เมื่อวันที่ 22
มิถุนายน 2549 ทีมงาน
KM
มรย. ได้จัดกิจกรรม COP
ครั้งที่ 2 เพื่อสะท้อนปัญหากระบวนการสรรหา
บรรจุ แต่งตั้งบคุลากร
ส่วนของผู้ใช้บุคลากร โดยมีกลุ่มเป้าหมายในการจัดกิจกรรม
COP 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มผู้บริหาร
ได้แก่ รองอธิการบดี
คณบดีทุกคณะ
2. กลุ่มสายสนับสนุน ได้แก่
ผฮ.สำนักต่าง ๆ ผอ.กอง
และหัวหน้าสำนักงาน
3. กลุ่มวิชาการ ได้แก่
ผู้ประสานสาขาของคณะต่าง ๆ ในการจัดกิจกรรม
COP
ครั้งนี้ สามารถสรุปประเด็นปัญหาและแนวทางแก้ไข
ได้ดังนี้
กลุ่มผู้บริหาร
การสะท้อนปัญหากระบวนการสรรหา
บรรจุ แต่งตั้งบุคลากรของ มรย.
ด้านสายผู้สอน/อาจารย์
1. แผนการสรรหาอาจารย์ผู้สอนไม่ชัดเจน
ไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาของ มรย.
ระบุไม่ได้ว่าจะบรรจุสาขาอะไร และจะบรรจุในช่วงปีใด
2. อัตรากำลังของข้าราชการ
และพนักงานมีปัญหาด้าน Demand
Supply
3.
การสังกัดของอาจารย์บางสาขาไม่ตรงกับวุฒิที่สำเร็จมา
4.
จำนวนอาจารย์ผู้สอนกับแผนการเรียนการสอนไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง
5.
แผนการจัดการเรียนการสอนของหลักสูตรไม่เฉลี่ยภาระงานของอาจารย์ให้เหมาะสม
และชัดเจน
6. การสรรหา อาจารย์พิเศษ /อัตราจ้าง ล่าช้าเกินไป
7. ขาดคนเก่งที่มีความรู้
ความสามารถมาเข้าสู่การสรรหา เนื่องจากมีสถานการณ์ไม่ปลอดภัยในชีวิต
และทรัพย์สิน และ
ระบบการให้สวัสดิการและสิ่งจูงใจไม่ดึงดูดให้เข้ามาสู่ระบบงานของหน่วยงาน
8.
ไม่มีการดำเนินการเกลี่ยงานสอนของรายวิชาต่างๆ
ให้กับอาจารย์บางสาขา จึงทำให้ภาระงานสอนของสาขาต่างๆ ไม่ทัดเทียมกัน
ไม่ได้สัดส่วนกัน
(แต่การเกลี่ยต้องคำนึงถึงคุณภาพการเรียนการสอนด้วย)
9.
อาจารย์บางสาขาไม่ได้ถูกนำไปเข้าเป็นศักยภาพของหลักสูตรตามเกณฑ์ของ
สกอ. ดังนั้น
จึงต้องให้อาจารย์แต่ละคนเร่งพัฒนาตนเองให้เข้าเกณฑ์คุณสมบัติของหลักสูตร
10. แผนการรับนักศึกษาไม่นิ่ง
เปลี่ยนแปลงให้รับนักศึกษาเพิ่มขึ้น ตามแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก
เช่นการเมือง และสังคม
11.
ขาดการสนับสนุนงบจัดการศึกษาจากรัฐบาลที่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่
มรย. ต้องเปิดรับ นักศึกษาเพิ่มจากแผนที่วางไว้
เพราะงบประมาณให้มาเท่าเดิมแต่ต้องใช้จ่ายให้กับ นักศึกษา
ครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นด้วย
12. การปฏิบัติหน้าที่ของอาจารย์แต่ละคน
ไม่สอดคล้องและไม่ครอบคลุมพันธกิจทุกด้านของสถาบัน
ขาดการกำหนดภาระงานของอาจารย์ให้คลุมพันธกิจทุกด้าน
(ควรแก้ให้เกณฑ์ภาระงานครอบคลุมพันธกิจ)
13.
วิธีการเทคนิคในกระบวนการต่อรอง หรือจัดหาอัตรากำลังของมรย.
กับส่วนกลางไม่เป็นเชิงรุก
และไม่นำสถานการณ์มาเป็นจุดต่อรองเหมือนราชการอื่นๆ
ด้านสายสนับสนุน /ลูกจ้าง
เจ้าหน้าที่
ลูกจ้าง
เจ้าหน้าที่ เมื่อเข้าสู่ระบบการทำงานของมรย. ระยะเวลาหนึ่ง
จะทำงานเป็น และได้ผลดี มักจะลาออกไปทำงานที่อื่น เช่น
ไปสอบบรรจุเป็นข้าราชการของหน่วยงานอื่นๆ ประเด็นปัญหาย่อยๆ ได้แก่
1. การสรรหาของตำแหน่งลูกจ้างไม่เหมาะสม
ไม่ได้มาตรฐาน
2. ลูกจ้างคิดงานไม่เป็น ทำงาน
Rountine
มักจะรอการสั่งการจากหัวหน้า
ไม่สามารถคัดเลือกคนเก่ง ทีความรู้มาทำงานได้
แนวทางการพัฒนาภาพรวม
1.
การจัดหา/จัดจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษมาช่วยทำงานเฉพาะกิจ เช่น
เรื่องแผน กฎหมายของ มรย.
2.
การประชุม อบรม
สัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนและปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานให้เพิ่มมากขึ้น
3. การประชาสัมพันธ์ต้องให้ครอบคลุม
และเป็นสากล หลากหลาย
4. อาจารย์ต้องพัฒนาตนเอง
ไม่หยุดนิ่ง ด้านวิชาการ
เพราะคุณภาพบัณฑิตเป็นความรับผิดชอบของอาจารย์
5. ต้องทำแผนพัฒนาอาจารย์ระยะสั้น และระยะยาว
ของ มรย.
6. ต้องรื้อ
สะสางกฎระเบียบของบุคลากรให้เป็นแนวทางเดียวกัน
7.
การออกข้อสอบในกระบวนการสรรหาลูกจ้าง ควรเป็นแบบ Logic
เพื่อให้ได้คนเก่ง
คิดเป็น มาทำงาน
8. กระบวนการสอบ
และข้อสอบไม่เอื้อให้ได้คนเก่งมาทำงาน
ควรปรับสัดส่วนการสอบของความรู้ทั่วไปกับความรู้เฉพาะด้านให้เหมาะสมกับตำแหน่งต่าง
ๆและ Job Description
9. ควรมีระบบพี่เลี้ยงมาใช้อย่างจริงจัง
เพื่อให้คนใหม่ทำงานได้ดี
10. ควรมีการปฐมนิเทศ
ในส่วนเนื้อหาความเป็นครู
11. จัดหามาตรการการสร้างขวัญ
และแรงจูงใจ/สิ่งจูงใจให้กับอาจารย์ และลูกจ้าง
แบบเชิงรุก
กลุ่มสายสนับสนุน
ปัญหาในกระบวนการสรรหาฯ
: ขาราชการ พนักงาน ลูกจ้าง
ปัญหา
ข้อเสนอแนะ
1.ใช้ระยะเวลานาน
จัดระบบการสอบ
ขึ้นบัญชีสํารอง
2.
การประชาสัมพันธไม่ทั่วถึง
ประชาสัมพันธ์ให
ครอบคลุมทุกสื่อ
และมีเวลานาน
3.วิธีการสรรหาเป็นการรวมศูนย
ใหส่วนราชการเทียบ
เท่าคณะดําเนินการ
4.ข้อสอบยาก,เหมือนกันในทุกตำแหน่ง
จัดทําคลังข้อสอบ
5.ไม่ทราบกระบวนงาน(work
flow)
ผู้ที่รับผิดชอบจัดทํา
กระบวนงานในการ
สรรหา เช่น ตําแหน่ง
ข้าราชการที่ว่าง
การดูแลบุคลากร
1.ขาดความมั่นคงในการทํางานระบบสัญญาจ้างมากกว่า
1 ปี
2.ไม่มีการเลื่อนตําแหน่ง,ปรับเงินเดือนออกระเบียบการปรับเงินเดือน
มหาวิทยาลัยควรศึกษาระบบการสรรหา บรรจุ แต่งตั้งของมหาวิทยาลัยอื่น
มีลักษณะใกลเคียงกับมรย.และมีระบบงานที่ดีแล้วนํามาประยุกต์
ออกเป็นระเบียบการสรรหาฯของ
มรย.
แนวทางการพัฒนาบุคลากร
1.
ปฐมนิเทศบุคลากรใหม
เพื่อให้เข้าใจแนวทางในการปฏิบัติงาน
กฎระเบียบ
2 .
ฝึกอบรมทักษะในการปฏิบัติงานเบื้องต้นและที่จําเป็นในการปฏิบัติงาน
3.
ส่งเสริมการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
4.
จัดให้มีการแข่งขันการปฏิบัติงานในแต่ละตําแหน่ง
เพื่อให้มี BEST PRACTICE
5.
จัดสรรงบประมาณให้พอเพียงและครอบคลุมทุกระดับ
6.
จัดห้องทํางานและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในการทํางาน
7.
พัฒนาหัวหน้างานหรือผู้บริหารในแต่ละระดับ
8.
จัดทํายุทธศาสตรการพัฒนาบุคลากรที่ชัดเจน
กลุ่มวิชาการ (ตัวแทนผู้ประสานสาขา)
ปัญหาในกระบวนการสรรหา
บรรจุ แต่งตั้ง
1.
มหาวิทยาลัยไม่มีการกำหนดเป้าหมายในการจัดการศึกษาที่ชัดเจน
2.
มหาวิทยาลัยไม่มีวิธีการสรรหาบุคลากรด้วยวิธีการที่หลากหลาย
เช่น การให้ทุนแก่นักเรียน
3.
กระบวนการสรรหาไม่ชัดเจน
-
การกำหนดอัตรากำลัง
-
ตำแหน่ง
-
ภาระงาน
-
ไม่มีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างสมบูรณ์
4.
มหาวิทยาลัยไม่มีการสร้างแรงจูงใจให้มีผู้มาสมัครมาก
ๆ
และไม่มีการจัดการฐานข้อมูลของผู้สมัครให้เป็นประโยชน์
5.
ระบบการคัดเลือกขาดความยืดหยุ่น
6.
มหาวิทยาลัยไม่มีการปฐมนิเทศอาจารย์ใหม่
โดยเฉพาะอาจารย์ที่ไม่จบสายครู7.
การจัดการระบบอาจารย์พี่เลี้ยงไม่มีประสิทธิภาพ
8.
ระบบการประเมินผลขาดประสิทธิภาพ
9.
บุคลากรขาดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
เช่น ระบบการเบิกจ่ายล่าช้ามาก ทุนการศึกษาต่อพิจารณาช้า
การสนับสนุนการทำผลงานทางวิชาการ
10.
ภาระงานสอนของอาจารย์ประจำบางสาขาวิชามีมากเกินไปแต่ไม่ได้ตำแหน่งอาจารย์อัตราจ้าง
แนวทางการแก้ไข
1.
มหาวิทยาลัยต้องมีการกำหนดเป้าหมายในการจัดการศึกษาให้ชัดเจน
โดย การ SWOT ตนเอง
สำรวจความต้องการของตลาด
และปรับปรุงพัฒนา
2.
มหาวิทยาลัยต้องมีวิธีการสรรหาบุคลากรด้วยวิธีการที่หลากหลาย
เช่น การให้ทุนการศึกษา
3.
กระบวนก่อนการสรรหาต้องชัดเจน
เช่น
-
การกำหนดอัตรากำลัง
-
ตำแหน่ง
-
ภาระงาน
-
ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างสมบูรณ์
4.
มหาวิทยาลัยต้องมีการสร้างแรงจูงใจให้มีผู้มาสมัครจำนวนมาก
และมีการจัดการฐานข้อมูลของผู้สมัครให้เป็นประโยชน์ เช่น
เมื่อมีการเปิดสอบให้ส่งข้อมูลให้แก่บุคคลดังกล่าวด้วย
(การแจ้งความจำนงการสมัครสอบไว้ล่วงหน้า)
5.
ระบบการคัดเลือกต้องมีความยืดหยุ่น
เช่น วิชาชีพครูควรสอบเฉพาะบางสาขาวิชา
หรือลดน้ำหนักของวิชานี้
6.
มหาวิทยาลัยต้องมีการปฐมนิเทศและมีคู่มือสำหรับอาจารย์ใหม่
7.
ต้องมีการจัดการระบบอาจารย์พี่เลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น ให้สาขาวิชาเป็นผู้เสนอแต่งตั้งอาจารย์พี่เลี้ยง
และคิดภาระงานให้ด้วย
8.
ระบบการประเมินผลต้องมีประสิทธิภาพ
และนำผลการประเมินมาปรับปรุงให้การปฏิบัติงานดีขึ้น
9.
สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
เช่น การเบิกจ่ายต้องตรงเวลาจัดสรรทุนการศึกษาต่อให้รวดเร็ว
ควรมีการกระตุ้นให้อาจารย์ทำผลงานทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ เช่น
ให้มีพี่เลี้ยงช่วยเหลือในการทำผลงาน มีผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา
และการสนับสนุนอยากให้มีมากกว่านี้