนั้นจำจะต้องเปิดการแสดงขึ้น เพื่อที่จะให้ผู้ที่ชื่นชอบได้เข้ามาสัมผัสกับความสุนทรียอันเกิดจากเสียงที่กลั่นกรองจากความรู้สึกนึกคิดของผู้ประพันธ์และผู้บรรเลง นี่เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประพันธ์กับผู้ฟังได้สื่อสารซึ่งกันและกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เกิดจากมันสมองของมนุษย์ ทุกวันนี้เรามีระบบการบันทึกเสียง  มีสื่อในการรับฟังดนตรี ทั้งจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง วิทยุ โทรทัศน์ เพื่อให้ผู้ฟังได้เสพงานตามเวลา และสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามที่ตนเองต้องการโดยไม่ต้องรอให้ใครมาแสดงให้ฟังกันแบบสด ๆ อีกต่อไป

   เมื่อความต้องการของผู้บริโภคดนตรีมีสูงขึ้นการผลิตผลงานทางดนตรีก็เพิ่มขึ้นมากมายเช่นเดียวกัน เรามีเพลงให้ฟังกันมากขึ้น เรามีศิลปินเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญการฟังเพลงของเรานั้นสะดวกมากยิ่งขึ้น เครื่องเล่น Mp 3 เครื่องเล็ก ๆ เครื่องเดียวก็สามารถบรรจุเพลงได้กว่า 200 เพลง มันเป็นวิวัฒนาการฟังเพลงของมนุษย์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วนี่เองที่ส่งผลกระทบต่อวงการดนตรีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งที่เกิดจากตัวผู้ผลิตดนตรีเอง และเกิดจากผู้บริโภค

แผ่นปลอม และเสียงปลอม นี่เองคือผลผลิตแห่งความมักง่าย อันเกิดจากบุคคลทั้งสองกลุ่มดังได้กล่าวไปแล้ว

    คำว่าแผ่นปลอมในที่นี้หมายถึง แผ่น CD เพลงที่คัดลอกมาจากต้นฉบับซึ่งมีคุณภาพเสียงด้อยกว่า แผ่นหนึ่งมีเพลงบรรจุในแผ่นหลายเพลง เจ้าของผลงานไม้ได้เป็นผู้รับผลประโยชน์จากการจำหน่ายแต่อย่างใด ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของแผ่นปลอมก็คือราคาในการซื้อขายย่อมเยากว่าแผ่นจริงมาก จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ผู้บริโภคเลือกที่จะหยิบแผ่นปลอม แทนการหยิบแผ่นจริง 

    คำว่าเสียงปลอมในที่นี้หมายถึง เสียงดนตรีอันมิได้เกิดจากเสียงดนตรีชนิดนั้นจริง ๆ เป็นเพียงแต่การจำลองเสียงเครื่องดนตรีชิ้นใดชิ้นหนึ่งด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คุณภาพของเสียงด้อยกว่าเสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีจริง แต่มีความสะดวกในการผลิตงานดนตรีเป็นอย่างมาก คือไม่ต้องใช้นักดนตรีมาบรรเลงเครื่องดนตรี ไม่มีการต่อรองราคาค่าตัว แก้ไขง่าย และที่สำคัญรวดเร็ว ประหยัด จึงเป็นที่นิยมของผู้ผลิตในปัจจุบัน

    หากจะให้พิจารณาถึงข้อดีของ แผ่นปลอม และเสียงปลอมแล้ว เห็นจะตรงกันในข้อที่ว่า สะดวก รวดเร็ว ประหยัด เพียงเท่านี้เอง แต่เมื่อพิจารณาถึงผลเสีย และผลกระทบแล้วมันเกี่ยวข้องถึงประเทศชาติ การล่มสลายของวัฒนธรรม ผู้เขียนมิได้กล่าวอ้างจนเกินจริง แต่จะบรรยายให้เห็นถึงผลเสีย ดังต่อไปนี้

แผ่นปลอม มีการย่อไฟล์จากต้นฉบับให้เล็กลงเพื่อที่จะได้กินพื้นที่น้อยในการจะบรรจุแผ่น CDหรือเครื่องเล่น Mp3ให้ได้หลายเพลง ดังนั้นคุณภาพของเสียงเดิมก็จะถูกตัดทอนหายไปด้วย

แผ่นปลอม ทำให้เจ้าของผลงานไม่ได้รับผลประโยชน์จากสติปัญญาและฝีมือของตนเอง อันเป็นเหตุให้เกิดความท้อแท้ที่จะผลิตงานดนตรีอีกต่อไป (ศิลปินบางคนถึงกับหันไปประกอบอาชีพอื่นเนื่องจากไม่มีรายได้จากจากผลงานดนตรีของตน ทั้งที่ผลงานนั้นได้รับความนิยม) 

แผ่นปลอม ทำให้ บริษัทผู้ผลิต ผู้ จัดจำหน่ายขาดทุน( นับเป็นปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง) เมื่อผู้ผลิตขาดทุนจึงจำเป็นที่ต้องลดต้นทุนในการผลิตโดยการใช้เสียงเครื่องดนตรีปลอมแทนเสียงจริง

แผ่นปลอม ไม่มีคุณค่าทางจิตใจ นึกดูว่า แผ่นปลอมหนึ่งแผ่นมีเพลงอยู่ 200กว่าเพลง ผู้ชื้อชอบจริง ๆ และฟังจริง ๆจะมีถึง 20 เพลงหรือไม่ อีกประการหนึ่งลองเปรียบเทียบดูว่า ระหว่างการซื้อแผ่นปลอมไปเป็นของฝากให้คนที่คุณรัก กับการซื้อแผ่นจริง อย่างไหนที่ผู้รับจะซาบซึ้ง และสุขใจมากกว่ากัน

เสียงปลอม ทำให้นักดนตรีบันทึกเสียงฝีมือดีต้องตกงาน

เสียงปลอม ทำให้นักดนตรีรุ่นใหม่ ๆไม่มีโอกาสบันทึกเสียง (การบันทึกเสียงนับเป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่ช่วยให้นักดนตรีพัฒนาฝีมือตนเองให้ดีขึ้น)

เสียงปลอม ขาดบรรยากาศของเสียง  ขาดจิตวิญญาณของผู้บรรเลง ให้นึกดูเอาง่าย ๆ อย่างนี้เถิดว่า วิกผม(ผมปลอม) ที่ใส่ปิดบังความล้านเตียนของศีรษะนั้น แม้จะเหมือนผมจริงขนาดไหนแต่ก็ไม่อาจให้ความรู้สึกของผมจริง ๆ  ได้ เพราะวิกผมไม่มีรากผมที่ยึดติดเชื่อมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับศีรษะ 

    นี่เป็นเพียงผลเสียของแผ่นปลอม เสียงปลอม ที่พอจะบรรยายเป็นตัวอักษรได้ แต่ถ้าผู้อ่านได้นึกไตร่ตรองดูให้ดีจะพบว่าผลเสียทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้นล้วนมี ลูกโซ่แห่งความเสื่อมถอย สอดคล้องและสัมพันธ์ต่อกันอย่างแยกไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ดนตรี

    เมื่อมีแผ่นปลอม ก็มีเสียงปลอม วนเวียนกันอยู่เช่นนี้ วงการดนตรีในบ้านนี้เมืองนี้ไม่ใช่แค่ย่ำอยู่กับที่ หากแต่กำลังถอยหลังลงคลอง(คลองแสนแสบที่แม้แต่ปลาก็หาอาศัยอยู่ได้ไม่)

    ถึงเวลาหรือยังที่ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคจะตระหนักถึงการพัฒนาดนตรีกันจริง ๆ  ไม่ใช่แค่ผลิตให้ได้จำนวนมาก ๆ ซื้อให้ได้ในราคาถูกแต่ได้เพลงจำนวนมาก  หากแต่เป็นความจริงใจที่มนุษย์พึงมีต่อมนุษย์ เลิกปลอมทั้งแผ่น และเสียง เพื่อที่มนุษย์จะได้มีโลกจริง ๆ ให้อาศัย ไม่ใช่โลกปลอม ๆ ใบเดิม

หมายเลขบันทึก: 355061เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2010 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท