ครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทยที่มีความคิดแตกต่าง(คิดถึงอดีต)


การเมือง การปกครอง กฎหมาย ย่อมมีกฎกติกาให้สังคมพึงคิดและนำไปปฏิบัติ

        

 

ตั้งแต่เกิดมาบนโลกใบนี้ วันนี้ข้าพเจ้ารู้คิดถึงวันที่ผ่านมาในอดีตซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงกับชีวิตที่ข้าพเจ้าเกิดมาบนพื้นแผ่นดินไทย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเด็กบ้านนอก เป็นคนอำเภอเชียรใหญ่(ปัจจุบันอำเภอเฉลิมพระเกียรติ)จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่จำความได้มีความสุขกับความรักความอบอุ่นในเครื่อญาติพี่น้อง ปู่ย่า ตายาย และการมีน้ำใจของคนในชุมชน บรรยากาศแห่งความสุขยังจำไว้ไม่เคยที่ลืมเลือน ไม่ว่าเหตุการณ์ต่างๆในอดีต และสิ่งที่ประทับใจอย่างมากๆคือความรักความสามัคคีของคนในหมู่บ้าน หรือญาติๆเพื่อบ้านล้วนแล้วแต่มีความรักความช่วยเหลือกันอย่างจริงใจโดยไม่หวังผลตอบแทนแม้แต่อย่างใด เป็นชีวิตชาวบ้านโดยแท้ ในอดีตไม่มีไฟฟ้าใช้ต้องตามตะเกียง ไม่มีรองเท้าใส่ไปโรงเรียน กว่าจะเรียนหนังสือจบปริญญาต้องอดทนและทนอด ต้องหยุดพักเพราะแม่หาเงินมาไม่ทันคนรุ่งหลังคงไม่เข้าใจวิถีชีวิตคนในอดีต แต่ความสุขของชาวบ้านมีมากเหลือหลาย เช่นมีงานอะไรก็แล้วแต่คนในหมู่บ้านต้องช่วยกันเตรียมงานกันหลายวันแม้กระทั้งหากมี คนตายในหมู่บ้านชาวบ้านต้องช่วยกันเลือยไม้เพื่อเอาไม้มาทำโลงศพ เด็กปัจจุบัน หรือคนชุมชนเมืองคงไม่เข้าใจ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนที่มีอายุใกล้ 50 ปีคงรู้ได้ในอดีตคนไทยเรามีวิถีชีวิตที่น่ารัก ไม่มีการแย่งชิงอำนาจกันเหมือนปัจจบันมีแต่ช่วยเหมือกัน มีแต่ช่วยกันต่อสู้กับข้าศึกเพื่อรักษาพื้นแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลาน ข้าพเจ้าเคยเรียนวิชาประวัติศาสตร์ยังมีความรู้ศึกเลยว่าเสียดายที่เกิดมาไม่ทันจะได้ไปช่วยสู่รบกับข้าศึก และสำนึกมาโดยตลอดว่าจะต้องรักชาติ และมีความสุขมากเมื่อคนไทยทำอะก็แล้วแต่เมื่อชนะคนต่างชาติด้วยความดีและความสามารถ คิดแล้วไม่อยากให้ความเจริญเกิดขึ้นเลยอยากให้อยู่แบบโบราณเพราะคนโบราณคนไทยไม่เคยทำลายกันมีแต่ ช่วยเหลือกัน ไม่มีอำนาจใดมาครอบงำประชาชนให้แตกแยกเป็นฝ่ายๆมีแต่ผู้ปกครองเพื่อประชาชนมีสุข ไม่ว่าสมัยไหนในอดีตผู้มีอำนาจคิดแต่จะช่วยประชาชน

         แต่มาวันนี้อะไรเกิดขึ้นกับคนไทยคิดดู.........ขออนุญาตหยุดก่อนครับแล้วจะมาเขียนความรู้สึกต่อตอนต่อไปครับ ใครคิดถึงอดีตเรื่องที่ดีของคนโบราณนำมาช่วยกันบอกเล่าคนรุ่งหลังด้วยดีครับ

หมายเลขบันทึก: 353569เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2010 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

เห็นภาพนวัตกรรมของชาวหัวหิน ที่พยายามอนุรักษ์อดีตของพวกเขาไว้ที่เพลินวาน

ก็ดีไปอีกแบบถึงแม้จะจัดสร้างและจำลองขึ้นใหม่...ก็รออ่านตอนต่อไปค่ะ

สว้สดีค่ะ

อ่านบันทึกดีๆนี้อดไม่ได้ที่จะแสดงความเห็นค่ะ

มาจากสกลนครเป็นบ้านนอกค่ะ ไม่มีไฟฟ้า วัยเด็กอ่านหนังสือใช้ตะเกียง ก้มอ่านจนไฟไหม้ผม บรรยากาศบ้านนอก คนรักกัน มีลงแขกนวดข้าว มีการแบ่งปันอาหารกัน เอาแกงใส่ถ้วยมาให้คนข้างบ้าน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆแล้วเห็นความต่างอย่างเห็นได้ชัดกับปัจจุบันค่ะ

อยากให้มีบรรยากาศความสงบ ความรัก เช่นเดิมในบ้านเมืองเราค่ะ

สวัสดีค่ะเรื่องราวในอดีต อ่านแล้วรู้สึกดีๆ กับวิถีชีวิต วิถีประชาที่ทรงคุณค่าค่ะ

... ความคิดทุกๆ ด้านแตกต่างกันไปได้ หากแต่เรื่องสถาบันหลัก ความถูกต้อง ดีงาม

ควรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างมีนัยสำคัญถึง จุดยืน ค่านิยม ทัศนคติที่ชัดเจนค่ะ

ขอขอบคุณทุกท่านทุกคนที่แวะมาทักทายแสดงความคิดเห็น

P ดีครับไปเที่ยวเพลินวานคิดถึงอดีตสิ่งที่ดีๆ

P ลงแขกเกี่ยวข้าวสนุกมากๆ(ทางภาคใต้เขาเรียกว่าออกปากเก็บข้าวครับ)มองเห็นได้ซึ่งความรักสามัคคี

P ในอดีตวิถีชีวิตคนบ้านนอกรักกันสามัคคีกันจริงๆเป็นวิถีไทยแท้แต่ปัจจุบันอาจลดน้อยลงไปเพราะการเมืองนำพาก็ว่าได้ เราต้องช่วนกันแก้นะไขครับ

 

ก๊อกๆๆ ลุงเดชา......ไม่รู้ว่าทำไม..เลือดรักประเทศไทย..มันขึ้นหน้าค่ะ

ร่วมกันสมานสามัคคีน่ะค่ะ..love Love..

 ขอบคุณครับ ขอให้กำลังใจคนรักชาติจงเจริญครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท